น้ำตาล “หวาน” ล้านวิว ชัยชนะของผู้แพ้

เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่พี่น้องชาวไทยร่วมใจส่งไปให้ น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ที่ได้เดินทางไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ประจำปี 2016 ร่วมกับสาวงามจาก 86 ประเทศทั่วโลก ที่ครั้งนี้จัดขึ้นที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

แม้ว่าน้ำตาลจะไม่ได้คว้า “มง” (กุฎ) ชนะเลิศที่ 1 ในการประกวดครั้งนี้ แต่เธอกลับได้ครองที่ 1 ในหัวใจคนไทยเกือบทั้งประเทศได้

ปรากฏการณ์ “น้ำตาลฟีเวอร์” ครั้งนี้ มีพลังอย่างมาก

ทุกสายตา ทุกความสนใจ ของคนไทยทุกสาขาอาชีพ พุ่งไปที่หน้าจอทั้งโทรทัศน์และโทรศัพท์ ช่วงเช้าวันที่ 30 มกราคม เพื่อร่วมลุ้นและส่งแรงใจไปเชียร์ให้น้ำตาล

อันจะเห็นได้จาก “พลังชาวโซเชียล” ที่ล้วนทำงานกันเป็น “ทีมเวิร์ก” เพื่อกระตุ้นให้คนร่วมโหวตกันทุกช่วงเวลา ในหลายช่องทางทั้งแอพพลิเคชั่น, เว็บไซต์ และทวิตเตอร์ โดยการทวีตหรือรีทวีต พร้อมแฮชแทก #MissUniverse #Thailand

ซึ่งจุดนี้เองทำให้เราเห็นพลังของคนไทยที่เรียกได้ว่ามากันเป็นแสนๆ ล้านๆ มากันอย่างล้นหลาม

กลยุทธ์การตลาดของชาวโซเชียลที่งัดออกมาจะทำให้เกิดกระแส “น้ำตาลฟีเวอร์” ได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งต้อมยอมรับว่ามาจากความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ใน “การแจก”

หากใครรีทวีต หรือแฮชแทกกันเป็นทอดๆ ไป ครบหมื่นครบแสนตามเป้าหมายเมื่อไหร่ จะแจกสิ่งของต่างๆ มากมาย มีทั้งรับประทานได้ รับประทานไม่ได้ ทั้งรูปธรรมและนามธรรม

และมีทั้งแจกจริงๆ และเล่นกันตามกระแสเฉยๆ (ก็มี)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งของที่ชาวโซเชียล คนดัง และบริษัทห้างร้านดังๆ งัดกันมาประกาศแจก ล้วนดึงความสนใจได้มาก

อาทิ กล้องถ่ายรูป อันเป็นไอเท็มถูกใจผู้คนจำนวนมาก

เครื่องสำอางนำเข้าต่างๆ อันเป็นสิ่งต้องใจสาวๆ

ตลอดจนแจกของกิน แจกทริปเที่ยวฟรี แจกสินค้าของบริษัทนั้นๆ

เรียกยอด เรียกทวีต เรียกกระแสกันได้ ควบคู่ไปกับคนที่ชื่นชอบและติดตามการประกวดอยู่สม่ำเสมออยู่แล้ว

แต่ครั้งนี้ได้ฐานแฟนใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นมหาศาล

ที่เรียกความฮือฮามากไม่น้อย คือ ดาราคุณแม่-คุณแม่ดารา หมู พิมพ์พกา เสียงสมบุญ แม่ของพระเอกดาราดาวรุ่ง นายณภัทร เสียงสมบุญ ที่คุณแม่เล่นประกาศแจกลูกชายเรียกยอดรีทวีตได้หกหมื่นกว่าครั้ง จนชาวโซเชียลเรียกกันว่าคุณแม่สามี (มโน)

ก่อนเจ้าตัวจะมาเฉลยหลังจบงานว่า “ว่าที่บอกจะแจกลูกชายนั้น คุณแม่ลืมบอกไปว่า แจกแค่…หัวใจ ปาใส่รัวๆๆ ค่ะ”

สําหรับช่วงเวลาแห่งการลุ้นของคนไทยที่ทำให้ใจเต้นสั่นรัวๆ ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ สตีฟ ฮาร์วีย์ พิธีกรประกาศผู้เข้ารอบ 13 คนสุดท้าย อันได้แก่ สาวงามจากประเทศเคนยา, อินโดนีเซีย, เม็กซิโก, สหรัฐอเมริกา, เปรู, ปานามา, โคลอมเบีย, ฟิลิปปินส์, แคนาดา, บราซิล, ฝรั่งเศส, เฮติ และคนสุดท้าย!! คือ “น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งได้รับการประกาศชื่อเป็นคนลำดับสุดท้าย ทำเอาคนไทยลุ้นจนตัวโก่งและกรี๊ดดังมากถึงมากที่สุด

หากใครได้รับชมเหล่าดารา, คนดังและเซเลบมากมายล้วนโพสต์หรือไลฟ์สดวินาทีสำคัญนี้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง บางรายเรียกได้ว่ากรี๊ดร้องดีใจยิ่งกว่าได้รางวัลเองเสียอีก

ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้เรียกว่าจะเห็นกันได้ไม่บ่อยเท่าไรนัก

ก่อนที่ช่วงแห่งการลุ้นจะตามมาอีกเป็นระลอกๆ เมื่อสาวงามทั้ง 13 คน ต้องปรากฏโฉมในรอบชุดว่ายน้ำ

คราวนี้ น้ำตาล-ชลิตา มาในชุดว่ายน้ำสีเหลืองพร้อมความมั่นใจ และเข้าสู่ช่วงเวลาลุ้นระทึกอีกครั้ง เมื่อพิธีกรประกาศผู้เข้ารอบ 9 คน สาวงามจากไทยคนนี้ก็ได้เข้ารอบไปอย่างสบายๆ จากนั้นผู้ที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 9 คน ต้องสวมชุดราตรีสุดสง่า

น้ำตาลก็มาโผล่ในชุดสีดำสง่าของแบรนด์ ASAVA

และช่วงเวลาแห่งการลุ้นมาอีกครั้งเมื่อพิธีกรประกาศผู้เข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ซึ่งน้องน้ำตาลก็ได้เข้ามาถึงรอบนี้ ถือเป็นรอบที่ลึกและต้องบันทึกไว้อีกครั้งหลังจากสาวไทยเราไม่ได้เข้ามาถึงรอบนี้นานกว่า 28 ปีแล้ว

แน่นอนที่สุดว่าการเข้าสู่รอบ 6 คนสุดท้าย หัวใจและไฮไลต์อยู่ที่ “การตอบคำถาม” ตามประสานางงาม เพื่อวัดทักษะไหวพริบทัศนคติและมุมมองของสาวงามทั้งหลาย

ซึ่งครั้งนี้ น้ำตาล-ชลิตา ได้ตอบคำถามเป็นคนสุดท้าย และเธอตอบคำถามเป็นภาษาไทย โดยมีผู้แปลคำถามและคำตอบให้

สําหรับคำถามที่น้ำตาลได้ คือ “ผู้นำโลกคนไหน ในอดีตหรือปัจจุบันที่คุณชื่นชอบหรือเคารพ และเพราะอะไร?”

วินาทีแห่งการเฝ้ารอคอยของคนไทยเกิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับความตื่นเต้นและตื้นตันของคนไทยก็มาถึง ซึ่งคำตอบของน้ำตาล ได้เข้าไปอยู่ในหัวใจคนไทยทั้งประเทศ คือคำตอบที่ว่า

“สำหรับคนนั้นก็คือ ในหลวงของดิฉันค่ะ ตั้งแต่ดิฉันเกิดมาก็เห็นพระองค์ทรงงานหนักมาตลอด ทรงไม่เคยบ่นแม้แต่น้อย และพระองค์ท่านก็เปรียบเสมือนพ่อของทุกคนในประเทศไทยค่ะ”

จากนั้นพิธีกรประกาศได้ผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย แม้ว่า น้ำตาล-ชลิตา จะไม่ได้ไปต่อ แต่ก็นับว่าเธอทำดีที่สุด และเป็นตัวแทนสาวงามของไทยที่ได้เข้ารอบลึกๆ ขนาดนี้หลังจากห่างไปนานมาก

และการที่น้ำตาลจะได้หรือไม่ได้รางวัลนั้นคงไม่สำคัญเท่ากับการทำหน้าที่ตัวแทนคนไทยได้อย่างเต็มที่

และเข้าไปครองหัวใจของคนไทยจำนวนมหาศาลได้

 

ทันทีที่น้ำตาลได้เดินทางกลับมาประเทศไทยพร้อมความคิดถึงส้มตำบ้านเราอย่างมากๆ แล้ว น้ำตาลได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกในช่วงที่ตอบคำถามบนเวทีนั้นว่า

“เมื่อได้ยินคำถาม ในใจนึกถึงแค่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ณ ตอนนั้น และไม่ได้นึกถึงแค่เพียงตอนตอบคำถาม แต่ทุกกิจกรรมตลอดการประกวด น้ำตาลจะนึกถึงพระองค์เสมอ และไหว้พระองค์ก่อนทุกครั้ง ถือว่าพระองค์เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นกำลังใจในการทำกิจกรรมทุกอย่าง”

และในวันที่ประกวดนั้น ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงโพสต์รูปลงในอินสตาแกรมส่วนพระองค์ พร้อมข้อความถึงน้ำตาล ใจความตอนหนึ่งว่า “You represented Thailand marvelously, thank you!” แปลว่า “คุณทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศไทยได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ขอบคุณมาก”

ซึ่งน้ำตาลได้เปิดเผยความรู้สึกถึงกรณีนี้ว่า เป็นพระเมตตาที่พระองค์ทรงเมตตาเชียร์เรา รู้สึกเป็นเกียรติมาก

ไม่คิดว่าพระองค์จะทรงเชียร์เรา

นอกจากนี้ น้ำตาลได้กล่าวขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนที่ได้ร่วมเชียร์ และโหวตให้ ซึ่งไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะมีคนเชียร์และรักเรามากขนาดนี้ ยอมรับว่าตอนได้ตำแหน่งที่ประเทศไทย รู้สึกกดดันมาก เพราะมีกระแสโจมตีเข้ามา

แต่ก็เป็นเหมือนแรงผลักดันให้น้ำตาลเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กกะโปโลคนหนึ่ง ได้ฝึกฝนตนเองจนมีวันนี้

ทุกวันนี้ถือว่าทำเต็มที่แล้ว ไม่ว่าผลออกมาอย่างไรก็ไม่เสียใจ แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง ที่ไม่สามารถคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สคนที่ 3 มาฝากคนไทยได้

และรู้สึกดีใจที่มีคนพูดว่า เราเป็นแรงบันดาลใจของการสู้ชีวิต

จากนี้จะขอมุ่งศึกษาให้จบปริญญาตรี ส่วนอนาคตการทำงานในวงการบันเทิงนั้น ยังไม่แน่นอน หากมีโอกาสก็ขอทำทุกอย่าง เพราะอยากจะช่วยเหลือครอบครัว

กำลังใจที่มีให้น้องน้ำตาล นอกจากประชาชนทั่วๆ ไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เอ่ยปากชื่นชมความเก่งความสวยและความสามารถในการตอบคำถามของเธอได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน

นอกจากนั้นบุคคลในแวดวงบันเทิง ธุรกิจต่างๆ ก็ได้โพสต์ถึง “สาวน้ำตาล” กันอย่างแพร่หลาย

โดยเฉพาะเหล่าศิลปินดาราหลายร้อยชีวิตที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย แสดงออกถึงความดีใจ ชื่นชมความงามและการตอบคำถามของเธอ ที่ได้ตอบแทนความรู้สึกของคนไทยและชื่นชมว่าทำหน้าที่การเป็นตัวแทนได้ดีที่สุด

และแม้อาจจะมีบางส่วนในสังคมบ่นเสียดายว่าน้องน้ำตาลอาจจะตื่นเต้นจนทำให้ส่งผลกระทบต่อคะแนนหรือการตอบคำถามหรือไม่นั้น

พระเอกตัวจริงทั้งในจอและนอกจออย่าง ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ ได้โพสต์บอกว่า “ใครไม่ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าโคตรตื่นเต้น!! เพราะแค่เขาเคยเป็นพิธีกรมิสยูนิเวิร์สที่จัดขึ้นในไทย ตอนนั้นก็สั่นเป็นเจ้าเข้า ลืมสคริปต์ ลืมทุกสิ่ง”

แม้ว่าการประกวดครั้งนี้ น้ำตาลจะไม่มีรางวัลติดไม้ติดมือมาฝากคนไทย แต่การเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย และการได้ตอบคำถามล้วนชนะใจคนไทยไปเต็มๆ จนทุกคนอยากจะมอบ “มง” ให้

ที่สำคัญคือการได้ปลุกกระแสให้คนไทยร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวเหมือนช่วงส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาไทยยังไงยังนั้น

อาจเรียกได้ว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้จะเป็นที่จดจำ ไม่น้อยไปกว่าเมื่อ 28 ปีก่อน ที่มีปรากฏการณ์นางงามรักเด็ก

พลังสำคัญที่ทำให้น้ำตาลได้ใจไปขนาดนี้ไม่ได้มาจากใครที่ไหนไกล ถ้าไม่ใช่คนไทยทุกคนร่วมทำปรากฏการณ์ครั้งนี้ให้เป็นที่พูดถึง ทุกหน้าจอ ทุกแรงเชียร์ที่ส่งไปและแสดงออกในยุคโซเชียลมีเดียนี้ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า

เธอคือตัวแทนของคนไทยจริงๆ!