ธุรกิจพอดีคำ | “จีน-เมริกา”

“จีน-เมริกา”

ปี2016

วันที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

มีโทรศัพท์สายหนึ่ง

ต่อสายถึงท่านประธานาธิบดีคนใหม่

คู่สายนั้นมาจากอีกฟากโลก

ประธานาธิบดีของประเทศ “ไต้หวัน”

โทร.มาเพื่อแสดงความยินดีแก่โดนัลด์ ทรัมป์

ทีมงานถามเขาว่า

“จะรับสายโทรศัพท์มั้ย”

คำตอบของโดนัลด์ ทรัมป์

นำมาสู่ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยรอยร้าว

ของสองยักษ์ใหญ่

อินทรีและมังกร

จีน-เมริกา

ชั่วโมงนี้

ใครก็ตามที่ติดตามความเป็นไปของโลก

จะต้องอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจบแล้วแน่ๆ

หนังสือเล่มใหม่ของ ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร

อาจารย์คณะนิติศาสตร์จากจุฬาฯ

ที่คร่ำหวอดในวงการกฎหมายของจีนและอเมริกา

หนังสือมีชื่อว่า “จีน-เมริกา”

เล่มบางๆ อ่านง่าย ไม่นานก็จบ

แต่เนื้อหานั้น แน่นหนา ได้ความรู้

ดร.อาร์มพูดถึงปัญหาข้อพิพาทระหว่าง จีนและอเมริกาในวันนี้

เปรียบได้กับ “หมูสามชั้น” ครับ

ชั้นแรก “ปัญหาทางการค้า”

ตอนนี้อเมริกาเริ่มจะสร้างสงครามการค้ากับจีน

โดยการขึ้น “กำแพงภาษี”

หมายความว่า สินค้าที่มาจากจีน จะเอามาขายในอเมริกา

จะโดนภาษีนำเข้าพิเศษ

ทำให้สินค้าของจีนที่วางขายในประเทศอเมริกานั้น

มีราคาแพงกว่าปกติ

เมื่อสินค้ามีราคาแพง ก็ทำให้ผู้บริโภคในอเมริกาซื้อหาได้ยากขึ้น

สินค้าในอเมริกาที่ทำแข่งขันกับจีนก็มีโอกาสขายได้มากขึ้น

กลายเป็นสินค้าจีนขายไม่ได้

สร้างปัญหากับพ่อค้า-แม่ค้าชาวจีน

ที่ยังพึ่งพาตลาดของอเมริกาอยู่

และเช่นเดียวกัน

เมื่ออเมริกาทำกับจีนเยี่ยงนี้

มีหรือจีนจะอยู่เฉย

แกกีดกันฉัน

ฉันก็จะกีดกันแกเช่นกัน

สินค้าเกษตรมากมาย โดยเฉพาะ “ถั่วเหลือง” จากเกษตรกรชาวอเมริกัน

ปกติก็จะนำมาขายในประเทศจีน

ตลาดใหญ่อันดับสองของโลก

พี่จีนเล่นขู่จะเลิกนำเข้าถั่วเหลืองทั้งหมด

เล่นเอาเกษตรกรในอเมริการะส่ำระสาย

ไม่แพ้โดนัลด์ ทรัมป์

จีนเลือกจะโจมตีสินค้าเกษตรของอเมริกา

ก็เพราะว่า “เกษตรกร” นั้นคือฐานเสียงหลักของโดนัลด์ ทรัมป์

ถ้าคนกลุ่มนี้ไม่มีความสุข ไม่อยู่ดีกินดี

ก็อาจจะมีผลกับฐานเสียงของทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป

ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2020 ก็เป็นได้

แต่นี่ “สงคราม” เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

เปรียบกับภูเขาน้ำแข็งในทะเล

ก็เหมือนกับแค่ยอดที่โผล่พ้นน้ำให้พวกเราชาวโลกเห็น

ชั้นที่สองของหมูตัวนี้

คือการแข่งขันอย่างรุนแรงของเรื่องเทคโนโลยี

อเมริกากีดกันบริษัท “หัวเว่ย” จากจีน

ไม่ให้ใช้เทคโนโลยี 5 G ในประเทศของตน

แถมหาเรื่องมากล่าวหาสารพัด

อเมริกาเป็นมหาอำนาจทางเทคโนโลยีมายาวนาน

จีนนั้นก็มีชื่อเสียงเรื่องการ “ลอก” เทคโนโลยีเช่นกัน

จนวันนี้ จีนอาจจะมีบางอย่างก้าวล้ำอเมริกาไปแล้ว

เป็นเรื่องที่อเมริกาต้องออกมากีดกันเทคโนโลยีจากจีน

ไม่ให้ได้รับการ “พัฒนา” ต่อในประเทศอเมริกา

แถมชวนเพื่อนๆ แถบยุโรปมาร่วม “กีดกัน” ด้วย

ส่วนจีนนั้นทำมานานแล้ว

กูเกิล เฟซบุ๊ก อเมซอน

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหล่านี้

ไม่สามารถโตได้ในจีน เนื่องจากจีนสนับสนุนบริษัทจีนด้วยกัน

ไบดู เทนเซ็นต์ อาลีบาบา

การกีดกันทางเทคโนโลยีจึงเป็นเครื่องมือที่ทั้งสองประเทศใช้มายาวนาน

ซึ่งเชื่อมโยงกับหมูชั้นที่สาม

นั่นคือ “เรื่องความมั่นคง”

เทคโนโลยี 5 G ของหัวเว่ยนั้น

มีการพูดคุยกันว่า สามารถที่จะประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่า

และข้อมูลต่างๆ ก็อาจจะรั่วไหลได้

เรื่องข้อมูลความมั่นคงต่างๆ เป็นเรื่องที่อเมริกากลัวมาก

การกีดกันทางเทคโนโลยีอย่าง 5 G ไม่ให้สามารถนำมาใช้ในอเมริกา

อีกนัยก็เป็นการป้องกันความมั่นคงอีกทาง

ยุคนี้เขาเลิกสู้กันด้วยรถถัง-เครื่องบินแล้ว

แต่สู้กันด้วยข้อมูลที่เหนือกว่า

อย่างที่ซุนวูบอกไว้

“รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”

จะรู้เขาได้ ก็ต้องขโมยข้อมูลกันละ

โดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจรับโทรศัพท์แสดงความยินดีจากไต้หวัน

ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีประธานาธิบดีคนไหนในอเมริกาทำมากว่า 40 ปี

ไต้หวันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน

การรับโทรศัพท์จากไต้หวัน

เป็นการยอมรับโดยนัยว่า ไต้หวันคืออีกประเทศหนึ่ง

คือการไม่ให้เกียรติจีนอย่างรุนแรง

ทรัมป์นี่แสบจริงๆ เลย..ใช่มั้ยครับ