ต่างประเทศ : “โทมัส คุก” ล้มละลาย กับผลกระทบที่ลุกลาม

เมื่อวันที่ 23 กันยายน ข่าวที่สื่อนานาชาติจับตามองมากที่สุดก็คือ บริษัท “โทมัส คุก” บริษัทท่องเที่ยวยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ บริษัทเก่าแก่อายุยืนยาวถึง 178 ปี ประกาศภาวะล้มละลายต้องยุติกิจการลงอย่างกะทันหัน

การล้มลงของบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่เป็นผลมาจากตลาดการท่องเที่ยวที่แข่งขันสูงขึ้นในยุคปัจจุบัน การเกิดขึ้นของธุรกิจออนไลน์ ความไม่แน่นอนกรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากอียู หรือเบร็กซิท รวมถึงการเกิดคลื่นความร้อนในยุโรปที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของลูกค้าโทมัส คุก เป็นต้น

ปัจจัยลบจำนวนมากส่งผลให้โทมัส คุก เกิดหนี้สะสมสูงถึง 1,700 ล้านปอนด์

ทำให้จำเป็นต้องพยายามเจรจากับนักลงทุนเอกชนระดับนานาชาติเพื่อนำเงินสดเข้ามาพยุงกิจการ

การประกาศล้มละลายช็อกโลก มีขึ้นหลังจากบริษัทไม่สามารถหาหลักทรัพย์ค้ำประกันมูลค่า 200 ล้านปอนด์ตามข้อเรียกร้องของเจ้าหนี้ธนาคารเพื่อเลี่ยงการล้มละลายในครั้งนี้ลงได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ บริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างฝอซัน บริษัทจากประเทศจีนจะทำข้อตกลงอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบมูลค่า 450 ล้านปอนด์ เพื่อประคองสถานการณ์เอาไว้เมื่อเดือนสิงหาคมก็ตาม

นั่นทำให้การเจรจาระหว่างบอร์ดบริหาร ผู้ถือหุ้น และธนาคารเจ้าหนี้ ในการประชุมมาราธอนตลอดคืนวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้

โทมัส คุก ออกแถลงการณ์ในช่วงเช้าวันถัดมาระบุว่า แม้จะพยายามอย่างมากแล้ว บริษัทไม่สามารถบรรลุข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้นบริษัทและเสนอผู้ให้แหล่งเงินทุนรายใหม่ได้ คณะกรรมการบริหารจึงไม่มีทางเลือกที่จะก้าวเข้าสู่การบังคับให้ชำระบัญชี โดยให้มีผลทันที

ซึ่งนั่นเป็นการประกาศว่าบริษัทล้มละลายอย่างเป็นทางการ

 

ด้านปีเตอร์ แฟนก์เฮาเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโทมัส คุก ออกมาแถลงขอโทษกับลูกค้านับล้านคนทั่วโลก พนักงานอีกหลายพันคน บริษัทซัพพลายเออร์ และคู่ค้าที่สนับสนุนโทมัส คุก มาเป็นเวลาหลายปี

การประกาศเลิกกิจการของโทมัส คุก บริษัทที่มีฐานลูกค้า 16 ล้านคนต่อปีส่งผลให้กิจการการท่องเที่ยวครบวงจรที่กระจายตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วโลกรวมไปถึงประเทศไทยต้องหยุดให้บริการลงในทันที

ลูกค้าของบริษัทที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ในที่ต่างๆ ทั่วโลกจำนวนมากถึง 600,000 คนต้องติดค้าง ไม่ว่าจะเป็นที่สนามบินที่ลูกค้าไม่สามารถเดินทางกลับประเทศด้วยสายการบินของโทมัส คุก ได้

นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าที่ไม่สามารถเช็กอินเข้าที่พัก รวมถึงไม่สามารถเช็กเอาต์ออกจากที่พักในหลายประเทศได้เนื่องจากยังไม่มีการชำระเงินจากโทมัส คุก เข้ามา

นั่นทำให้บริษัทประกันภัยการเดินทางและรัฐบาลอังกฤษต้องประกาศให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างตามที่ต่างๆ ทั่วโลกกลับประเทศ กลายเป็นการนำประชาชนกลับประเทศในยามสันติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศอังกฤษ

รัฐบาลอังกฤษโดยองค์การการบินพลเรือน (ซีเอเอ) ระบุว่า ได้มีการดำเนินการจัดเตรียมเครื่องบินเช่าเหมาลำไว้หนึ่งฝูงบินสำหรับเริ่มต้นการนำตัวนักท่องเที่ยวซึ่งติดค้างอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

ในจำนวนนี้รวมถึงชาวอังกฤษ 150,000 คนในช่วง 2 สัปดาห์ถัดจากนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

โดยรัฐบาลอังกฤษยืนยันว่าจะจ่ายค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินเที่ยวกลับให้กับนักท่องเที่ยว แต่ผู้โดยสารอาจต้องออกค่าใช้จ่ายไปก่อน และจะมีการประสานงานจ่ายค่าที่พักให้กับผู้ติดค้างในโรงแรมรีสอร์ตต่างๆ ทั่วโลก

รัฐบาลอังกฤษได้เปิดเว็บไซต์ให้บริการข้อมูลสำหรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารที่ไม่ได้บินจากประเทศอังกฤษด้วย

เช่น ในประเทศเยอรมนีตลาดใหญ่ของโทมัส คุก ก็จะมีบริษัทประกันมาให้ความร่วมมือในภารกิจรับคนกลับด้วยเช่นกัน

 

นอกจากลูกค้าบริษัทโทมัส คุก ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงแล้ว การประกาศล้มละลายในครั้งนี้ทำให้มีพนักงานบริษัทโทมัส คุก ทั่วโลก 20,000 คน ในจำนวนนี้ 9,000 คนเป็นพนักงานในอังกฤษ ต้องตกงานลงทันที

เหตุการณ์บริษัทอังกฤษล้มละลายจนต้องส่งคนกลับประเทศจำนวนมากไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น

ล่าสุดเมื่อปี 2017 เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นแล้ว เมื่อสายการบินโมนาร์ชเกิดล้มละลายลง ส่งผลให้ผู้โดยสารต้องตกค้างจำนวนมากถึง 110,000 คน

ครั้งนั้นรัฐบาลอังกฤษต้องใช้เงินงบประมาณที่เป็นภาษีประชาชนมูลค่า 60 ล้านปอนด์ในการเช่าเครื่องบินเพื่อส่งผู้โดยสารกลับบ้าน

การเลิกกิจการของโทมัส คุก แน่นอนว่าต้องส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในภูมิภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจุดหมายปลายทางอย่างสเปน รวมถึงกรีซ ประเทศที่พึ่งพารายได้ส่วนใหญ่จากการท่องเที่ยว

การขาดหายไปของลูกค้าโทมัส คุก นับล้านคนต่อปีย่อมส่งผลต่อรายได้ของประเทศยากจนที่สุดของยุโรปเหล่านี้ไม่มากก็น้อย

 

ทั้งนี้ บริษัทโทมัส คุก เริ่มต้นให้บริการธุรกิจกรุ๊ปทัวร์ครั้งแรกด้วยรถไฟภายในประเทศในปี 1841 ก่อนจะจัดกรุ๊ปออกไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรปในปี 1855 ขยายตลาดไปยังสหรัฐอเมริกาในปี 1866 จนกระทั่งมีบริการท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 1872

โทมัส คุก เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกลายเป็นบริษัทท่องเที่ยวยักษ์ใหญ่ของโลกที่มีทั้งบริการนำเที่ยว สายการบินและสายการบินเป็นของตัวเอง รายได้ในปี 2018 ที่ผ่านมามีสูงถึง 9,600 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม การบริหารงานที่ผิดพลาดและการก่อหนี้สูงถึง 1,700 ล้านปอนด์ ทำให้ประวัติศาสตร์ 178 ปี ของบริษัทโทมัส คุก ต้องสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา