ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18 - 24 ตุลาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
ผู้เขียน | นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
เผยแพร่ |
การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
The Umbrella Academy : Apocalypse Suite
บทเพลงโลกาวินาศ ตอนที่ 2
เด็ก 43 คนเกิดจากหญิงโสดที่มิได้ตั้งครรภ์ เซอร์เรจินัลด์ ฮาร์กรี๊ฟ หรืออีกชื่อหนึ่ง เดอะโมโนเคิล ค้นพบและนำมาเลี้ยงดู 7 คน พวกเขามีความสามารถพิเศษ แต่พวกเขาก็เป็นเหมือนพี่น้องทั่วไปคือไม่ลงรอยกันเสียทีเดียว มากไปกว่านี้คือมีพ่อที่เลี้ยงพวกเขาด้วยวัตถุประสงค์บางประการ และมีแม่เป็นหุ่นยนต์
บทที่ 4 BABY, I’LL BE YOUR FRANKENSTEIN เด็กน้อย ฉันจะเป็นแฟรงเกนสไตน์ให้เธอเอง
บทที่ 4 เริ่มต้นด้วยการย้อนอดีตของแวนย่า คือหมายเลข 7 ของดิอัมเบรลล่าอะคาเดมี่ เธอวิ่งร้องไห้ไปตามโถงทางเดินพร้อมไวโอลินที่แตกทำลาย เป็นเธอเองที่ฟาดมันพัง
“หนูไม่มีค่า หนูไม่เหมือนคนอื่น หนูไม่มีความสามารถพิเศษ” เธอร้องไห้จ้า
ด๊อกเตอร์ชิมแปนซีโปโกเข้ามาปลอบ “เธอพูดถูก เธอไม่เหมือนคนอื่น แต่เธอไม่จำเป็นต้องทำลายข้าวของเพื่อพิสูจน์ตัวเองนี่นา”
เด็กหรือวัยรุ่นที่เติบโตมาโดยไร้ตัวตน (self) มักจะกรีดข้อมือหรือทำลายข้าวของเมื่อเครียดหรือผิดหวัง เมื่อเปล่าเปลี่ยวหรือเมื่อไม่เป็นที่ต้องการ
แวนย่าดูเหมือนจะออกอาการเช่นนั้น
ตัดมาที่ปัจจุบัน สองวันก่อนโลกาวินาศ ที่อิคารัสเธียเตอร์ในดาวน์ทาวน์
แวนย่ามาตามนัดชายลึกลับเพื่อร่วมวงออเคสตร้าโลกาวินาศ แต่ตอนนี้เธอถูกจับขึงพืดบนเตียงทดลอง ชายลึกลับกำลังจะสร้างเธอขึ้นมาใหม่ เขาบอกเธอว่าเธอและพี่น้องเป็นหนูทดลองของเดอะโมโนเคิล คนที่พวกเขาเรียกว่าพ่ออยู่แล้ว พ่อของพวกเขาศึกษาและทดลองพวกเธอตอนที่ทุกคนหลับ
“เธอคือคนที่อันตรายที่สุด” เป็นข้อสรุปของเดอะโมโนเคิล
ขณะเดียวกันหมายเลขห้าและด๊อกเตอร์ชิมแปนซีโปโกออกตามหาเบาะแสของผู้ที่คิดล้างโลก หมายเลขห้ารู้ดีว่ามีเวลาเหลือเพียงสองวันเพราะเขาเห็นโลกาวินาศมาแล้วกับตา เขาเล่าให้โปโกฟังว่า หลังจากนั้นจะไม่มีมนุษย์คนใดเหลืออยู่บนโลกอีกเลย
มีเขาคนเดียวที่ดำรงชีวิตอยู่ต่อไปอีกห้าสิบปีโดยไม่เป็นบ้าไปเสียก่อน
ข้างชายลึกลับผู้ทำหน้าที่ประหนึ่งด๊อกเตอร์แฟรงเกนสไตน์ที่สร้างสาวน้อยหมายเลขเจ็ดขึ้นมาใหม่ มันบอกว่าบทเพลงโลกาวินาศบรรเลงด้วยคนที่เกลียดโลกก็จริง แต่จะไม่ประสบผลสำเร็จหากขาดเสียงไวโอลินของเธอที่จะบรรเลง “ความขาว” บริสุทธิ์เพื่อกวาดล้างความสกปรกให้สิ้น มันจะเปลี่ยนเธอได้เมื่อเธอตัดพี่ตัดน้องตัดพ่อ-แม่ให้หมด เป็นสตรีเดียวดายแท้จริง
แวนย่าเป็นสตรีเดียวดายแท้จริงแล้ว มันสร้างเธอเสร็จแล้ว เธอกลายเป็นไวโอลินขาว
ลูเธอร์หมายเลขหนึ่ง อัลลิสันหมายเลขสาม และณอนหมายเลขสี่ สามคนนี้ยังไม่ไปไหน พวกเขาพบหมายเลขสองคราเคน ลูเธอร์พูดว่าคราเคนเป็นเช่นนี้เพราะรู้สึกว่าพ่อไม่รัก คราเคนสวนว่าพ่อไม่ได้รักพวกเราสักคน จะเห็นว่าในขณะที่โลกจะดับในสองวัน ผู้ใหญ่อายุสามสิบพวกนี้ยังวนเวียนอยู่ที่ปมอิดิปัส พ่อรักใครหรือไม่รักใคร
ต่างจากหมายเลขห้าที่ปัจจุบันอยู่ในร่างกายเด็กอายุสิบขวบ เขาจากบ้านห้าสิบปี ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ แต่เขากลับเป็นคนเดียวที่มีบ้าน เมื่อบ้านแปลว่าพี่น้อง แม้เขาติดอยู่ในอนาคตห้าสิบปีแต่ความผูกพันกับพี่น้องเป็นตัวดึงเขากลับมา มิใช่พ่อ-แม่หรือลิงจ๋อเร่งสมองที่นั่งคุยอยู่กับเขาตอนนี้
แวนย่าในร่างไวโอลินขาวพร้อมแล้ว เธอสีไวโอลิน แล้วร่างของชายลึกลับก็แยกออกเป็นสองเสี่ยง เลือดไหลนองต่อหน้าต่อตานักดนตรีฆาตกรคนอื่นๆ ที่ยืนตกตะลึงพรึงเพริดอย่างไม่เชื่อสายตา
สำหรับตอนจบของหนังสือ คือบทที่ 6 จะอ่านเองหรือดูหนังเลือกได้
ในหน้าคำนำและบทส่งท้ายของหนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องที่ผู้เขียนคือเจอราร์ด เวย์ เริ่มต้นเขียนการ์ตูนเรื่องนี้เมื่อคริสต์มาสปี 2006 ระหว่างเดินสายทัวร์รายการหนึ่ง เขาเป็นนักดนตรีและนักเขียนเพลง
เขาเล่าพล็อตเรื่องให้บางคนฟัง และเปิดรับคำวิพากษ์ เขาเสนองานและตอบรับงานเขียนที่มีเส้นตายนี้โดยไม่ลังเลแม้ว่ายังตะลอนทัวร์อยู่ เขาเริ่มเขียนดิอัมเบรลล่าอะคาเดมี่นี้ที่โรงแรมเบนสัน พอร์ตแลนด์ เขาสูบบุหรี่ ดื่มกาแฟจัด และเขียนงานทุกคืน โดยทั่วไปงานเขียนระดับนี้ควรทำที่บ้านอันอบอุ่น แต่เขาไม่ถอยหนีเมื่อพบว่าตนเองต้องเขียนท่ามกลางความหนาวเหน็บ
เจอราร์ดไม่ได้เขียนหน้าแรกตามที่ปรากฏในหนังสือการ์ตูน เขาเริ่มต้นด้วยภาพวาดร่างใครบางคนในงานศพล้อมรอบด้วยซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มหนึ่ง คือฉากแรกที่เขาเริ่มต้น
เขาเขียนแต่ละตอนส่งจากหลายที่ทั่วโลก โตเกียว รัสเซีย เนวาด้า เยอรมนี เจอร์ซีย์ โดยที่นักวาดคือเกเบรียล บา ต้องวาดตอนละ 22 หน้าจากอเมริกาใต้ให้ทันเวลาส่งตีพิมพ์ที่สหรัฐอเมริกา
งานนี้ทำมิได้หากมิใช่การสื่อสารที่ดีทั่วโลก แต่ที่สำคัญกว่าคือความมุ่งมั่นและไม่ถอยหนีของเจอราร์ดเอง รวมทั้งความรับผิดชอบระดับสูง นั่นคือเมื่อรับปากแล้วต้องทำได้
เจอราร์ดกำหนดแกนของเรื่องให้เป็นเรื่องของวิวัฒนาการ ตอนแรกๆ จึงเกี่ยวข้องกับวานร วานรตัวแรกคือโปโกที่ได้รับการเร่งสมองจากฮาร์กรี๊ฟจนกระทั่งเดินและพูดได้ เป็นด๊อกเตอร์ด้วย วานรตัวที่สองคือหมายเลขหนึ่งหรือลูเธอร์ งานออกแบบแรกๆ ของลูเธอร์ตั้งใจให้เขาเหมือนกอริลล่า ชุดอวกาศของเขาก็ละม้ายคล้ายกอริลล่า ซึ่งจะได้ไปอวกาศในที่สุด
ภาพโฆษณาแรกๆ ของการ์ตูนชุดนี้เป็นภาพเด็ก 7 คนและซูเปอร์ฮีโร่ทั้ง 7 เดินตามเซอร์เรจินัลด์ ฮาร์กรี๊ฟ โดยที่หมายเลขหนึ่งเป็นคนที่หนึ่งที่เดินตามเขา เลียนแบบแผนภาพวิวัฒนาการที่เราคุ้นเคย แล้วชวนให้เข้าใจผิดเสมอๆ ว่าคนมาจากลิง
การ์ตูนและหนังซูเปอร์ฮีโร่ยังคงผลิตออกมาได้เรื่อยๆ ด้วยโครงเรื่องและประเด็นที่แตกต่าง แต่อย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือพวกเขาเป็น “เด็กพิเศษ” และเด็กพิเศษคือ ผู้มีความสามารถพิเศษ
ลำพังข่าวสารนี้ก็คุ้มค่าอ่านหรือดูแล้ว