วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู / เสถียร จันทิมาธร / เซียวจิ่งเหยียน คนตรง (17)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร

 

เซียวจิ่งเหยียน คนตรง (17)

 

เดิมพันอันแหลมคมที่สุดซึ่งเสนอมาจากเหมยฉางซู “หากสามารถช่วยถิงเซิงออกมาพอจะนับเป็นของกำนัลพบหน้าที่กระหม่อมขอเข้าเป็นพวกกับจิ้งหวังได้หรือไม่”

แววตาเหมยฉางซูแม้เฉยชา แต่กลับทำให้หัวใจทั้งดวงของจิ้งหวังเต้นโครมคราม

“องค์ชายใหญ่ พี่ชายที่ท่านเคารพรักที่สุด ช่วยให้เลือดเนื้อเชื้อไขเพียงหนึ่งเดียวของเขาออกจากสถานที่เช่นเรือนขังไพร่นั้นน่าจะเป็นความปรารถนาของท่านเช่นกัน”

จิ้งหวังขนตาสั่นระริก ถามเน้นทีละคำว่า “ท่านทำได้จริงๆ”

“ได้”

“แต่ว่า ข้ากลับไม่ชอบคนที่มากด้วยเล่ห์กลเช่นท่าน ต่อให้ท่านส่งข้าขึ้นบัลลังก์ก็ไม่แน่ว่าจะได้รับการโปรดปรานสักเท่าไร เช่นนี้ท่านก็ไม่นำพาใส่ใจรึ”

นี่ย่อมเป็นตัวตนของเซียวจิ่งเหยียน จิ้งหวัง

“ในเมื่อกระหม่อมมีแผนเช่นนี้ แน่นอนย่อมมีโอกาสมากมายสามารถตกลงเงื่อนไขกับจิ้งหวัง” เหมยฉางซูผุดรอยยิ้มกระจ่าง

ตลอดทั้งร่างราวกับเปล่งประกายราศีอันเจิดจ้าชนิดหนึ่ง

“ท่านคงไม่ใช่คนประเภทที่จะเข่นฆ่าขุนนางภักดีกระมัง รัชทายาทกับอวี้หวังกลับคล้ายว่า”

 

ไห่เยี่ยนบรรยายด้วยลีลาของลีลี่หลินออกมาว่า จิ้งหวังเม้มริมฝีปากแน่น เริ่มต้นใช้ความคิดอย่างละเอียดรอบคอบ

คำพูดของซูเจ๋อผู้นี้ออกจะเหลือเชื่อเกินไป แต่ท่าทีกลับจริงจังอย่างยิ่ง

หากกล่าวว่าเขากำลังหลอกลวง แต่ก็เดาถึงแรงจูงใจไม่ออกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรัชทายาทหรืออวี้หวังล้วนไม่เคยมองพี่น้องอื่นๆ นอกจากระหว่างพวกเขาทั้ง 2 ว่าเป็นศัตรูที่คุ้มค่ากับการลงทุนลงแรงไปต่อกร

ดังนั้น คงไม่ส่งคนที่ร้ายกาจเช่นนี้มา เพื่อสำรวจความปรารถนาในใจของตน

เช่นนั้นเขาต้องการอะไรกันแน่ เพียงเพราะต้องการเลือกสรรคนที่เขาต้องการสนับสนุนแค่นั้นหรือ จิ้งหวังสุดท้ายก็กัดฟันตัดสินใจ

“ตกลง

ขอเพียงท่านสามารถทำให้รัชทายาทและอวี้หวังไร้วาสนาขึ้นเป็นจักรพรรดิ ข้าจะร่วมมือกับท่าน”

 

ความตกลงปลงใจเช่นนี้สำคัญอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่หากว่าล่วงรู้ไปถึงหูที่ 3 หูที่ 4 ย่อมเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง

เพราะรัชทายาทก็เป็นพี่ชาย เพราะอวี้หวังก็เป็นพี่ชาย

“ความเด็ดเดี่ยวเท่านี้หาเพียงพอไม่ ท่านจำเป็นต้องมีเป้าหมายการยึดครองบัลลังก์เป็นที่ตั้งถึงจะถูก”

น้ำเสียงเหมยฉางซูราวกับน้ำแข็ง

“รัชทายาทกับอวี้หวังมีขุมกำลังระดับไหน คิดจะโค่นล้มพวกเขาจำเป็นต้องมีใครอีกคนหนึ่ง และคนผู้นี้หากไม่ใช่ท่านจะเป็นผู้ใด ในบรรดาองค์ชายที่ยังมีชีวิตอยู่ องค์ชายสามพิการ องค์ชายห้าขี้ขลาดราวกับมุสิก องค์ชายเก้าอายุยังเยาว์

กระหม่อมเคยกล่าวแล้ว คุณสมบัติท่านไม่ดีพอ แต่เวลานี้ไม่มีทางเลือกอื่น”

“ท่านกล่าววาจาไม่มีความเกรงใจจริงๆ” ในดวงตาของจิ้งหวังส่องแสงแพรวพราว “ในเมื่อต้องการเข้าเป็นพวกแต่กลับกล่าววาจาเช่นนี้ หรือไม่กลัวเป็นการล่วงเกินข้า”

“หรือท่านชมชอบรับฟังแต่วาจารื่นหู”

น้ำเสียงเหมยฉางซูอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด 2 ตาคล้ายจะปิดอยู่รอมร่อ “องค์ชายโปรดวางใจ หลังงานเลือกคู่ของหนีหวงจวิ้นจู่ อย่างมากไม่เกิน 10 วัน กระหม่อมจะพาถิงเซิงออกมาให้ได้ ตอนนี้ อภัยที่ไม่อาจส่งแล้ว”

หลังจบคำ ดวงตาทั้ง 2 ก็ปิดสนิทลง คล้ายเริ่มต้นงีบหลับ

ต่อท่าทีไร้มารยาทเช่นนี้ เซียวจิ่งเหยียนกลับมิได้นำพาใส่ใจ ตรงกันข้าม เพียงมองดูเหมยฉางซูแวบหนึ่ง

มิได้กล่าวอันใด

ผุดลุกขึ้นร้องเรียกถิงเซิง ช่วยเด็กน้อยหอบหนังสือทั้งห่อนั้นขึ้นก่อนอำลาและออกจากเรือนเสวี่ยหลูไป

 

หลังเซียวจิ่งเหยียนจากไป เหมยฉางซูรู้สึกหัวใจทั้งดวงอ่อนล้าลง คล้ายจะทรงตัวไม่อยู่ เหลือเพียงลมหายใจที่สะท้อนแผ่วเบาเหนือทรวงอก

ทรวงอกที่ยังประคับประคองการแสดงออกทางสีหน้าและอากัปกิริยาของร่างกายไว้

อยากหลีกห่างความเศร้าสร้อย ความจริงเป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง เพียงเสาะหาธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพรสักแห่ง เร้นกายรักษาตัว มีสหายรู้ใจสัก 2 คนร่วมเตร็ดเตร่พเนจร ไม่มีทั้งการต่อสู้แก่งแย่งและการทรยศหักหลัง โรคเก่าที่รุมเร้าก็หายขาด

แล้วไฉนจึงไม่ยอมทำเช่นนั้น