
ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 พฤศจิกายน 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
สุจิตต์
‘มหัศจรรย์มหาศิลาแลง’
เมืองกำแพงเพชร
โดยเจ้านครอินทร์ รัฐสุพรรณภูมิ
เจ้านครอินทร์เสวยราชย์เมืองกำแพงเพชร [ขณะนั้นยังไม่ได้ครองรัฐอยุธยา] มีหลักฐานบอกไว้ในจารึกกฎหมายลักษณะโจร พบในเมืองเก่าสุโขทัย
จารึกบอกไว้ตอนต้นว่า พ.ศ.1940 เสด็จขึ้นเสวยราชย์ ทำพิธีราชาภิเษกที่เมือง “กำแพงเพชรบุรีศรีวิมลาสน์” ซึ่งเป็น “แดนพระธรรมราชสีมา” “ดุจดาวดึงสา”
กำแพงเพชร น่าจะเริ่มขยับขยายจากนครชุมตั้งแต่พะงั่วมีอำนาจเหนือสุโขทัย เรือน พ.ศ.1900 แล้วสืบเนื่องจนสำเร็จในแผ่นดินเจ้านครอินทร์ จากนั้นเพิ่มเติมเรื่อยๆ ไม่ได้เสร็จในคราวเดียว
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เมื่อดูจากชื่อเมืองทั้งสามบนสองฝั่งแม่น้ำปิง [แม้ไม่พบหลักฐานว่าชื่อเหล่านั้นมีเมื่อไร? คราวเดียวกันหรือไม่?] จะเห็นว่าทั้งหมดมีนามเกี่ยวข้องสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระอินทร์ คือ กำแพงเพชร, เทพนคร, ไตรตรึงษ์
พระอินทร์เป็นอุดมการณ์ทางศาสนา-การเมืองของเจ้านายรัฐสุพรรณภูมิ [จิตร ภูมิศักดิ์ เรียก “ตระกูลอินทร์”] พระนามเชื้อวงศ์สุพรรณภูมิองค์สำคัญเกี่ยวข้องนามพระอินทร์ ตรงตามจารึกที่ว่า “ดุจดาวดึงสา” คือ เจ้านครอินทร์ หมายถึง เจ้าแห่งเมืองของพระอินทร์ ชื่อเมืองทั้งสามเกี่ยวข้องพระอินทร์ ดังนี้
กำแพงเพชร หมายถึง เมืองมีกำแพงป้อมปราการมั่นคงแข็งแรง และงดงามเสมือนเมืองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระอินทร์ที่มีกำแพงทำด้วยแก้ว มีบอกในไตรภูมิพระร่วง และสมบัติอัมรินทร์คำกลอน ของ เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ดังนี้
เอาสูงพื้นหมื่นแสนพระเมรุมาศ เป็นอาสน์ทองรองดาวดึงสา
กว้างยาวหมื่นโยชน์คณนา ประดับปราการแก้วแกมกัน
สี่ทิศมีมหาทวาเรศ ระหว่างเขตหมื่นโยชน์ระยะคั่น
ประตูรายหมายยอดสำคัญพัน มีสระสวนทุกหลั่นทวาไร
เทพนคร หมายถึง เมืองเทวดา [ตรงกับกรุงเทพมหานคร] หมายถึงเมืองของพระอินทร์
ไตรตรึงษ์ หมายถึง เมืองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระอินทร์
ชื่อจริง เมืองจริง
ชื่อเมืองทั้งสามไม่ใช่ตำนานนิทาน แต่เป็นนามจริงสมัยเจ้านครอินทร์ และเป็นที่รับรู้สืบเนื่องถึงสมัยหลังๆ พบหลักฐานชื่อเมืองไตรตรึงษ์ ดังนี้
- ไตรตรึงษ์เป็นนามเมืองและเป็นนามเจ้าเมือง พบในจารึกกฎหมายลักษณะโจร [พ.ศ. 1940] ทำขึ้นในแผ่นดินเจ้านครอินทร์ ว่า “…พระราชมาตุละบพิตรมนตรีอนุชิต ลุงตนเลี้ยง…เจ้าเมืองไตรตรึง (ส์)” มาตุละ คือ ลุง (เลี้ยง) ข้างแม่
- ไตรตรึงษ์, เทพนคร, กำแพงเพชร เป็นที่รับรู้สืบเนื่องถึงแผ่นดินบรมไตรโลกนาถ พบในยวนพ่าย [พรรณนาไว้ตามลำดับจากใต้ขึ้นเหนือ] สรรเสริญพระเกียรติบรมไตรโลกนาถ ทั้งหมดมีโคลง-ร่ายรวม 294 บท ตอนท้ายโคลง 3 บท เป็นคำถวายพระเกียรติเสมือนพระอินทร์ เจตนายกชื่อสามเมืองตามลำน้ำปิงจากอยุธยาขึ้นไปตามลำดับ [จากใต้ขึ้นเหนือ] เริ่มจากไตรตรึงษ์, เทพ (นคร), กำแพงเพชร ดังนี้
ชยชยยศโยคก้อง ไตรตรึงษ์
บุญเบิกเวียงทองปือ ไต่เต้า
[ยศกึกก้องไตรตรึงษ์ บุญบารมีผดุงบ้านเมืองเหมือนเต็มไปด้วยทองทุกหนแห่ง]
ชยชยานุภาพท้าว เทียมทิน-กรแฮ
เมืองเทพคนธรรพ์ฤๅ อยู่ถ้อย
[อานุภาพดังดวงทินกร ทั้งเมืองเทพ (นคร) เต็มไปด้วยเสียงไพเราะของคนธรรพ์สรรเสริญ]
ชยชยเมื่อปราบอ้อม กำแพงเพชร
ผืนแผ่นผายเสมา ออกกว้าง
[เมื่อปราบถึงเมืองกำแพงเพชร แผ่นดินก็กว้างขวาง]
พ.ศ.1940 ในจารึกกฎหมายลักษณะโจร
พ.ศ.1940 มีพิธีราชาภิเษกขึ้นเสวยราชย์เมืองกำแพงเพชร เป็นผลงานการคำนวณของ ดร.ประเสริฐ ณ นคร จากศักราชตามประเพณี มีระบุในจารึกหลักที่ 38 ศิลาจารึกกฎหมายลักษณะโจร
พ.ศ. 1940 รัฐอยุธยาอยู่ในแผ่นดินพระรามราชา [เสวยราชย์อยุธยา ระหว่าง พ.ศ. 1938-1952] พระรามราชา เป็นโอรสพระราเมศวร เชื้อสายละโว้
ขณะนั้น รัฐสุพรรณภูมิขัดแย้งกับเชื้อสายรัฐละโว้ จึงแยกตัวออกต่างหากแล้วมุ่งค้าสำเภากับจีน โดยไม่ร่วมครองรัฐอยุธยา [มีคำอธิบายอยู่ในหนังสือ กรุงศรีอยุธยาของเรา ของ ศรีศักร วัลลิโภดม สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2527]
เจ้านครอินทร์
ผู้เสวยราชย์เมืองกำแพงเพชร พ.ศ.1940 คือ เจ้านครอินทร์แห่งรัฐสุพรรณภูมิ เป็นคำอธิบายในหนังสือวิชาการหลายเล่มของพิเศษ เจียจันทร์พงษ์ [ผู้ทรงคุณวุฒิของกรมศิลปากร]
เจ้านครอินทร์ เป็นโอรสของขุนหลวงพะงั่ว กษัตริย์รัฐสุพรรณภูมิ [ตรวจสอบหลักฐานทั้งไทย, จีน, ฮอลันดา โดย รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล ในบทความเรื่อง “สมเด็จพระนครินทราชาธิราช : ความขัดแย้งทางอำนาจ และความคลาดเคลื่อนของหลักฐาน” ในหนังสือ Ayutthaya Underground สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2562 หน้า 141-142]
รัฐสุโขทัย ไม่อิสระแท้
สุโขทัยเป็นรัฐขนาดเล็กรัฐหนึ่ง ซึ่งอยู่ดินแดนภายใน ห่างไกลทะเล และถูกประกบด้วยสองรัฐใหญ่ใกล้ทะเลอย่างสุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี) และอยุธยา-ละโว้ (ลพบุรี)
ดังนั้น รัฐสุโขทัยไม่เป็นเอกเทศที่มีอิสระทางการเมืองและการค้าตามความเข้าใจปัจจุบันที่คลาดเคลื่อนไปไกล แต่ต้องยอมอยู่ใต้บงการรัฐใหญ่กว่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
รัฐสุพรรณภูมิ (โดยขุนหลวงพะงั่ว) ร่วมกับรัฐอยุธยา (โดยสมเด็จพระรามาธิบดี) แผ่อำนาจควบคุมรัฐสุโขทัย (แผ่นดินพญาลิไท) ตั้งแต่หลัง พ.ศ.1900 ดังนั้น เมืองนครชุม (กำแพงเพชร) อยู่ในอำนาจของรัฐสุพรรณภูมิ จึงเริ่มแผนขยายเมืองครอบคลุมสองฝั่งแม่น้ำปิง
[สรุปจากงานค้นคว้าของนักปราชญ์และนักวิชาการ ได้แก่ ดร.ประเสริฐ ณ นคร, ศรีศักร วัลลิโภดม โดยเฉพาะ พิเศษ เจียจันทร์พงษ์]