แมลงวันในไร่ส้ม

บิ๊กตู้โล่ง-กม.งบ ‘ฉลุย’

ฝ่ายค้านดัดหลังงูเห่า

งดออกเสียง-อนค.วุ่น

 

โล่งอกกันไป เมื่อที่ประชุมสภาวันที่ 19 ตุลาคม รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2563 ด้วยคะแนน 251-0 ไม่มีเสียงคัดค้าน ส่วนฝ่ายค้าน 234 เสียง พากันงดออกเสียงทั้งหมด ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

ที่จริงฝ่ายค้านส่งสัญญาณเป็นนัยๆ มาก่อนแล้วว่าจะให้โอกาสรัฐบาลในการอภิปรายวันที่ 17 ตุลาคม อันเป็นวันแรก นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ว่า ยังตอบไม่ได้ว่าฝ่ายค้านจะโหวตยังไง ต้องดูจนนาทีสุดท้าย ยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ต้องการล้มรัฐบาล และจะไม่เอางบประมาณมาเป็นเกมการเมือง เพราะเมื่องบประมาณไม่ผ่าน ไม่ได้กระทบเฉพาะรัฐบาลเท่านั้น แต่จะกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง

แต่รัฐบาลต้องเปิดใจกว้างแสดงท่าทีและไมตรีว่าจะนำสิ่งที่ฝ่ายค้านเสนอแนะไปปรับปรุงในวาระที่ 2 ซึ่งเราก็พร้อมให้โอกาส แต่ถ้าดูแล้วไม่มีท่าทีตอบรับก็อย่ามาโทษฝ่ายค้าน เพราะต้องยอมรับว่างบประมาณมีข้อบกพร่องมากแทบจะทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะงบประมาณแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่มีน้อย ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ ขณะที่บางงบประมาณอย่างงบฯ กลางก็ไปกองให้สูงขึ้น ซึ่งปกติจะจัดสรรงบฯ กลางไว้ไม่เกิน 10% ทำให้มากผิดปกติ

การลงมติของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านน่าจะเป็นไปในทางเดียวกัน ในส่วนของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการคาดโทษ สังคมจะเป็นคนตัดสิน ซึ่งทุกคนจะรู้กันในใจว่าถ้าใครไม่รับทิศทางพรรคก็จะไม่มีการขับออกจากพรรค แต่การเลือกตั้งจะไม่ได้ลงสมัคร

 

และต่อมาในวันที่ 19 ตุลาคม ก่อนลงมติในตอนค่ำ นายสุทิน คลังแสง อภิปรายปิดในส่วนของฝ่ายค้านว่า หากเทียบการจัดงบประมาณ 100 บาท งบฯ ประจำ 80 เปอร์เซ็นต์ งบฯ ลงทุน 20 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่างบฯ พัฒนาประเทศมีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ถ้างบฯ ลงทุนน้อย ประสิทธิภาพการบริหารงบฯ ยังน้อย จะไปกู้ภาวะเศรษฐกิจได้อย่างไร อีกทั้งยังลงทุนในส่วนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

และกล่าวว่า ในวันนี้ ถ้าจะยกมือให้ก็ทำใจลำบาก ถ้าจะให้ตกเราก็ห่วงประเทศ ใจไม่ได้ด้านพอ ห่วงชาวบ้านรอใช้เงิน และยิ่งช้ามา 4 เดือน มีเวลาใช้เงินไม่ถึง 8 เดือน จะให้โอกาส แต่มีข้อแม้ว่าในวาระ 2 หวังว่าเราจะช่วยกันดีที่สุดที่ทำได้ แก้ตามที่อำนวย ถ้าทำได้ วาระ 3 ยกมือให้ทุกคน ผ่าน บ้านเมืองเดินหน้าได้ แต่ถ้าไม่ทำขอสงวนสิทธิคว่ำเลย อย่าประมาท เลือกตั้งครั้งหน้ามือพวกผมอาจจะเยอะกว่าพวกท่านก็ได้ ฝ่ายค้านให้โอกาสรัฐบาลไปทำตามที่พวกผมเสนอ แล้ววาระ 2 วาระ 3 ค่อยว่ากันอีกที

จากนั้นที่ประชุมลงมติรับหลักการ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาจำนวน 64 คน โดยพรรคอนาคตใหม่เสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถูกพักการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีคดีหุ้นสื่อเข้ามาเป็นกรรมาธิการด้วย

 

สําหรับมติงดออกเสียงของฝ่ายค้าน นอกจากเป็นไปเพื่อให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณที่ล่าช้ามามากแล้วได้ผ่านขั้นตอน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อคะแนนนิยมของพรรคฝ่ายค้าน

ยังมีผล “ดัดหลัง” เกมที่จะซื้องูเห่า เพื่อแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาล และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ เป็นกฎหมายสำคัญ ที่รัฐบาลแพ้ไม่ได้ หากแพ้จะต้องลาออก

มติงดออกเสียง ทำให้บรรดา “ดีล” ต่างๆ ที่มีการเชิญชวน ส.ส.ไปรับประทานอาหาร ทั้งที่โรงแรมใกล้สภาและร้านอาหารชื่อดังแถวถนนวิภาวดีต้องเป็นหมันไป เพราะรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพาเสียงของงูเห่า

หลังจากลงมติ มีข่าวแพร่สะพัดว่า พบ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ลงคะแนนรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ

วันรุ่งขึ้น 20 ตุลาคม ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7 พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็น ส.ส.เพียงคนเดียวของพรรคที่โหวตสวนมติพรรค

และยังเป็น 1 ใน 4 คนที่โหวตสวนมติพรรค ในการโหวต พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังฯ ก่อนหน้านั้น

น.ส.กวินนาถแถลงว่า เหตุผลที่โหวตสวนมติ ตนเป็น ส.ส.เขต ที่มีปัญหาเชิงพื้นที่เยอะ เราไม่ได้เห็นด้วยกับทุกเรื่อง เราแค่รับหลักการเท่านั้น แต่ยังมีวาระที่สอง ที่สามอีก หากวาระที่เหลือไม่ดี เราก็ไม่โหวตให้ แต่เป็นการรับเพื่อเปิดทางให้ทีมงานในพื้นที่ทำงานต่อได้สะดวก

“ทุกท่านทราบว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่แล้ว แล้วมันผิดหรือ ที่เราทำอะไรที่ทำให้ทีมงานในพื้นที่ทำงานได้สะดวกและสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น นี่เป็นเจตนาที่ดี แต่เรายังไม่มีโอกาสพูดอะไรเลย ซึ่งการที่ตนเห็นชอบนั้น ในอนาคตมันก็อาจจะผ่าน ซึ่งมันไม่ใช่ว่าไม่ดีซักอย่าง”

น.ส.กวินนาถกล่าวต่อว่า ที่ทุกคนตีข่าวกันว่ารับเงินสิบล้าน ก็ขอให้เอาหลักฐานมาให้ดู ตนขอสาบานต่อหน้าไฟเลยว่า ไม่เคยไปรับเงินที่ร้านเพลินตามข่าวลือที่ปรากฏ กลายเป็นว่า การที่เราสวนมติครั้งนี้ก็กลายเป็นงูเห่า รัฐบาลมีเสียงมากกว่าอยู่แล้ว เขาจะมาซื้ออะไรแค่คนเดียว ก่อนหน้านี้มีคนมาเสนอ 30 50 70 ล้าน แล้ว ถ้าจะไปก็ไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จะมาไปอะไรแค่ 10 ล้าน

พร้อมกับยืนยันว่า ไม่ว่ากดดันอย่างไรก็ไม่ลาออกจาก ส.ส. และพรรคอนาคตใหม่ แต่ถ้าเป็นมติพรรค ก็ยอมรับ ช่วงที่สวนมติพรรคไป ก็มีหลายพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล มาให้กำลังใจ และบอกว่าให้ไปกับเขาได้ ถ้าไม่มีทางไป

เมื่อถามว่า การปิดช่องทางการติดต่อส่วนตัวไป มีกระแสตีกลับอย่างไรบ้าง นางสาวกวินนาถกล่าวว่า พอปิดช่องทางการติดต่อกับประชาชน ก็โดนทักไปหาคุณแม่ หรือไปยังครอบครัวคนอื่นๆ แต่ไม่ได้โดนคุกคามเรื่องความปลอดภัย มีเพียงแต่คำขู่ของคนในโซเชียล และคนในพื้นที่บางกลุ่มเท่านั้น

นั่นคือเกมการเมืองที่เกิดขึ้นในการพิจารณางบประมาณฉบับแรกของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แต่ก็ยังเป็นการพิจารณาในวาระแรก อันเป็น “ด่านแรก” เท่านั้นเอง

ฝ่ายค้านระบุว่า ในวาระที่สาม อาจจะลงมติคว่ำร่าง พ.ร.บ.ก็ได้ ซึ่งหมายถึงรัฐบาลเองจะต้องเตรียมพร้อม

และยังไม่มีใครรู้ว่าจะมีงูเห่าออกมาโชว์โฉมอีกจำนวนเท่าไหร่กันแน่