“Welcome to Snapchat Kiddo!”

เพื่อนผมคนหนึ่งส่งข้อความนี้มาให้ พร้อมกับแนบคลิปหน้าตัวเองกลายร่างเป็นยูนิคอร์นอ้าปากปล่อยสายรุ้ง ผมหัวเราะกับความขี้เล่นของเธอ

เมื่อคลิปนั้นจบลง ผมกดที่หน้าจออีกครั้ง หวังจะดูหน้าเพื่อนเพื่อหัวเราะให้หนำใจ ปรากฏว่าคลิปนั้นได้มลายหายไปแล้ว จะกลับไปดูซ้ำอีกครั้งก็ไม่ได้

นี่คือกฎของ Snapchat…ส่งเร็ว ดูเร็ว และเมื่อครบกำหนดเวลา รูปและวิดีโอเหล่านั้นก็จะหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่

ผมกำลังหัดเล่นแอพพลิเคชั่น Snapchat อยู่ครับ ยอมรับว่ายังมือใหม่มากๆ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นโลกใหม่ที่น่าสนใจมากเช่นกัน

ผมรู้จัก Snapchat เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว ได้ยินว่าเป็นโซเชียลมีเดียที่นิยมกันมากในหมู่วัยรุ่นอเมริกัน และเคยเป็นแอพที่ใช้ในการ “Sexting” หรือส่งรูปและคลิปเสียวกันลับๆ

แต่อย่าเพิ่งคิดว่าผมอยากเล่นสยิวแบบนั้นนะครับ เพราะจริงๆ แล้วตอนที่ทราบข่าวในช่วงนั้น ผมแทบไม่ได้สนใจแอพนี้เลย คิดว่าเป็นแอพไร้สาระของพวกวัยรุ่นเกรียนๆ หรือพวกเซเลบอยากดังที่วันๆ ว่างเอาแต่เซลฟี่ โชว์รูปร่างเปล่าเปลือย หรือก้มหน้าเล่นแต่มือถือด้วยซ้ำไป

ทว่า ผมคิดผิดโดยสิ้นเชิง

เหตุผลสำคัญที่ผมพาตัวเองเข้ามาอยู่ในโลก Snapchat นั้นมีด้วยกัน 3 ประการ

หนึ่ง ผมเห็นคนแชร์คลิปเซลฟี่ตัวเองกับฟิลเตอร์ตลกๆ เยอะมากในโลกโซเชียลมีเดีย ถ้าคุณเล่นเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์คงได้เห็นเพื่อนๆ เล่นกันบ้าง โดยเฉพาะคลิปที่เป็นหน้ากากสุนัขน่ารักสวมตรงใบหน้าเราพอดี เมื่อเราอ้าปาก ลิ้นยาวๆ ก็จะโผล่ออกมาเลียหน้าจอ

หรืออีกฟิลเตอร์ที่ฮิต (และฮา) มากก็คือรูปสลับหน้ากันระหว่างคนสองคน หลายคนน่าจะเคยเห็นและเคยเล่น ยิ่งถ้าสลับหน้าผู้หญิงกับผู้ชายแล้วผมรับรองว่าฮาตกเก้าอี้แน่นอน

ผมเห็นคนเล่นฟิลเตอร์นี้เยอะมาก ก่อนจะมารู้ภายหลังว่ามันเป็นลูกเล่นหนึ่งของ Snapchat (ยูนิคอร์นพ่นสายรุ้งของเพื่อนผมคนนั้นก็ใช่) จึงรู้สึกว่านี่คือแอพที่เล่นกับอารมณ์ขันของคนยุคนี้ได้ดีมาก มันเป็นการเอาฟิลเตอร์ขำๆ มาผสมกับพฤติกรรมที่ชอบเซลฟี่ จนกลายเป็นรูปแบบของการสื่อสารที่น่าสนใจ แปลกใหม่ และหวือหวา ไม่ต่างจากตอนที่ LINE คิดค้นสติ๊กเกอร์ได้เลยทีเดียว

Snapchat เรียกลูกเล่นนี้ว่า Lenses

สอง ผมเห็นว่าบรรดาเซเลบอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งดาราฮอลลีวู้ด นักแสดงมากฝีมือ นักร้องชื่อดัง ไปจนถึงนักฟุตบอลขวัญใจวัยรุ่น ต่างก็หันมาใช้ Snapchat เป็นกระบอกเสียงของตัวเองกันทั้งนั้น

One Direction, Kim Kardashian, Justin Bieber, Ariana Grande, Ed Sheeran, Taylor Swift, Jared Leto, Rihanna, Cesc Fabregas คือตัวอย่างของคนดังที่โลดแล่นอยู่ใน Snapchat

การที่คนดังพร้อมใจกันให้ความสำคัญกับแอพไร้สาระนี้แสดงว่าพวกเขาต้องเห็นพลังและอำนาจของมันแน่ๆ

สาม ผมเห็นสื่อบิ๊กเนมระดับโลกและแบรนด์ต่างๆ กระโดดเข้ามาเล่นในเกมนี้ สื่อที่มีแอ็กเคาต์เป็นของตัวเองใน Snapchat ก็เช่น CNN, National Geographic, Vice, Mashable จนไปถึง Cosmopolitan ส่วนแบรนด์ที่ทุ่มเงินมหาศาลนั้นให้พูดคงไม่หมด เอาเป็นว่าแทบจะทุกแบรนด์ระดับโลกที่อยากสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ก็แล้วกัน

เหตุการณ์สำคัญที่ผมรู้สึกว่า Snapchat กำลังจะเป็นสนามใหม่หรือเป็นผู้สร้างภูมิทัศน์ใหม่ให้กับวงการสื่อและโฆษณาก็คือ การแข่งขันซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ผ่านมา

ปกติแล้วคนทั่วโลกจะรอดูว่าแบรนด์จะทำคลิปไวรัลหรือคลิปโฆษณาบน Youtube ออกมาอย่างไร แต่ในปีนี้ปรากฏว่า Snapchat ขโมยซีนไปได้มาก หรือแทบจะชนะขาดเลยก็ว่าได้

มีมากกว่า 9 แบรนด์ใหญ่ยักษ์ที่ลงทุนลงแรงกับ Snapchat เช่น Coca-Cola, Amazon, GE, 20th Century Fox, Ea Sports

แต่ผู้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดระดับ Talk of the town ต้องยกให้กับแบรนด์ Gatorade เครื่องดื่มชูกำลังยอดนิยม เพราะพวกเขาทำการซื้อ Sponsored Lenses ด้วยการสร้างเป็นถัง Gatorade จำลองให้คุณได้เซลฟี่ได้ โดยเพียงแค่คลิก คุณก็เหมือนกำลังเล่น Ice Bucket Challenge แต่เปลี่ยนจากถังน้ำแข็งเป็นถังเครื่องดื่ม Gatorade แทน

มียอดชมคลิปนี้มากกว่า 160 ล้านวิว!

แหกทุกกฎการตลาด ฉีกทุกตำรากลยุทธ์ แหวกทุกขนบการสื่อสาร

ผมบอกกับตัวเองว่าจะนิ่งนอนใจไม่ได้แล้ว

ในเมื่ออยากรู้ว่าทำไมมันถึงฮิต ก็ต้องลองเข้าไปใกล้ชิดกับมันดู

 

ผมมอบหมายให้เพื่อนสาวคนนั้น (ผู้เป็นแฟน Snapchat ตัวยง) เป็นอาจารย์สอนการเล่น Snapchat ตั้งแต่เริ่มต้น

สารภาพตามตรงว่า โคตรงง!

ขนาดคิดว่าตัวเองเป็นคนทันสมัย ตามติดเทคโนโลยีตลอด รวมทั้งมีแอ็กเคาต์ทั้งในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ และทวิตเตอร์แล้วก็ยังรู้สึกว่าแก่เกินไปที่จะเล่น Snapchat

เล่าให้เห็นภาพ เพียงแค่คุณเปิดแอพขึ้นมา สิ่งแรกที่คุณจะเจอ กลับไม่ใช่หน้าจอหลัก หรือหน้า Wall ปกติเหมือนโซเซียลมีเดียปกติ เพราะคุณจะเจอกับหน้าตัวเอง

หน้าจอหลักของ Snapchat คือกล้องเซลฟี่

ฟังก์ชั่นการใช้งานของ Snapchat นั้นประหลาดมาก คุณต้องเข้าใจ “คีย์ลัด” พอสมควร เช่น แตะหน้าจอค้างไว้ Lenses จึงจะโผล่ออกมา

สไลด์หน้าจอไปทางขวา จึงจะได้เจอกับส่วนที่เป็น Stories หรือหน้า Wall ของเพื่อนๆ และคนที่เราตามอยู่

เลื่อนไปทางซ้ายจึงจะได้เห็นส่วนที่เป็นหน้าไว้ Chat กับเพื่อน

นอกเหนือจากนั้นก็กดอะไรไม่ได้เลย (หรือผมอาจจะโง่เอง) สิ่งที่ Snapchat บังคับกลายๆ ให้คุณทำก็คือถ่ายคลิปอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็เซลฟี่ตัวเองซะ!

ผมลองเลือก Lenses ที่เป็นสุนัข ทันใดนั้นก็มีหูอยู่บนหัวผม และจมูกโผล่บนใบหน้า และพอผมอ้าปาก ลิ้นยาวๆ ของน้องหมาก็โผล่ออกมา

ตลกดี!

ผมลองอัดคลิปตัวเองประมาณ 5 วินาที ก็มีปุ่มให้ผมโพสต์คลิปนี้ใน Story ของตัวเอง

ในขณะที่ผมกำลังจะกดโพสต์ ก็คิดได้ว่าปกติแล้วผมเป็นคนไม่ชอบเล่นอะไรแบบนี้เลย เซลฟี่ก็ไม่ค่อยทำ หรือจะโพสต์รูปตัวเองแบบนี้ก็ไม่บ่อย

Snapchat กำลังทำให้ผมเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ผมคิดอยู่นานว่าจะกดโพสต์ดีหรือไม่…