ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 พฤศจิกายน 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
ถ้าถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าหากย้อนเวลากลับไปตอนที่เริ่มต่อรองการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี
มีตำแหน่งไหนที่อยากดึงกลับมาเป็นโควต้าพรรคพลังประชารัฐมากที่สุด
เชื่อได้ว่าไม่ใช่ตำแหน่งใดในรัฐบาล
ไม่ใช่ “คมนาคม-เกษตร-พาณิชย์”
แต่เป็นตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ที่เสียโควต้าให้กับ “ชวน หลีกภัย” ของพรรคประชาธิปัตย์ไป
เพราะวันนี้ “ชวน” กลายเป็น “รัฐอิสระ”
นอกจาก “ลุงตู่” จะคุม “ชวน” ไม่ได้แล้ว
กลับต้องอยู่ในการคอนโทรลของ “ชวน” อีก
เพราะเมื่อก้าวเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
คนที่ใหญ่ที่สุดคือ ประธานสภา
ไม่ใช่ “นายกรัฐมนตรี”
“ชวน” เคยประกาศว่า การรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภาครั้งนี้ เพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของสภาผู้แทนฯ
เขาจึงเคร่ง “กฎ-กติกา-มารยาท” อย่างมาก
และด้วยบารมีของ “นักการเมืองอาวุโส” และ “อดีตนายกรัฐมนตรี”
ส.ส.ส่วนใหญ่ให้ความเกรงใจ
และยังแผ่บารมีมาคุม พล.อ.ประยุทธ์ด้วย
ผิดพลาดหรือผิดกฎเมื่อไร
โดนดุทันที
ภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ในสภา ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ จึงมีอาการ “หัวร้อน” ให้เห็นทุกครั้งที่ต้องฟัง ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายเสียดสี
หลบได้เป็นหลบ
เพราะกลัว “น็อตหลุด”
ที่สำคัญ “ประธานสภา” ซึ่งตามปกติจะช่วยประคับประคองรัฐบาลเพราะมาจากพรรคร่วมรัฐบาล
แต่ครั้งนี้ “ชวน” แสดงความเป็นอิสระอย่างชัดเจน
“ลุงตู่” จึงปราศจากเสาพิง
อยู่ในสภาพกระอักกระอ่วนใจอย่างเห็นได้ชัด
“ชวน” ถือว่า “สภาผู้แทนราษฎร” คือหนึ่งในเสาหลักของระบอบประชาธิปไตย
มีความเป็นอิสระ
เขาจึงกล้าชนในหลายเรื่อง
ตั้งแต่ญัตติเรื่องการไม่กล่าวคำถวายสัตย์ตามรัฐธรรมนูญ
ทั้งที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติที่ทำให้รัฐบาลอ้างได้ว่าองค์กรอื่นๆ มายุ่งเกี่ยวไม่ได้
แต่ “ชวน” ไม่ยอม
การอภิปรายจึงเกิดขึ้นได้ และทำให้เห็นปมปัญหาบางอย่างที่เป็น “ระเบิดเวลา” ในอนาคต
หรือล่าสุดกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจง
“ชวน” ก็หนุน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
เสนอให้ “ลุงตู่” ให้ความร่วมมือกับกรรมาธิการ
“อยู่ในระบบนี้ ต้องเคารพระบบ”
คำเดียวสั้นๆ แต่ชัดเจน
สะบัด “มีดโกน” ควับ
“ลุงตู่” เลือดสาดทันที