Black Knight หรือ The Man Who Guards Me เรื่องราวของคู่รักที่ไม่สมหวังในความรักเมื่อชาติปางก่อน ได้มาเกิดใหม่และพบกันในปัจจุบัน แต่มีผี/ปีศาจจากอดีตตัวหนึ่งคอยขัดขวาง หากมีปีศาจอีกตัวคอยให้ความช่วยเหลือ

จางแบ็กฮี (จางมิฮี) หญิงสาวลึกลับที่มีชีวิตยืนยาวมาถึง 250 ปี ได้ช่วยเหลือมุนซูโฮ (คิมแรวอน) และจองแฮรา (ชินเซคยอง) คู่รักในสมัยโซชอน แต่ชารอน (ซอจีฮเย) หญิงสาวจากอดีตอีกคนกลับคิดทำลายจองแฮรา (ชินเซคยอง)

เหตุการณ์ในอดีตชาติ อันเกิดจากรักสามเส้า และความรักความแค้นนั้นได้ติดตามมาจนถึงปัจจุบัน กับคำสาปแช่งก่อนตายของแฮรา ทำให้ชารอนเป็นผีไม่ได้ไปผุดไปเกิด หากคำอธิษฐานอันแรงกล้านี้ได้ช่วยชีวิตชายคนรักไว้

เพราะเรื่องราวในอดีต คนทั้งสี่ที่ต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกัน จึงได้มาพบกันเพื่อชดใช้เวรกรรมซึ่งมีต่อกัน หรือสร้างเวรกรรมต่อกันไปอย่างไม่สิ้นสุด

 

หญิงจากอดีตทั้งสอง ไม่มีริ้วรอยบนใบหน้าหรือแก่ชราไปตามกาลเวลา ทั้งยังมีชีวิตอยู่เป็นอมตะ เวลาที่มีมากมายจึงน่าเบื่อน่าเศร้าอย่างยิ่ง จางแบ็กฮีทำตัวให้มีประโยชน์โดยใช้เวลาไปเล่าเรื่องราวในอดีตตามห้องสมุด ส่วนชารอนเปิดห้องเสื้อชารอนตัดเย็บเสื้อผ้าหรูฝีมือดี

มุนซูโฮ (คิมแรวอน) จากเด็กหนุ่มกำพร้าไร้อนาคต ได้โชคช่วยได้ไปเรียนหนังสือและใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จ และใครที่คิดไม่ดีกับเขามักพบเหตุร้ายมีอันเป็นไป

จองแฮราเด็กสาวที่มีครอบครัวสมบูรณ์ร่ำรวย กลับกลายเป็นเด็กกำพร้าไร้ที่พึ่ง ทำงานเลี้ยงตัวเองที่บริษัทท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากรับสายขายทัวร์แล้ว ยังต้องออกไปดูแลส่งลูกค้าที่สนามบิน ทำงานหลากหลายหน้าที่ในบริษัท แฮราคิดว่าโชคไม่เคยเข้าข้างเธอเลย เธอมีความฝันอยากเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่กลับไม่มีโอกาส

เมื่อแฮราได้มาที่ห้องเสื้อชารอนที่เธอเคยมาในวัยเด็ก เสื้อโค้ตสีแดงที่ชารอนให้เธอ ได้นำโชคมาให้เธออย่างต่อเนื่อง

ชารอนคิดจะใช้แฮราเป็นเครื่องมือและกำจัดเธอให้พ้นจากชีวิตของซูโฮ แต่จางแบ็กฮีกลับต้องการให้แฮราและซูโฮได้ครองคู่กัน ให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอย่างที่ควรจะเป็น

ด้วยความบังเอิญหรือโชคชะตาทำให้แฮราได้เดินทางมายังเมืองแสนสวยของสโลเวเนีย และได้พบกับมุนซูโฮที่โรงแรมนี้ อันปรับปรุงจากปราสาทโบราณ ซึ่งซูโฮเป็นหุ้นส่วนใหญ่ผู้ให้การสนับสนุน

ในวัยเด็กซูโฮเคยได้รับการช่วยเหลือจากพ่อของแฮรา และใช้ชีวิตที่บ้านโบราณของแฮรา หลังการตายอันมีเงื่อนงำของพ่อ เขาจึงกลับมาเกาหลีเพื่อสืบหาเบื้องหลังการตายของพ่อเขาและพ่อของแฮรา และมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการอนุรักษ์และปรับปรุงหมู่บ้านโบราณฮันอกให้คงอยู่ในสภาพเดิม เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์

การอนุรักษ์บ้านโบราณฮันอกใจกลางเมืองไว้เป็นสิ่งดี แต่ย่อมขัดผลประโยชน์กับนักธุรกิจอย่างพัคชอลมิน (คิมบยองอ๊ก) เพื่อนของพ่อ ซึ่งต้องการพัฒนาเมืองให้ทันสมัยด้วยห้างสรรพสินค้าและอาคารสูง ได้ให้ข้อมูลผิดๆ บิดเบือนแก่ชาวบ้านผู้เป็นเจ้าของบ้านโบราณ มีการประท้วงไม่พอใจ งานที่แรกเริ่มดูจะไปด้วยดี กลับมีอุปสรรคจากการต่อต้านของชุมชน แม้ว่าซูโฮมีความตั้งใจดีกับงานอนุรักษ์ชุมชน

เช่นเดียวกับความรักของซูโฮกับแฮรา ที่ดูเหมือนราบรื่น ก็เริ่มไม่มั่นคง มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด

 

ละครเชื่อมโยงให้ธุรกิจของซูโฮ ได้มาเกี่ยวข้องกับงานบริษัทท่องเที่ยวที่แฮราทำอยู่ ดูแล้วมุนซูโฮสมเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจริง

Black Knight ยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์ของเพื่อนและครอบครัวในวัยเด็ก ซึ่งน่าจะมีความทรงจำที่ดี แต่เพียงเพราะความโลภของพัคชอลมินได้ทำลายมิตรภาพนั้น

พระเอกคิมแรวอนที่แม้อายุมากขึ้น แต่กลับดูดีเข้ากับบทของมุนซูโฮมาก ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นที่พร้อมจะปกป้องหญิงคนรัก นางเอกชินเซคยองนับวันยิ่งสวยมากขึ้น

จางมิฮีนักแสดงอาวุโส ฝีมือเฉียบขาดมาก ส่วนซอจีฮเยดาราหน้าสวยหุ่นดีน่าจะแสดงเป็นนางเอกได้ แต่ดูเหมือนไร้เสน่ห์หรือไม่มีแสงออร่า จึงเป็นได้เพียงนางรองเท่านั้น ผู้กำกับฯ ฮันซังอูคงมองเห็นศักยภาพของนักแสดง

นักแสดงที่น่าสนใจคือคิมซอกูรับบทเป็นหยางซึงกูผู้ช่วยของซอริน แม้ซอรินจะเป็นปีศาจที่ร้ายกาจ เขาก็ชอบเธออยากทำงานกับเธอ เพราะเธอเป็นดีไซเนอร์ที่เก่งมีสไตล์

 

Black Knight ละครมีกลิ่นอายของเงาอดีตที่ตามติดอย่างไม่ปล่อยวาง กับเรื่องราวลึกลับแบบไม่มีที่มาที่ไป หากชวนติดตาม มีเพลงประกอบไพเราะแปลกหูเหมือนเพลงสวดในโบสถ์ เสื้อผ้าทุกชุดของนักแสดงสวยงามหรูหราดีมีสไตล์

หากการมีอายุยืนยาวกลับไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี แม้ว่าคนเราชมชอบความเป็นอมตะ ไม่แก่ไปตามวันเวลา แต่คนที่รักคนที่รู้จักกลับตายจากไปทีละคนๆ คงเหลือเพียงความอ้างว้างโดดเดี่ยว

ยังดีที่ละครบอกว่าการทำความดีของคนที่มีความอมตะ จะทำให้มีริ้วรอยของเวลาเพิ่มขึ้น แต่ความเป็นอมตะไม่แก่ไปตามกาลเวลา เป็นสิ่งที่น่ากลัวและน่าหดหู่…