บทความพิเศษ/นงนุช สิงหเดชะ /ประท้วงฮ่องกง Ugly ขึ้นเรื่อยๆ ฝีมือของ Ugly American?

บทความพิเศษ/นงนุช สิงหเดชะ

ประท้วงฮ่องกง Ugly ขึ้นเรื่อยๆ

ฝีมือของ Ugly American?

 

สถานการณ์ประท้วงในฮ่องกงซึ่งยืดเยื้อมากว่า 4 เดือน ได้พัฒนาจากการประท้วงอย่างสันติสวยงามกลายมาเป็นความรุนแรง ร้ายกาจและน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

กระทั่งสื่อมวลชนเริ่มจะพาดหัวข่าวบรรยายสภาพที่เกิดขึ้นว่า ugly เพราะว่าผู้ประท้วงก่อความรุนแรงหนักหน่วงขึ้นแบบไร้ขอบเขต

กระทั่งไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตของคนอื่น และยังทำร้ายร่างกายผู้เห็นต่าง

ล่าสุดนี้มีการเผาทำลายทรัพย์สินที่เป็นของนักธุรกิจจีนแผ่นดินใหญ่หรือที่เกี่ยวข้องกับจีนแผ่นดินใหญ่ หรือผู้ที่พวกเขาเห็นว่าสนับสนุนปักกิ่ง

มีการชกต่อยพนักงานธนาคารเจพีมอร์แกนเชส ที่เป็นชาวจีนจนแว่นตาหลุดกระเด็นและได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ประท้วงคนอื่นๆ ไม่ได้ห้ามปราม

มีการชกดาราหญิงที่ไปถ่ายภาพกลุ่มที่กำลังทำลายตู้เอทีเอ็ม จนเลือดอาบ เป็นต้น

ที่น่าเกลียดน่ากลัวก็คือการเผาและทุบทำลายอุปกรณ์ของสถานีรถไฟใต้ดิน แถมยังบุกเข้าไปทุบทำลายตู้รถไฟที่อยู่ระหว่างให้บริการและยังมีผู้โดยสารอยู่ในนั้น

บางคนโยนระเบิดเพลิงไปบนหลังคารถไฟจนเกิดไฟลุก ท่ามกลางเสียงกรีดร้องตกใจของผู้โดยสาร

ความ ugly ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่านั้นคือการขยายจากการเรียกร้องประชาธิปไตยไปเป็นความเกลียดชังเผ่าพันธุ์เพราะมีการมุ่งเป้าทำร้ายร่างกายคนจีนแผ่นดินใหญ่ในฮ่องกง

ซึ่งขัดกับหลักประชาธิปไตย

 

ความรุนแรงที่ยกระดับมากขึ้นนี้ เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ตำรวจใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ประท้วงที่เป็นนักศึกษาชายวัย 18 ปีจนได้รับบาดเจ็บ ตามด้วยประกาศฉบับใหม่ของรัฐบาลที่ห้ามผู้ชุมนุมใส่หน้ากากปิดบังใบหน้า

ในกรณีที่ตำรวจใช้กระสุนจริงนั้น ตามคลิปที่ปรากฏเป็นสถานการณ์ที่ฝ่ายผู้ประท้วงหลายคนถือท่อนเหล็กเข้าล้อมกรอบรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีเพียง 2 นาย

นายหนึ่งถูกตีล้มลงกับพื้นและถูกผู้ประท้วงรุมตีซ้ำ

ส่วนผู้ประท้วงที่ถูกยิงนั้นเป็นเพราะถือท่อนเหล็กเข้าตีที่ท่อนแขนของตำรวจอีกนาย ทำให้ตำรวจนายนั้นยิงกระสุนจริงใส่ เจตนาก็น่าจะเพื่อป้องกันตัวเองและช่วยเพื่อนตำรวจอีกคนที่กำลังถูกทำร้ายอยู่

ผู้ชุมนุมอาจอ้างว่าการใช้ความรุนแรงเป็นความชอบธรรมของพวกเขา เพราะรัฐบาลใช้ความรุนแรงก่อน

อย่างไรก็ตาม หากไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ ก่อนจะมาถึงการใช้กระสุนจริงและออกกฎหมายห้ามสวมหน้ากากชุมนุม ทางผู้ชุมนุมก็ก่อความรุนแรงมาก่อนเช่นกัน ทั้งการยึดสนามบิน ทำลายสถานีรถไฟและอุปกรณ์ต่างๆ จนใช้การไม่ได้

ทำลายทรัพย์สินสาธารณะอย่างที่ทำการสภานิติบัญญัติจนเสียหายอย่างหนัก

 

สภาพของฮ่องกงในเวลานี้น่าจะใกล้โคม่า เพราะเกือบทุกอย่างเริ่มจะอัมพาต บางวันต้องหยุดให้บริการรถไฟฟ้าหมดทุกสาย บางวันหยุดครึ่งหนึ่ง ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าต้องปิดทำการเป็นระยะ ส่วนตู้เอทีเอ็มก็ถูกผู้ประท้วงทำลายใช้การไม่ได้ไปกว่า 3,000 เครื่องทั่วเกาะ ความเสียหายทางเศรษฐกิจเริ่มเห็นชัด

การคมนาคมที่เป็นอัมพาต สร้างความตื่นตกใจให้กับชาวฮ่องกง ถึงกับแห่ซื้อสินค้าไปตุนไว้ ทำให้สินค้าเกลี้ยงร้านอย่างรวดเร็ว

ยังไม่เห็นโพลออกมาว่าล่าสุดนี้ชาวฮ่องกง 7 ล้านกว่าคนเห็นด้วยหรือเอาด้วยกับผู้ประท้วงมากน้อยแค่ไหน หลังจากที่พวกเขาได้รับผลกระทบหนักในชีวิตประจำวันจากการประท้วง

อย่างไรก็ตาม มีทั้งคนที่โทษรัฐบาลและโทษผู้ประท้วงที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายอยู่ในขณะนี้ บางคนก็โทษทั้งสองฝ่ายพอๆ กัน บางคนอยากให้เจ้าหน้าที่ใช้ความเด็ดขาด ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ประท้วงก่อจลาจลสร้างความเดือดร้อนเป็นเวลานาน

 

สภาพปัญหาของฮ่องกงดูคล้ายจะหาทางออกลำบาก เพราะเกิดความแตกแยกอย่างหนักทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน เพราะอีกฝ่ายถือหางพวกเรียกร้องประชาธิปไตย อีกฝ่ายถือหางจีนแผ่นดินใหญ่

ความยุ่งยากซับซ้อนของปัญหาส่วนหนึ่งถูกวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะการแทรกแซงของต่างชาติ โดยเฉพาะอเมริกา ที่กำลังจะผ่านกฎหมายเพื่อเปิดโอกาสให้สหรัฐแซงก์ชั่นฮ่องกงได้ หากเจ้าหน้าที่ฮ่องกงหรือเจ้าหน้าที่จีนคนใดใช้ความรุนแรงจัดการผู้ประท้วง การแสดงท่าทีเช่นนี้ของสหรัฐทำให้รัฐบาลฮ่องกงไม่กล้าใช้ความเด็ดขาดยุติปัญหา ซึ่งก็สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนส่วนหนึ่งที่อึดอัดกับภาวะที่เป็นอยู่

ขณะที่ซีกของผู้ประท้วงก็ฮึกเหิมได้ใจที่มีสหรัฐถือหาง ทำให้มั่นใจว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่จะไม่กล้าใช้มาตรการเด็ดขาดกับพวกตนไม่ว่าจะประท้วงด้วยความรุนแรงแค่ไหนก็ตาม แต่การใช้ความรุนแรงก็ไม่อาจรับประกันชัยชนะ เพราะคงยากมากที่จีนจะอ่อนข้อตามสิ่งที่พวกเขาเรียกร้องทั้งหมด

การแทรกแซงของสหรัฐนั้น มองเผินๆ ก็อาจดูว่าเป็นเรื่องปกติในการปกป้องผู้เรียกร้องประชาธิปไตย

แต่ลึกๆ แล้วมีความเป็นไปได้ว่านี่คือแผนการหนึ่งในการทำลายจีนแผ่นดินใหญ่นอกเหนือจากการทำสงครามการค้ากับจีน เพราะสหรัฐรู้ว่าฮ่องกงคือสะพานเชื่อมจีนกับเข้าโลกเสรีภายนอก เคยเป็นศูนย์กลางการเงินโลก เคยสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติที่อยากลงทุนในจีน ใครอยากลงทุนในจีนก็สามารถทำได้ผ่านฮ่องกงเพราะที่นี่มีหลักประกันความมั่นใจของนักลงทุน เนื่องจากมีระบบศาลที่เป็นสากล

การที่สหรัฐขู่จะคว่ำบาตรฮ่องกงหากใช้ความรุนแรงจัดการผู้ประท้วง ทำให้รัฐบาลฮ่องกงและจีนอยู่ในสภาพอัมพาต ไม่สามารถยุติความเสียหายจากการประท้วงได้ เกมนี้ก็อ่านได้ว่าสหรัฐต้องการให้ผู้ประท้วงสร้างความเสียหายย่อยยับให้กับฮ่องกงมากที่สุด

ส่วนอนาคตของคนฮ่องกงหลังจากนี้ที่ต้องแบกรับผลเสียหายที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร สหรัฐอาจไม่สนใจ

 

ตอนนี้ผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นคนอายุน้อย มีความอ่อนต่อโลกอยู่มาก อาจคิดในมุมเดียวว่าต้องการเป็นอิสระจากจีน แต่พวกเขาลืมไปว่าการกระทำเช่นนี้จะสร้างหายนะให้กับฮ่องกงมากขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายแล้วหากจีนทนไม่ไหวใช้กำลังเข้าปราบแบบเทียนอันเหมินจริงๆ จะมีประเทศไหนรับพวกเขาทั้ง 7 ล้านคนไปอยู่ด้วย

คนที่จะได้รับการต้อนรับจากต่างชาติ รับตัวไปอุปถัมภ์ในนามของการลี้ภัย มีเพียงหัวโจกหรือแกนนำ ซึ่งมีข่าวว่าหัวโจกล็อตแรกสร้างผลงานเข้าตาตะวันตก จนได้ไปเสวยสุขในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว

บางทีพวกหัวโจกหรือแกนนำบางคนที่อยากหนีไปจากฮ่องกงอยู่แล้ว อาจมีจุดประสงค์แต่แรกที่จะสร้างผลงานโดดเด่นเพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่ปราบ จะได้นำเรื่องนี้ไปอ้างกับตะวันตกเพื่อขอลี้ภัยได้ โดยอ้างว่าตกอยู่ในอันตราย เพราะว่าถ้าขออพยพไปอยู่แบบธรรมดาค่อนข้างยาก

ปัจจุบันนี้ชาติตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกาในยุคทรัมป์ ไม่ต้อนรับผู้อพยพต่างชาติง่ายๆ ใครอยากไปขุดทองในอเมริกา แทบจะทำไม่ได้อีกต่อไป เพราะต่อไปนี้อเมริการับแต่คนรวย แต่ช่องทางหนึ่งที่จะขอลี้ภัยในอเมริกาหรือในชาติตะวันตกได้ง่ายที่สุดคือ การอ้างว่าตกอยู่ในภัยคุกคามทางการเมืองเพราะเรียกร้องประชาธิปไตย

บังเอิญว่าบางทีฝรั่งพวกนี้หูเบามาก ฟังความข้างเดียว แค่ได้ยินว่าเรียกร้องประชาธิปไตยแล้วถูกคุกคาม ก็จะหูผึ่งและเชื่อทันที

 

ในขณะที่ชาติตะวันตก หลีกเลี่ยงที่จะตำหนิความรุนแรงของฝ่ายผู้ประท้วง แต่เชื่อได้ว่าถ้าเป็นในประเทศตัวเอง พวกเขาจะไม่ยอมให้ม็อบไปถึงขั้นนี้ คือถึงขั้นทุบทำลายอาคารรัฐสภา ทำลายสถานีรถไฟ หรือยึดสนามบิน โดยเฉพาะอเมริกานั้น เชื่อได้แน่ว่าไม่มีทางที่ผู้ประท้วงจะผ่านประตูรั้วสนามบินเข้าไปได้

ถ้าใครฝ่าฝืนถึงขั้นเข้าไปในอาคารสนามบินน่าจะโดนยิงด้วยกระสุนจริงทันที เพราะตำรวจอเมริกันขี้ตกใจกว่าตำรวจประเทศอื่น แม้ไม่มีเหตุจวนตัวที่น่าจะอันตรายต่อชีวิต ก็สามารถยิงคนได้ง่ายๆ

เคยมีสื่อต่างชาติเสนอข่าว เป็นคลิปเหตุการณ์ในไทย มีชายคนหนึ่งถือมีดบุกโรงพัก แต่ตำรวจไทยไม่ยิงหรือทำร้ายผู้ชายคนนั้น แต่ใช้วิธีเกลี้ยกล่อมจนสำเร็จ ทำให้คนอเมริกันทึ่ง บอกว่าถ้าเป็นที่อเมริกา ชายคนนี้จะโดนตำรวจยิงทันที โดยไม่มีการเจรจาอะไรทั้งนั้น

การประท้วงในฮ่องกงที่ ugly ขึ้นเรื่อยๆ นี้ ugly American น่าจะมีส่วนอยู่ไม่น้อย และเท่ากับการันตีว่าตำนาน ugly American ยังยืนยง