เผยแพร่ |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
————————-
“อยู่ ไม่ เป็น” ในโลกเก่า
—————————–
แคมเปญ ” อยู่ ไม่ เป็น”
ของพรรคอนาคตใหม่ จะหมายถึงอะไร
หมายถึงการต่อสู้ ที่ไม่อยู่ในขนบ
โดยอาศัยเทคโนโลยี่การสื่อสารยุคใหม่ ทำสงคราม CYBER WARFARE ตามยุคสมัย
หรือไม่ ยังไม่แจ่มชัด
จะดี ไม่ดี คงต้องรอ วันที่ 16 พฤศจิกายน จึงจะทราบ
กระนั้น แคมเปญ หรือแนวทางการต่อสู้ ทำนองนี้
ทำให้ย้อนไปถึงหนุ่มสาว ยุคอนาล็อก ที่รู้สึกถึงการไม่อยากหรือปฏิเสธการอยู่ในกรอบเดิม-เดิม
เพียงแต่ไม่ใช้คำว่า “อยู่ ไม่เป็น”
หากแต่ใช้คำว่า “ขบถ” แทน
พอเขียนถึง คำๆนี้
โลกเก่า โดยเฉพาะ “โลกกระดาษ” แม้โรยแรง แต่ก็กวักมือเรียกอย่าง”มีใจ”
เริ่มด้วย พจนานุกรมฉบับมติชน ช่วยปูพื้น”ขบถ” อย่างมีกลิ่นอายวรรณกรรม
ขบถ[ขะ-บด] ก.ขัดขืนต่ออำนาจรัฐ
โดยปริยายใช้ หมายถึง ขัดขืนต่ออำนาจหรือกฏเกณฑ์ต่างๆ ทางสังคม
เช่น ฉันเป็นขบถ ฉันจึงมีชีวิตอยู่
น. ผู้ขัดขืนต่ออำนาจรัฐ หรือกฏเกณฑ์ต่างๆทางสังคม
คำที่ผู้ปกครองอำนาจรัฐเรียกผู้ลงมือประทุษร้ายหรือคิดแย่งชิงอำนาจนั้น
(ปาก) ผู้กระทำการช่วงชิงอำนาจปกครองแล้วเป็นฝ่ายแพ้ กบฏ ก็ใช้
—
คำว่า ขบถ-กบฏ แม้จะเคียงคู่อยู่กับคำว่า แพ้
แต่ดูเหมือน หนุ่มสาว ในแต่ละสมัย พร้อมจะ “เลือก”ทางนี้
อาจเพราะ”ฉันขบถ ฉันจึงมีชีวิตอยู่“
ประโยคที่เป็นดั่งประโยคประจำตัวของ อัลแบรฺต์ กามูส์ นักเขียนและนักปรัชญาชาวฝรั่งเศส รางวัลโนเบลจากนวนิยาย”คนนอก”
ทั้งที่ยังมีอีกหลายประโยค ที่เขาเขียนถึง
อาทิ
“หนทางเดียวที่จะต่อกรกับโลกที่ไม่เป็นอิสระคือกลายเป็นคนอิสระโดยสัมบูรณ์ จนกระทั่งการดำรงอยู่โดยแท้จริงของคุณเองนั้นคือการกระทำแห่งการก่อกบฏ” (เฟซบุ๊ค :คนบ้าหนังสือ – Madman Books)
เช่นเดียวกับมี นักเขียนนามอุโฆษ อีกหลายคนเขียนถึง ขบถ
อย่าง วิญญาณขบถ”ของ คาริล ยิบราล แปลเป็นไทยโดย “กิติมา อมรทัต”
ในคำนำของ “กิติมา อมรทัต” เขียนไว้ว่า
“…มนุษย์นั้น ถูกสาปให้มีเสรีภาพ
นักปรัชญาเลื่องชื่อคนหนึ่งเคยประกาศไว้เช่นนั้น
และนักประพันธ์นามอุโฆษอีกท่านก็เคยกล่าวในทำนองเดียวกันว่า มนุษย์อาจถูกทำลายได้ แต่พ่ายแพ้ไม่ได้
เสรีภาพในตัวของมันเองแล้วก็คือความสุข
มันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีพลัง และ ยืนหยัดอยู่ในโลก
เสรีภาพนี่เองจึงเป็นพลังผลักดันให้มนุษย์กระทำการต่างๆ ในการดำรงชีวิตอยู่
ก็ในเมื่อเสรีภาพเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามต้องการและใฝ่ฝันหา แล้วอะไรเล่าเป็นตัวขวางกั้นมนุษย์ออกจากเสรีภาพ ?
สิ่งนั้นคือ อำนาจ
อำนาจเมื่ออยู่ในมือของผู้ใดหรือคนกลุ่มใด
คนเหล่านั้นก็จะใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องมือในการ “เก็บเกี่ยว”เสรีภาพจากผู้อื่น หรือคนกลุ่มอื่นมาเป็นของตน และพวกตน
เช่นนี้เพื่อให้ได้มาซึ่ง“เสรีภาพ”มนุษย์ผู้รักและไฝ่หาเสรีภาพ
จักต้องไม่ทำเมินเฉยต่อเสียงเรียกร้องจากส่วนลึกในห้วงหัวใจ
เขาจักต้องลุกขึ้นยืนหยัด และ ปฏิเสธต่อ ”อำนาจ” ทั้งมวลที่ได้ตักตวง และลิดรอนเสรีภาพของพวกเขาไป
“อำนาจ” ต่าง ๆ ประดามีในสังคม
อาจเป็นเหมือนพายุร้ายที่พัดกระหน่ำลิดรอนผล และดอกใบพฤกษา แห่งชีวิตของมนุษย์ผู้โหยหาเสรีภาพ
อาจหักโค่นกิ่งและลำต้นของมัน
แต่มิอาจทำลายรากและเมล็ดพันธ์ ที่ฝังอยู่ของมันได้
ฉันขบถ…ฉันจึงมีชีวิตอยู่
จึงเป็นหลักการที่มนุษย์ผู้ใฝ่อิสระและความสมบูรณ์ของมนุษย์ทั้งในแง่ส่วนตัว หรือในแง่สังคมส่วนรวมจะต้องมี
(ที่มา ลุงต้าลี่ :“วิญญาณขบถ” ลึกซึ้งเพียงแค่อ่านคำนำจ จากบล็อก oknation)
ย้อนยุคไป พิจารณา การ “อยู่ ไม่ เป็น” ของคนในโลกเก่า
ก็เพลิดเพลินดี
ส่วน อยู่ ไม่ เป็น ในโลกใหม่ เป็นอย่างไรก็ ต้องติดตามดู