มองบ้านมองเมือง / ปริญญา ตรีน้อยใส / โรงแรม อาลีบาบา

ปริญญา ตรีน้อยใส

มองบ้านมองเมือง/ปริญญา ตรีน้อยใส

โรงแรม อาลีบาบา

 

เพิ่งพาไปมองโรงแรมย้อนยุค เพราะอยู่ในตึกแถวเก่า หลังศาลเจ้าที่สิงคโปร์ ฉบับนี้จะพาไปมองโรงแรมอีกแห่ง ในทิศทางตรงข้าม คือโรงแรมล้ำยุค

โรงแรมแห่งนี้ชื่อ ไฟลซู โฮเตล Fly Zoo Hotel (https://youtu.be/4dKy7HNU4vk) อยู่ที่เมืองหางโจว เมืองใหญ่อันดับห้าของจีน ด้วยประชากรไม่มากเท่าไหร่ แค่ยี่สิบล้านคนเท่านั้นเอง

หางโจวเป็นเมืองที่รู้กันว่าเป็นฐานที่มั่นของแจ๊ก หม่า แห่งอาลีบาบา ที่มีสำนักงานศูนย์วิจัย และชุมชนบ้านพักของพนักงาน

โรงแรมที่จะพาไปมอง เป็นอีกหนึ่งสถานบริการ รองรับชุมชนและกิจการของอาลีบาบา

และที่สำคัญ คงเป็นสถานีวิจัยนวัตกรรมด้านโรงแรม นอกเหนือไปจากซูเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์การค้า ที่อยู่ใกล้กัน

 

ชื่อโรงแรมที่เป็นภาษาอังกฤษว่า สวนสัตว์ ที่จะไปเกี่ยวพันกับหลายสิ่งในโรงแรม เช่นว่า มาสคอตรูปลิงหน้าโรงแรม การตอบรับจากระบบ จะเป็นรูปหน้าลิงก์ขึ้นมาแทนคำว่า ถูกต้อง ถูกแล้ว ใช่แล้ว หรือ OK

แม้ว่าตัวอาคารยังเป็นแบบมาตรฐานโรงแรมทั่วไป เข้าใจว่าดัดแปลงจากอาคารที่มีอยู่เดิม จึงไม่น่าสนใจมากนัก

แต่เมื่อย่างเท้าผ่านประตูเข้าไปในโรงแรม จะตื่นตาตื่นใจไปกับโถงรับรอง ที่เป็นโถงขนาดใหญ่ โล่ง เรียบ ไม่มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ สิ่งตกแต่ง และพนักงาน เหมือนโรงแรมทั่วไป

ผนังด้านหนึ่งจะเป็นจอภาพขนาดใหญ่ ฉายภาพเคลื่อนไหวปรับเปลี่ยนไปมาสวยงาม ตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งคำต้อนรับผู้พักแรมที่เป็นองค์กร ที่มาเป็นหมู่คณะ หรือประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารสำคัญต่างๆ

อีกด้านหนึ่งของโถง จะมีตู้ล็อกเกอร์เรียงรายเต็มผนัง สำหรับให้ผู้ที่เข้าพักเก็บสัมภาระชั่วคราว

อีกด้านหนึ่งของโถง จะเป็นมุมที่ตั้งเครื่องคล้ายตู้เอทีเอ็มขนาดเล็ก สี่ห้าตู้ ที่ใช้เป็นตู้สำหรับลงทะเบียน

 

ถ้าเป็นคนจีน เพียงแค่นำพาสปอร์ตไปสแกนบนจอ เครื่องก็จะตรวจสอบการจองและการจ่ายเงิน พร้อมกับบันทึกภาพหน้าของผู้ที่เข้าพัก ให้ข้อแนะนำต่างๆ ในการเข้าพัก และที่สำคัญ หมายเลขห้องที่จะเข้าพัก

จากนั้น ผู้พักแรมก็เดินไปตามทางที่สวยงามน่าค้นหา ไปส่วนต่างๆ ของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นลิฟต์โดยสาร ห้องอาหาร บาร์ ร้านไอศกรีมและกาแฟ เป็นต้น

ห้องอาหารและบาร์ ยังคงรูปแบบเหมือนร้านอาหารและบาร์ทั่วไป เพียงแต่เมนูอาหารหรือเครื่องดื่มจะอยู่บนไอแพด ให้เลือกดูและสั่งตามต้องการ ในห้องอาหารจะมีบริกรหุ่นยนต์นำอาหารจากครัวมาให้ที่โต๊ะ ในบาร์ นอกจากจะฉายภาพนิ่ง ภาพยนตร์ มิวสิกวิดีโอ เต็มผนังสามด้านแล้ว จะมีหุ่นยนต์ทำหน้าที่ผสมเครื่องดื่ม

เช่นเดียวกับร้านไอศกรีมและกาแฟ ที่มีหุ่นยนต์ประจำการ พร้อมบริการตลอดเวลา

 

สําหรับผู้พักแรม เมื่อเข้าไปในลิฟต์โดยสาร จะมีกล้องตรวจจับใบหน้า เมื่อตรวจสอบว่าตรงกับฐานข้อมูล ก็จะตอบรับเป็นรูปหน้าลิงซ้อนเข้ามา ผู้พักแรมจึงสามารถกดเลขหมายชั้นที่ต้องการได้

พอเดินไปถึงหน้าห้องพัก เพียงแค่ไปยืนหน้าประตู เพื่อให้เครื่องตรวจสอบใบหน้า บานประตูก็จะเปิดอัตโนมัติ

ที่น่าสนใจคือ กล้องจับภาพในลิฟต์โดยสารและประตูเข้าห้อง จะโยกย้ายตามตำแหน่งของผู้พักแรม โดยไม่ต้องยืนนิ่ง เหมือนตอนผ่านการตรวจคนเข้าเมืองของบ้านเรา

ภายในห้องพัก แม้ว่ารูปแบบยังคล้ายห้องพักมาตรฐาน คือ แยกส่วนพักและส่วนห้องน้ำ แต่มีรูปลักษณ์ทันสมัย คล้ายอยู่ในยานอวกาศ ตกแต่งด้วยไฟหลืบและแถบไฟ แสงยังเปลี่ยนสีและระดับความสว่างไปมา

ทำให้ตื่นเต้นเร้าใจ

 

เสียดายว่า โรงแรมนี้ยังไม่พร้อมจะรองรับภาษาอื่น นอกจากภาษาจีน ที่จะใช้สื่อกับระบบต่างๆ ในห้อง ไม่ว่าจะเป็น ระบบปรับอากาศ ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ม่าน โทรทัศน์ รวมทั้งการติดต่อสื่อสารกับโรงแรม

เพราะทุกอย่างพร้อมบริการ เพียงแค่เอ่ยปากหรือส่งเสียง (ภาษาจีน) สั่งการเปิด-ปิดไฟ บ่นว่าร้อนหรือหนาว อยากเปิดหรือปิดผ้าม่าน หรือจะนอนแล้วให้ปิดโทรทัศน์

ยังรวมไปถึงการใช้บริการห้องอาหาร และห้องออกกำลัง ที่เพียงแค่โผล่หน้าไปที่ประตู หรือจอรับภาพ ก็จะผ่านเข้าไปได้

ภาพลักษณ์โรงแรมที่ทันสมัย ด้วยระบบต่างๆ ที่เปลี่ยนไป และต่างไปจากมาตรฐานโรงแรมเดิม ไม่มีการลงทะเบียนและชำระเงิน ไม่มีพนักงานต้อนรับ เจ้าหน้าที่การเงิน เพราะธุรกรรมทั้งหมดผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

ไม่มีกุญแจ คีย์การ์ด หรือการกดเลขรหัส เพราะใช้ระบบจดจำใบหน้า

ไม่มีพนักงานบริการ รูมเซอร์วิส เสิร์ฟอาหาร เพราะมีหุ่นยนต์ทำหน้าที่แทน

ไม่มีปุ่มสวิตช์และรีโมตในห้องพัก เพราะใช้เสียงสั่งการแทน

เพียงแค่นี้ ดูจะเปลี่ยนโลกทัศน์เกี่ยวกับโรงแรมไปมาก จนเกิดความสงสัยว่า ต่อไปสถาปนิกจะออกแบบโรงแรมอย่างไรให้สอดคล้องกับระบบและวิถีที่แปรเปลี่ยนไป

ที่สำคัญ รูปแบบและภาพลักษณ์ของโรงแรม ไม่น่าจะเหมือนเดิม