ทุกวันนี้การนั่งจมอยู่บนโซฟาและเปิดหนังหรือซีรี่ส์ต่างๆ ดูครั้งละหลายๆ ชั่วโมงติดต่อกันทำให้ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่ฉันสูญเสียไปมากที่สุดก็คือเวลา รองลงมาคือค่าไฟ แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรไปมากกว่านั้น

สมัยก่อนการจะดูหนังสักเรื่องคือการต้องอ้อนพ่อ-แม่ให้ขับรถพาไปร้านเช่าวิดีโอ (ตามมาด้วยวีซีดี และดีวีดี ตามลำดับ)

หรือสมัยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในอเมริกาก็จะต้องขับรถกันไปที่ร้านเช่าเพื่อเดินวนไปมารอบๆ ร้าน หยิบๆ วางๆ ปลอกวิดีโอเปล่าๆ ที่มีภาพปกหนังแต่ละเรื่องขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียดว่าหนังเรื่องไหนที่เมื่อเปิดเคล้ากับป๊อปคอร์นไมโครเวฟแล้วถึงจะทำให้ค่ำคืนนั้นรื่นรมย์ที่สุดและคุ้มค่ากับการขับรถมามากที่สุด

อย่างมากก็จะได้หนังติดมือกลับบ้านไปสองเรื่อง ดูจบเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับมาเปลี่ยนเป็นเรื่องใหม่

เดี๋ยวนี้ฉันนั่งกดรีโมตไล่หาเรื่องต่อไปที่อยากจะดูอยู่ลำพังคนเดียวบนโซฟาในห้องนั่งเล่น

แต่ความสะดวกสบายที่ฉันยอมแลกมาด้วยค่าสมัครสมาชิก Netflix รายเดือน ค่าไฟ และค่าเสียเวลานั้น อันที่จริงแล้วมันมีต้นทุนแอบแฝงที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นที่ฉันก็เพิ่งจะนึกถึง

 

Shift Project ธิงค์แธงค์ในฝรั่งเศสให้ข้อมูลว่า การดูรายการความยาวครึ่งชั่วโมงจะเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา 1.6 กิโลกรัม

ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นก็คือเท่ากับการขับรถเป็นระยะทาง 6.28 กิโลเมตรนั่นเอง

น่าตกใจกว่านั้นคือสถิติที่บอกว่า ปีที่แล้วปีเดียว การดูวิดีโอสตรีมมิ่งออนไลน์ทั้งหมดเท่ากับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ประเทศสเปนทั้งประเทศปล่อยออกมา และปริมาณนี้จะเพิ่มมากกว่านี้อีกสองเท่าภายในอีกหกปีข้างหน้า

หากลองแบ่งสัดส่วนดูว่าการดูวิดีโอออนไลน์แบบสตรีมมิ่งที่ว่ามันประกอบไปด้วยอะไรมากน้อยแค่ไหน ก็จะพบว่า 34 เปอร์เซ็นต์มาจากบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง Netflix, Amazon Prime และ Hulu (ซึ่งในบ้านเรามีให้บริการแค่ Netflix)

ส่วนสัดส่วนที่เหลือ ให้เดาว่าคืออะไรคะ น่าจะมีหลายคนเดาถูก

ใช่ค่ะ วิดีโอโป๊ออนไลน์นั่นแหละค่ะ 

 

ฉันลองเสิร์ชหาดูว่าเมื่อปีที่แล้วมีการคลิกดูวิดีโอโป๊ทั้งหมดรวมกันกี่ชั่วโมง

ลิงก์ที่ได้ก็แน่นอนว่ามาจากการเก็บสถิติของเว็บไซต์ Pornhub เว็บรวมคลิปโป๊ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด (และยังเก็บสถิติของเว็บตัวเองไว้ละเอียดมาก แถมยังทำอินโฟกราฟิกไว้สวยงามเลยทีเดียวเชียว)

Pornhub บอกว่า ปี 2018 มีคนกดเข้ามาที่เว็บไซต์ทั้งหมด 33,500,000 ล้านครั้ง (!)

แต่ละวันมีคนเข้ามาที่เว็บ 92 ล้านครั้งซึ่งเท่ากับประชากรของประเทศแคนาดา โปแลนด์ และออสเตรเลีย มีคนเสิร์ชหาวิดีโอที่ต้องการจะดู 962 ครั้งในหนึ่งวินาที และมีวิดีโอโป๊บนเว็บรวมกัน 1 ล้านชั่วโมง ซึ่งถ้าจะดูให้หมดทุกคลิปจะต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 115 ปี

ก็พอจะรู้อยู่ว่าการสตรีมดูคลิปโป๊ออนไลน์น่ะฮิต แต่ก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจะฮิตขนาดนี้ 

 

ผู้เชี่ยวชาญจากกรีนพีซบอกว่า วิดีโอออนไลน์ทุกวันนี้มีขนาดของไฟล์ที่ใหญ่ขึ้นและก็กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการมาถึงของเทคโนโลยีวิดีโอที่ล้ำหน้าขึ้น เมื่อมีข้อมูลมากขึ้นก็หมายถึงการต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการที่จะดูแลรักษาระบบให้พร้อมสตรีมวิดีโอไปยังอุปกรณ์ของผู้ชมทั่วโลกโดยเฉพาะในยุคที่ไม่มีใครอดรนทนต่อวิดีโอที่หมุนเคว้งหรือพร่าเบลออีกต่อไป

ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงานของสหรัฐบอกว่า ถ้าหากเราจะทำให้การใช้พลังงานไม่เพิ่มมากไปกว่านี้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า สิ่งที่จะต้องทำก็คือการปรับปรุงอุปกรณ์ไอทีและการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล หรือมิเช่นนั้นเราก็จะต้องลดความชื่นชอบในการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเราลง

Huawei Technologies คาดประมาณว่าการชมวิดีโอออนไลน์จะใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นสัดส่วนเท่ากับ 4.1 เปอร์เซ็นต์ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030

ในขณะที่ CISCO Network ก็ให้ตัวเลขว่าการดูวิดีโอบนเว็บจะเพิ่มขึ้น 4 เท่า จากปี 2017 จนถึงปี 2022 และจะคิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของทราฟิกบนอินเตอร์เน็ตทั้งหมดภายในปี 2022

ส่วน Netflix ก็โตเอาๆ และขยายการทำธุรกิจให้ครอบคลุมหลายประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่มีคู่แข่งที่งอกขึ้นมาอีกหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Disney หรือ Apple ซึ่งล้วนแล้วแต่จะแข่งกันเอาคอนเทนต์ที่ดีที่สุดมาเชื้อเชิญเรียกผู้ชมให้เข้ามาสมัครบริการของตัวเองและใช้เวลาอยู่บนแพลตฟอร์มให้ได้นานที่สุด

อุปกรณ์ที่เราใช้ในการชมคลิปวิดีโอทั้งหมดนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะเช่นเดียวกัน ขนาดหน้าจอทั้งสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และทีวี ก็ใหญ่ขึ้นๆ เรื่อยๆ

จากเดิมค่าเฉลี่ยของจอที่อยู่ที่ 22 นิ้วในปี 1997 ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 50 นิ้วในปี 2021

ซึ่งขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเมื่อผสมผสานเข้ากับการเติบโตของเทคโนโลยีวิดีโอดิจิตอลก็เท่ากับไฟล์ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อสนองความต้องการของคนดูที่อยากจะดูวิดีโอที่ละเอียดขึ้นด้วย

จอความละเอียด 4K ใช้พลังงานมากกว่าจอ HD ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และนี่ยังไม่นับรวมการมาถึงของ 8K ด้วย ทั้งหมดนี้ก็เป็นสมการที่นำไปสู่การใช้พลังงานที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกระดับ

แล้วเราพอจะทำอย่างไรได้บ้างล่ะ 

 

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเราควรปิดฟีเจอร์การเล่นวิดีโออัตโนมัติ สตรีมวิดีโอผ่าน Wi-Fi โดยเลือกความละเอียดที่น้อยลง และถ้าเป็นไปได้ก็หลีกเลี่ยงการดูวิดีโอผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมือถือเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานให้มากที่สุด

Shift Project เสนอว่า บนเว็บเบราเซอร์ควรจะมีส่วนเสริมที่สามารถติดตามควบคุมการใช้งานอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้อยู่ตลอดและคอยบอกว่าตอนนี้ใช้ไฟฟ้าไปแล้วเป็นปริมาณเท่าไหร่ การใช้งานไฟฟ้านั้นทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปแล้วมากน้อยแค่ไหน และเอามาเปรียบเทียบกับระยะทางการขับรถเพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจได้ง่ายๆ ในขณะเดียวกันก็ต้องเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีหันไปใช้พลังงานทดแทนได้กับศูนย์ข้อมูลของตัวเองด้วย

อันที่จริงนี่ถือเป็นโอกาสดีที่ฉันจะตัดลดการดูคลิปวิดีโอออนไลน์และสตรีมมิ่งลงบ้าง และหันไปหยิบหนังสือจากกองที่ฉันปล่อยให้ฝุ่นจับมาเป็นสัปดาห์ๆ แล้ว

ได้ทั้งช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา และน่าจะทำให้ฉันง่วงนอนได้เร็วขึ้นด้วย