โฟกัสพระเครื่อง/โคมคำ/เหรียญพระพุทธบาท 2461 สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร)

โฟกัสพระเครื่อง/โคมคำ [email protected]

เหรียญพระพุทธบาท 2461

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ)

วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี

 

“สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์” (เจริญ ญาณวโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ ปูชนียาจารย์สำคัญ ผู้มีบทบาทและคุณูปการมากมายแก่วงการสงฆ์อีกรูป ดำรงตำแหน่งสำคัญในการปกครองคณะสงฆ์ไทย เช่น สังฆนายก เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เป็นต้น

ในปี พ.ศ.2461 ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมไตรโลกาจารย์ อนุญาตให้จัดสร้างเหรียญพระพุทธบาท เพื่อสมนาคุณให้แก่ผู้ร่วมการกุศลงานนมัสการรอยพระพุทธบาท วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี

ครั้นวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2461 ตรงกับวันจันทร์-พุธ ขึ้น 10-12 ค่ำ เดือน 3 รวม 3 วัน 3 คืน ประกอบพิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระพุทธบาท วัดเขาบางทราย ที่พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส

เมื่อถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2461 ตรงกับกลางเดือน 3 จัดงานนมัสการพระพุทธบาทวัดเขาบางทราย จึงมอบให้แก่ผู้เข้าร่วมงานนมัสการ

จัดสร้างเป็น 2 ขนาด ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ สร้างเป็นหลายเนื้อด้วยกัน อาทิ เนื้อเงิน เนื้อเงินกะไหล่ทอง เนื้อสำริดหรือนวโลหะ และเนื้อทองแดง เป็นต้น

ลักษณะกลม หูเชื่อม ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางเป็นพระพุทธรูป ล้อมรอบด้วยเม็ดไข่ปลา 16 เม็ด มีอักขระ 8 ตัว ล้อมรอบเม็ดไข่ปลา

ด้านหลังเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธบาท ล้อมรอบด้วยเม็ดไข่ปลา 16 เม็ด และมีอักขระ 8 ตัว ล้อมรอบเม็ดไข่ปลาเช่นกัน

จัดเป็นเหรียญยุคเก่าที่มีเอกลักษณ์และมีค่านิยมสูง

สำหรับวัดเขาบางทราย เป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา

ปูชนียสถานที่สำคัญ อาทิ พระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถ หล่อขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ พุทธลักษณะงดงาม นอกจากนี้ ยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองบนหินอ่อน ซึ่งมีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา

เหรียญพระพุทธบาท วัดเขาบางทราย (หน้า-หลัง)

 

มีนามเดิมว่า เจริญ สุขบท เกิดเมื่อวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2415 อยู่ที่ ต.ตลาดกลาง อ.บางปลาสร้อย จ.ชลบุรี บิดา-มารดาชื่อนายทองสุขและนางย่าง สุขบท

อายุ 8 ปี เข้าศึกษาในสำนักของพระชลโธปมคุณมุนี (พุฒ ปุณฺณโก) วัดเขาบางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี

อายุ 12 ปี เข้าพิธีบรรพชา ที่ศาลาในสวนของย่า ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีพระชลโธปมคุณมุนี (พุฒ ปุณฺณโก) เป็นพระอุปัชฌาย์

ครั้นบรรพชา กลับมาเล่าเรียนที่วัดเขาบางทรายสืบต่ออีก กระทั่งอายุ 14 ปี เข้าศึกษาพระปริยัติธรรม อยู่ในสำนักพระครูวินัยธร (ฉาย) ฐานานุกรมของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร วัดราชบพิธฯ

อายุครบ 20 ปี กลับไปอุปสมบทที่วัดเขาบางทราย โดยพระชลโธปมคุณมุนี (พุฒ ปุณฺณโก) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า ญาณวโร

เดินทางกลับเข้าจังหวัดพระนคร อยู่วัดกันมาตุยาราม เพื่อความสะดวกในการศึกษา ด้วยใกล้ที่อยู่ของพระยาธรรมปรีชา (บุญ) ผู้เป็นอาจารย์สอนพระปริยัติธรรม เรียนอยู่ 4 ปีเศษ ต่อมาไปเรียนในสำนักท่านเจ้าคุณพระศาสนโศภณ (อหึสโก อ่อน) แต่ครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระเทพกวี วัดพิชัยญาติการาม เรียนอยู่ 3 เดือนเศษ ถึงปีมะแม พ.ศ.2438 เข้าสอบพระปริยัติธรรมในมหามกุฏราชวิทยาลัย โดยลำดับจนถึงชั้นเปรียญตรี เทียบ 4 ประโยค

ปีวอก พ.ศ.2439 จึงมาอยู่วัดเทพศิรินทราวาส เพื่อเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ในสำนักสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เมื่อยังดำรงพระยศเป็นกรมหมื่น เป็นพระอาจารย์ ในปีนั้นเข้าสอบพระปริยัติธรรมในมหามกุฏราชวิทยาลัยได้โดยลำดับ จนถึงชั้นเปรียญเอก เทียบ 7 ประโยค ได้รับรางวัลที่ 1 ทุกประโยคตั้งแต่ชั้นต้นจนถึงชั้นที่สุด และได้รับตำแหน่งเป็นครูเอกโรงเรียนภาษาบาลี วัดเทพศิรินทราวาสสืบมา

ถึงปีจอ พ.ศ.2441 มีพรรษา 7 อายุเข้า 27 ปี ทรงตั้งเป็นพระราชาคณะที่ พระอมราภิรักขิต โปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้อำนวยการศึกษา ในมณฑลปราจีนบุรี

และในปีเดียวกัน วันที่ 22 มกราคม สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ทรงตั้งให้เป็นผู้กำกับวัดสัมพันธวงศ์อีกตำแหน่งหนึ่ง

ถึงวันพุธที่ 25 มกราคม 2441 หลังจากที่หม่อมเจ้าพระศรีสุคตคัตยานุวัตร เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสในขณะนั้นทูลลาออกจากเจ้าอาวาส เพื่อจะลาผนวชในปลายปี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส

 

ครั้นเมื่อเริ่มรับหน้าที่เจ้าอาวาสนั้น มีภิกษุที่อยู่ประจำวัด 46 รูป สามเณร 30 รูป ในการรับอุปสมบทกุลบุตรนั้น โดยที่มีพรรษา 7 เหตุนี้ในการอุปสมบทกรรม จึงเป็นแต่พระอุปสัมปทาจารย์ เพราะมีพรรษายุกาลยังไม่ถึงองค์กำหนดที่ควรจะเป็นพระอุปัชฌายะได้ ในระยะนี้ จึงได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จมาเป็นพระอุปัชฌายะประจำ

ลำดับสมณศักดิ์ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2441 เป็นพระราชาคณะที่ พระอมราภิรักขิต

วันที่ 25 พฤษภาคม 2445 เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่ พระราชมุนี

วันที่ 6 พฤษภาคม 2449 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพกวี

วันที่ 25 มกราคม 2453 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมไตรโลกาจารย์

วันที่ 24 กันยายน 2464 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองคณะธรรมยุติกนิกาย ที่ พระสาสนโสภณ

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2471 เป็นสมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ที่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2441 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส

พ.ศ.2445 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะมณฑลปราจิณบุรี

พ.ศ.2467 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะมณฑลปราจิณและมณฑลจันทบุรี

พ.ศ.2469 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการในราชบัณฑิตยสภา

พ.ศ.2476 ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการมหาเถรสมาคม

พ.ศ.2486 ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสังฆสภา

พ.ศ.2489 ได้รับแต่งตั้งเป็นสังฆนายก

พ.ศ.2493 ได้รับแต่งตั้งเป็นสังฆนายก สมัยที่ 2

อาพาธด้วยโรคเนื้องอกที่ตับ ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน 2494 เวลา 10.00 น. ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 2 มีนาคม 2495 ณ สุสานหลวงวัดเทพศิรินทราวาส