ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 ตุลาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ |
ผู้เขียน | หนุ่มเมืองจันท์ |
เผยแพร่ |
ใครไม่ได้ไปงานมหกรรมหนังสือครั้งนี้ถือว่าพลาดอย่างแรง
เพราะเป็นครั้งแรกที่ย้ายสถานที่จัดมาที่อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
หลังจากที่ปักหลักอยู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มายาวนาน
ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของ “คนรักหนังสือ” ครับ
ผมไปลงอาคมเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา
คนแน่นมาก
วันอาทิตย์ เป็นผู้ดำเนินรายการสัมภาษณ์คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ตอนบ่าย แล้วมาลงอาคมต่อตอน 5 โมงเย็น
เป็นครั้งแรกที่ใส่สูทเซ็นชื่อ
คาดว่า “อาคม” น่าจะขลังกว่าเดิม
ผมอยู่ในงานเลยไม่รู้ว่าสภาพการจราจรภายนอกเป็นอย่างไร
แต่คนบอกว่ารถติดมาก
เจอน้องๆ หลายคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นวันแรกที่คนแน่น
เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่วันพุธ-พฤหัสบดี-ศุกร์
คนโหรงเหรง
“ว่างจนเล่นตะกร้อได้เลย” น้องคนหนึ่งบอก
“ไม่จริง” อีกคนหนึ่งเถียง
“เล่นฟุตบอลต่างหาก”
…ประมาณนั้น
ต้องยอมรับว่าการย้ายสถานที่จัดจาก “ศูนย์สิริกิติ์” ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองและมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน มาที่เมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ
ถือว่าไกลมาก
และมีผลต่อการเดินทางมางานในช่วงวันธรรมดา
เพราะคนทำงานส่วนใหญ่อยู่ใจกลางเมือง
สมัยก่อนตอนกลางวันก็พอจะแวบมาได้
หรือเลิกงานตอนเย็น ถ้าจะมางานหนังสือก็จะเหลือเวลาในการเลือกซื้อหนังสือพอสมควร
เพราะเดินทางจากที่ทำงานมาไม่ไกล
ถ้ากลัวรถติด ก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน
มีเวลาอยู่ในงานประมาณ 3-4 ชั่วโมง
คุ้มแล้ว
แต่ที่เมืองทองธานี เรื่องคิดจะแวบมาตอนกลางวัน
เลิกฝันไปเลย
ตอนเย็นเลิกงาน พอนึกว่าจะไปงานหนังสือ
สะดวกที่สุดคือต้องมีรถยนต์ส่วนตัว
ใช้เวลาจากใจกลางเมืองไม่ต่ำกว่า 1-2 ชั่วโมง
มีเวลาอยู่ในงานแค่ 1-2 ชั่วโมง
ไม่คุ้ม
รถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟฟ้าใต้ดินก็ไม่มี
มีเพียงกลุ่มเดียวที่ได้ประโยชน์ คือ คนที่ทำงานหรือบ้านอยู่แถบนี้
คนกลุ่มนี้ถ้าจัดที่ศูนย์สิริกิติ์…ไกล
เมืองทองธานี…ใกล้
แต่ปริมาณคนที่ได้มากับที่สูญเสียไป
เทียบกันไม่ได้เลย
แบบนี้ก็เรียบร้อยสิครับ
“เตะบอล” ได้เลย
ในแง่สถานที่จัดงาน อาคารชาเลนเจอร์ 2 ถือว่ามีความพร้อมมากกว่าศูนย์สิริกิติ์
เพราะอาคารเดียวรับได้ทุกสำนักพิมพ์
เดินง่าย
เข็นรถสบาย
ไม่เหมือนที่ศูนย์สิริกิติ์ ที่ต้องเดินขึ้นบันไดไปโซนพลาซา หรือชั้น 1 ชั้น 2
ใครมีรถเข็นจะลำบากมาก
อาหารการกินและห้องน้ำก็ดีกว่า
ทุกอย่างดีหมด
เสียอย่างเดียว
“คน” ไม่มา
พอถึงวันหยุดที่ “ลูกค้าเก่า” พร้อมจะเสียเวลาเดินทางมาซื้อหนังสือ
ปรากฏว่าการจราจรติดขัด
รถติดมโหฬาร
เพราะ “ที่จอดรถ” ไม่พอ
เข้ามาแล้วหาที่จอดไม่ได้
นักเขียนบางคนวนรถหาที่จอดประมาณ 1 ชั่วโมง
สุดท้ายตัดสินใจขับรถกลับบ้านเลย
ในอดีต “รถไฟฟ้าใต้ดิน” ยังช่วยบรรเทาเบาบางได้บ้าง
เป็นที่รู้กันว่าถ้าใครซื้อพอประมาณระดับยังไม่ถึงขั้นใช้ “รถเข็น”
ทุกคนเลือกมาทางรถไฟฟ้าใต้ดิน
เพราะไม่ต้องเจอกับปัญหารถติด
แต่ที่นี่ไม่มีรถไฟฟ้า
คนมีรถส่วนตัวก็ขับมาเองทุกคน
ส่วนที่นั่งรถตู้หรือรถเมล์ที่สมาคมเตรียมไว้บริการก็เจอปัญหารถติด
กว่ารถจะวนกลับมาก็เป็นชั่วโมง
นั่นคือ ภาพบรรยากาศของงานมหกรรมหนังสือครั้งนี้
แถมช่วงบ่ายของวันเสาร์-อาทิตย์ ยังเจอฝนตกอีก
ไม่ใช่เรียบร้อยแล้วครับ
แต่เรียบ “พัน” เลย
มีคนเล่นมุขเจ็บๆ บอกเพื่อนในเพซบุ๊ก
…ถ้าใครที่ไปงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์แล้วบ่นว่ารถติด
อย่ามาที่นี่เด็ดขาด
ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมครับ
แต่จริงๆ แล้วนี่คือ “โอกาส”
ว่ากันว่า ทุก “วิกฤต” จะมี “โอกาส” เกิดขึ้นเสมอ
ผมเชื่อว่าทุกคนจะได้ยินได้ฟังในสิ่งที่ผมเขียนมา
แล้วเขาจะเข็ดขยาด
ไม่กล้ามา
นั่นคือ “โอกาสทอง” ของเรา
นอกจากคนจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดเยอะเลยเพราะเป็นวันหยุดยาว
คนที่อยู่เมืองกรุงและอยากไปงานหนังสือก็กลัว “รถติด” และหา “ที่จอดรถ” ยาก
คิดเหมือนกันเยอะๆ
รถจะไม่ติด
คิดว่าหา “ที่จอดรถ” ไม่ได้
แบบนี้จะมี “ที่ว่าง” จอดรถอย่างแน่นอน
เสาร์-อาทิตย์นี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเรา
ไปงานมหกรรมหนังสือกันเถอะครับ
คนฉลาดๆ หน้าตาดีๆ เยอะมากเลย
ทั้ง “คนอ่าน”
แฮ่ม….และ “นักเขียน”
ผมไปประจำการวันอาทิตย์นี้
เวลา 13.00-14.30 น. นะครับ
ใครว่างเจอกัน
เชื่อผม…
รถไม่ติดหรอก
ที่จอดรถก็หาง่าย
มาเถอะ…