หนุ่มเมืองจันท์ | ความกลัว-โอกาส

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ใครไม่ได้ไปงานมหกรรมหนังสือครั้งนี้ถือว่าพลาดอย่างแรง

เพราะเป็นครั้งแรกที่ย้ายสถานที่จัดมาที่อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

หลังจากที่ปักหลักอยู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มายาวนาน

ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของ “คนรักหนังสือ” ครับ

ผมไปลงอาคมเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา

คนแน่นมาก

วันอาทิตย์ เป็นผู้ดำเนินรายการสัมภาษณ์คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ตอนบ่าย แล้วมาลงอาคมต่อตอน 5 โมงเย็น

เป็นครั้งแรกที่ใส่สูทเซ็นชื่อ

คาดว่า “อาคม” น่าจะขลังกว่าเดิม

ผมอยู่ในงานเลยไม่รู้ว่าสภาพการจราจรภายนอกเป็นอย่างไร

แต่คนบอกว่ารถติดมาก

เจอน้องๆ หลายคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นวันแรกที่คนแน่น

เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่วันพุธ-พฤหัสบดี-ศุกร์

คนโหรงเหรง

“ว่างจนเล่นตะกร้อได้เลย” น้องคนหนึ่งบอก

“ไม่จริง” อีกคนหนึ่งเถียง

“เล่นฟุตบอลต่างหาก”

…ประมาณนั้น

ต้องยอมรับว่าการย้ายสถานที่จัดจาก “ศูนย์สิริกิติ์” ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองและมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน มาที่เมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ

ถือว่าไกลมาก

และมีผลต่อการเดินทางมางานในช่วงวันธรรมดา

เพราะคนทำงานส่วนใหญ่อยู่ใจกลางเมือง

สมัยก่อนตอนกลางวันก็พอจะแวบมาได้

หรือเลิกงานตอนเย็น ถ้าจะมางานหนังสือก็จะเหลือเวลาในการเลือกซื้อหนังสือพอสมควร

เพราะเดินทางจากที่ทำงานมาไม่ไกล

ถ้ากลัวรถติด ก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน

มีเวลาอยู่ในงานประมาณ 3-4 ชั่วโมง

คุ้มแล้ว

แต่ที่เมืองทองธานี เรื่องคิดจะแวบมาตอนกลางวัน

เลิกฝันไปเลย

ตอนเย็นเลิกงาน พอนึกว่าจะไปงานหนังสือ

สะดวกที่สุดคือต้องมีรถยนต์ส่วนตัว

ใช้เวลาจากใจกลางเมืองไม่ต่ำกว่า 1-2 ชั่วโมง

มีเวลาอยู่ในงานแค่ 1-2 ชั่วโมง

ไม่คุ้ม

รถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟฟ้าใต้ดินก็ไม่มี

มีเพียงกลุ่มเดียวที่ได้ประโยชน์ คือ คนที่ทำงานหรือบ้านอยู่แถบนี้

คนกลุ่มนี้ถ้าจัดที่ศูนย์สิริกิติ์…ไกล

เมืองทองธานี…ใกล้

แต่ปริมาณคนที่ได้มากับที่สูญเสียไป

เทียบกันไม่ได้เลย

แบบนี้ก็เรียบร้อยสิครับ

“เตะบอล” ได้เลย

ในแง่สถานที่จัดงาน อาคารชาเลนเจอร์ 2 ถือว่ามีความพร้อมมากกว่าศูนย์สิริกิติ์

เพราะอาคารเดียวรับได้ทุกสำนักพิมพ์

เดินง่าย

เข็นรถสบาย

ไม่เหมือนที่ศูนย์สิริกิติ์ ที่ต้องเดินขึ้นบันไดไปโซนพลาซา หรือชั้น 1 ชั้น 2

ใครมีรถเข็นจะลำบากมาก

อาหารการกินและห้องน้ำก็ดีกว่า

ทุกอย่างดีหมด

เสียอย่างเดียว

“คน” ไม่มา

พอถึงวันหยุดที่ “ลูกค้าเก่า” พร้อมจะเสียเวลาเดินทางมาซื้อหนังสือ

ปรากฏว่าการจราจรติดขัด

รถติดมโหฬาร

เพราะ “ที่จอดรถ” ไม่พอ

เข้ามาแล้วหาที่จอดไม่ได้

นักเขียนบางคนวนรถหาที่จอดประมาณ 1 ชั่วโมง

สุดท้ายตัดสินใจขับรถกลับบ้านเลย

ในอดีต “รถไฟฟ้าใต้ดิน” ยังช่วยบรรเทาเบาบางได้บ้าง

เป็นที่รู้กันว่าถ้าใครซื้อพอประมาณระดับยังไม่ถึงขั้นใช้ “รถเข็น”

ทุกคนเลือกมาทางรถไฟฟ้าใต้ดิน

เพราะไม่ต้องเจอกับปัญหารถติด

แต่ที่นี่ไม่มีรถไฟฟ้า

คนมีรถส่วนตัวก็ขับมาเองทุกคน

ส่วนที่นั่งรถตู้หรือรถเมล์ที่สมาคมเตรียมไว้บริการก็เจอปัญหารถติด

กว่ารถจะวนกลับมาก็เป็นชั่วโมง

นั่นคือ ภาพบรรยากาศของงานมหกรรมหนังสือครั้งนี้

แถมช่วงบ่ายของวันเสาร์-อาทิตย์ ยังเจอฝนตกอีก

ไม่ใช่เรียบร้อยแล้วครับ

แต่เรียบ “พัน” เลย

มีคนเล่นมุขเจ็บๆ บอกเพื่อนในเพซบุ๊ก

…ถ้าใครที่ไปงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์แล้วบ่นว่ารถติด

อย่ามาที่นี่เด็ดขาด

ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมครับ

แต่จริงๆ แล้วนี่คือ “โอกาส”

ว่ากันว่า ทุก “วิกฤต” จะมี “โอกาส” เกิดขึ้นเสมอ

ผมเชื่อว่าทุกคนจะได้ยินได้ฟังในสิ่งที่ผมเขียนมา

แล้วเขาจะเข็ดขยาด

ไม่กล้ามา

นั่นคือ “โอกาสทอง” ของเรา

นอกจากคนจะออกไปเที่ยวต่างจังหวัดเยอะเลยเพราะเป็นวันหยุดยาว

คนที่อยู่เมืองกรุงและอยากไปงานหนังสือก็กลัว “รถติด” และหา “ที่จอดรถ” ยาก

คิดเหมือนกันเยอะๆ

รถจะไม่ติด

คิดว่าหา “ที่จอดรถ” ไม่ได้

แบบนี้จะมี “ที่ว่าง” จอดรถอย่างแน่นอน

เสาร์-อาทิตย์นี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเรา

ไปงานมหกรรมหนังสือกันเถอะครับ

คนฉลาดๆ หน้าตาดีๆ เยอะมากเลย

ทั้ง “คนอ่าน”

แฮ่ม….และ “นักเขียน”

ผมไปประจำการวันอาทิตย์นี้

เวลา 13.00-14.30 น. นะครับ

ใครว่างเจอกัน

เชื่อผม…

รถไม่ติดหรอก

ที่จอดรถก็หาง่าย

มาเถอะ…