ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์   

TERMINATOR: DARK FATE      

“แก้ไขอนาคต”

กำกับการแสดง   Tim Miller

นำแสดง    Linda Hamilton Arnold Schwarzenegger  Mackenzie Dav Natalie Reyes  Gabriel Luna

แกนกลางของหนังที่มีผู้ร้ายเป็นมือสังหารจากอนาคตกาลที่เรียกในชื่อว่า Terminator คือการย้อนเวลากลับสู่อดีตเพื่อป้องกันไม่ให้อนาคตเดินไปสู่สภาพอันไม่น่าปรารถนาตามที่เป็นไป

เราเจอแก่นเรื่องแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน เนื่องจากเรื่องแบบนี้ฝังลึกอยู่ในความปรารถนาของคนเราส่วนมากที่นึกหวนเสียใจและเสียดาย ไม่อยากให้อะไรสักอย่าง หรือการกระทำสักครั้ง มาตัดสินปัจจุบัน ซึ่งก็คืออนาคตของอดีต

คำที่ติดปากสำหรับเรื่องแบบนี้ ก็ได้มาจากหนังเหมือนกัน คือ วลีว่า Back to the Future ซึ่งตัวละครในปัจจุบันเดินทางย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตเพื่อที่ปัจจุบันจะได้ไม่เป็นอย่างปัจจุบันที่เป็นอยู่

การเดินทางข้ามเวลานับเป็นความปรารถนาในส่วนลึกของมนุษย์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

และปรากฏให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหนังมากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Somewhere in Time, Back to the Future, The Avengers หลายภาค และแฟรนไชส์ชุด Terminator นี้

ผิดกันก็แต่ว่าหนังพวกนี้เสนอแก่นเรื่องนี้ในแนวแตกต่างกันไปคนละทิศคนละขั้วเลย  บ้างก็มาในแนวโรแมนติก บ้างก็เป็นแนวคอเมดี บ้างก็เป็นแนวแอคชั่นบู๊ล้างผลาญ

การเดินทางข้ามเวลานั้นก็ทำได้ด้วยวิธีการต่างๆนานา อาทิ ผ่านทางวัตถุที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันเข้าด้วยกัน หรือคิดค้นเครื่องเดินทางข้ามเวลาหรือไทม์แมชชีน หรือโดยความสามารถเหนือมนุษย์ของซูเปอร์ฮีโร่ ฯลฯ ฯลฯ

แต่นี่ก็ถือเป็นความปรารถนาใฝ่ฝันล้ำลึกอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่จะเอาชนะ “กาลเวลา”

 

นึกย้อนไปและนับจำนวนปีดูแล้วคนเหล็กเทอร์มิเนเตอร์ก้าวเข้าอยู่ในวัฒนธรรมบันเทิงของคนทั่วโลก 35 ปีเข้าให้แล้วนะคะ

ปีค.ศ. 1984 เราได้รู้จักตัวละครตัวนี้เป็นครั้งแรกในหนัง The Terminator ที่สร้างภาพลักษณ์ “คนเหล็ก” ให้ติดตัวอาร์โนลด์ ชวาร์ซเนกเกอร์ มานาน

แต่แรกเริ่มนั้น คนเหล็กเป็นฝ่ายผู้ร้ายที่โหดเหี้ยม เก่งกาจและฆ่าไม่ตาย เนื่องจากไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นหุ่นที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ และมีความคงทนถาวรเหนือเนื้อหนังมังสาของมนุษย์ ล้มคว่ำแหลกราญไปแล้ว ก็ยังประกอบชิ้นส่วนที่ยังเหลือกลับขึ้นมาปฏิบัติภารกิจที่ได้รับคำสั่งมาต่อไปอย่างไม่ยอมลดละเลิกลา

ในโลกอนาคตที่เครื่องจักรกลเถลิงอำนาจขึ้นครองโลกแทนมนุษยชาติผู้สร้างมันขึ้นมาให้เป็นผู้รับใช้มนุษย์ แต่เครื่องจักรเพิ่มสมรรถนะขึ้นเรื่อยๆ จนผงาดขึ้นจนยั้งไม่อยู่หยุดไม่ได้

และมนุษยชาติต้องหลบซ่อนและก่อตั้งขบวนการต่อต้าน กลายเป็นกลุ่มกบฎ

หัวหน้ากลุ่มต่อต้านชื่อ จอห์น คอนเนอร์ ที่รวบรวมสมัครพรรคพวกและปีกกล้าขาแข็งขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นภัยคุกคามความอยู่รอดของจักรกลที่ครองโลก  ระบบจักรกลที่เถลิงอำนาจคือ สกายเน็ต จึงส่งเทอร์มิเนเตอร์หุ่นยนต์สังหารจากโลกอนาคตกลับมายังโลกปัจจุบัน เพื่อตามล่าตามล้างมนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ ซาราห์ คอนเนอร์ (ลินดา แฮมิลตัน)

และนั่นคือเรื่องราวของคนเหล็กเทอร์มิเนเตอร์แต่ดั้งเดิม ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจนเกิดภาคต่อๆ มาคือ Terminator 2: Judgment Day (1991), Terminator 3: Rise of the Machines (2003), Terminator Salvation (2009), Terminator Genisys (2015) และ Terminator: Dark Fate ที่กำลังฉายอยู่ขณะนี้

อาร์โนลด์ ผู้เป็นคนเหล็กตัวประเดิมเริ่มแรก (T-800) ก็เปลี่ยนข้างจากฝ่ายตัวร้ายมาเป็นฝ่ายตัวเอกเต็มตัวในที่สุด

 

มาคราวนี้ไม่มีเรื่องใหม่ๆ จะให้เล่าแล้ว ได้แต่สร้างเรื่องโลกอนาคตใหม่ตามแบบเดิม แต่มีภัยคุกคามตัวใหม่ อันจำเป็นที่จักรกลในอนาคตจะต้องส่งหุ่นสังหารเทอร์มิเนเตอร์ตัวใหม่มาจัดการไม่ให้มีชีวิตรอดไปถึงอนาคตจนเป็นภัยต่ออาณาจักรจักรกลได้

เรื่องราวเกิดขึ้นราวยี่สิบปีหลังจากซาราห์ คอนเนอร์ป้องกันไม่ให้เกิด “วันพิพากษา” หรือ Judgment Day ซึ่งทำให้อนาคตผันแปรไปในทิศทางอื่น

แต่ว่าเรื่องก็ซ้ำรอยเดิมอีกนั่นแหละ คือโลกอนาคตส่งหุ่นเทอร์มิเนเตอร์ตัวใหม่ (Rev-9) ที่เพิ่มสมรรถนะให้แกร่งกล้ายิ่งกว่าเดิม มาเพื่อสังหารผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลยในตอนนั้น

แต่ขบวนการต่อต้านภัยจากจักรกลครองโลก ก็ส่งเกรซ (แมคเคนซี เดวิส) มนุษย์ที่ได้รับการเพิ่มสมรรถนะให้เก่งเกินมนุษย์ มาปกป้องพิทักษ์ผู้หญิงคนนั้นด้วย

เกรซผนึกกำลังกับซาราห์ คอนเนอร์ ซึ่งยังคงเป็นลินดา แฮมิลตันเจ้าเก่าที่สูงวัยขึ้นแล้ว และเชี่ยวชาญการต่อกรกับหุ่นยนต์พิฆาตมากขึ้น

รวมทั้งยังได้คนเหล็กเจ้าเก่า คืออาร์โนลด์ ชวาร์ซเนกเกอร์มาเป็นทีมเสริม

หลายคนคงนึกว่าทำไมหนอหุ่นยนต์ถึงดูอายุมากขึ้นได้ หุ่นยนต์ไม่น่าจะแก่ตัวได้นี่นา ดูอย่าง R2D2 หรือ CP31 ใน Star Wars ปะไร เป็นหุ่นกระป๋องยังไงก็อยู่ในสภาพหุ่นกระป๋องที่ไม่แก่ลงแบบนั้นแหละ

แต่ใครที่ดูหนังภาคก่อนหน้า คงได้รับคำตอบนี้แล้วจากปากของตัวละครว่า หุ่นยนต์คนเหล็กถูกสร้างขึ้นโดยใช้เซลล์เนื้อหนังมังสามนุษย์หุ้มโครงเหล็กไว้  เซลล์มีชีวิตมันก็เลยแก่ตัวไปตามวัยได้สินะ เหมือนกับตัวอาร์โนลด์นั่นแหละ จะให้คงความหนุ่มแน่นแบบจอมพลังเมื่อสามสิบห้าปีที่ผ่านมาได้ยังไงกัน

แถมบทบาทของอาร์โนลด์ในภาคนี้ ที่ทำให้ตกเป็นเรื่องเม้าธ์กันได้ไม่เลิกคือ หุ่นกลับใจมาใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ มีครอบครัวกระหนุงกระหนิงกันตามประสาหนุ่มสาวได้เสียอีก  ไม่รู้ว่าจะหาเรื่องให้โดนใจตลาดไปถึงไหนกัน

อาร์โนลด์จึงแปรพักตร์จากความเป็นสมุนหรือเครื่องมือรับใช้สกายเน็ตมาเป็นพรรคพวกของมนุษยชาติเต็มตัว และก็คงแก่ตัวหรือเหี่ยวแห้งตายไปได้ตามกาลเวลาเยี่ยงมนุษย์เหมือนกัน…

…หากว่าไม่เผอิญมีชะตากรรมอื่นที่ทำให้ “กลับมาอีก” ไม่ได้

 

“ฉันจะกลับมาอีก” คือวรรคทองของตัวละครตัวนี้ ซึ่งนำกลับมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

คราวนี้เปลี่ยนมาใส่ปากของหญิงแกร่งเจนการยุทธ์อย่าง ซาราห์ คอนเนอร์ บ้าง แต่ T-800 หรือที่ใช้ชื่อเหมือนมนุษย์ว่า “คาร์ล” ก็รู้ตัวว่าคงไม่ได้ “กลับมาอีก” แล้ว  ลากยาวมาบนจอใหญ่หกภาคก็ดูเกินกำลังจะไปได้ต่อ

เห็นท่าว่าบอกลาโรงกันไปเลยจะสวยกว่า

หุ่นพิฆาตเทอร์มิเนเตอร์ตัวใหม่ในภาคนี้ ก็หน้าตาจืดๆ เรียบๆ ขาดบุคลิกจับตาเหมือนอาร์โนลด์ (T-800) หรือแม้แต่โรเบิร์ต แพทริก (T-1000) ใน Judgment Day

หนังหมดมุขแปลกใหม่จะให้แก่คนดูแล้ว นอกจากนำเสนอเรื่องซ้ำซากซ้ำรอยเดิม และเสริมแต่งเพียงเล็กน้อยแบบเอาใจตลาด แถมด้วยการทำตามเทรนด์ของโลกปัจจุบันอีกอย่างคือ สร้างไอดอลเป็นหญิงแกร่งตามเสียงเรียกร้องความเสมอภาคทางเพศ แล้วยังเกลี่ยความเสมอภาคทางเชื้อชาติให้อีกหน่อย ด้วยการมอบบทบาทความเป็นผู้นำให้แก่คนเชื้อสายฮิสแปนิกที่มาจากเม็กซิโก

เหมือนจะเป็นการทลายกำแพงของเชื้อชาติที่ฝ่ายการเมืองกำลังก่อให้เกิดขึ้นในขณะนี้

นี่อาจเป็นหนังสำหรับคนอายุต่ำกว่าสี่สิบ ที่ยังไม่เคยดูหนังคนเหล็กดั้งเดิม

แต่แฟนหนังชุดนี้คงรู้สึกเฝือ เบื่อ และอยากเปลี่ยนไปดูเนื้อหาใหม่ๆ แล้วละ