ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือกัน คือเรื่อง “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก”

นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จึงได้จัดให้มีการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ขึ้น เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา

มีผู้นำจากทั่วโลกร่วมหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

และเพื่อผลักดันให้ทั่วโลกร่วมกันเดินหน้าแก้ปัญหาโลกร้อน

 

โดยก่อนหน้าการประชุม ได้มีการเผยแพร่รายงานฉบับใหม่ที่จัดทำขึ้นโดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกกำลังทำให้โลกเราร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากข้อมูลของดับเบิลยูเอ็มโอ ระบุว่าช่วงเวลา 5 ปี คือตั้งแต่ปี 2558-2562 ได้กลายเป็นช่วงระยะเวลาที่ “ร้อนที่สุด” เท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติเอาไว้

ขณะที่ระดับน้ำทะเลได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วงเวลาดังกล่าว

ขณะเดียวกันก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศก็มีปริมาณที่สูงที่สุด ซึ่งดับเบิลยูเอ็มโอระบุว่า จะต้องมีความพยายามในการช่วยกันลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน ต้นเหตุของภาวะเรือนกระจก อย่างในทันทีทันใด

ในรายงานระบุว่า อุณหภูมิโลกได้เพิ่มสูงขึ้น 1.1 องศาเซลเซียส นับตั้งแต่ปี 2393 ขณะที่ในช่วงปี 2554 และ 2558 อุณหภูมิได้สูงขึ้นราว 0.2 องศาเซลเซียส

ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศในช่วงปี 2558-2562 ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเมื่อ 5 ปีก่อนหน้า

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลเหนือสิ่งอื่นใด คือข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น

โดยในรายงานระบุว่า ระดับน้ำทะเลนับตั้งแต่ปี 2536 จนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3.2 มิลลิเมตร โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคม 2557-2562 ระดับน้ำทะเลได้เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 5 มิลลิเมตรเลยทีเดียว ส่วนในช่วงระยะเวลา 10 ปี คือตั้งแต่ปี 2550-2559 ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 4 มิลลิเมตร

เพตเทรี ตาอาลัส เลขาธิการดับเบิลยูเอ็มโอ กล่าวไว้ว่า ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังมีความเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับการลดลงอย่างมากของแผ่นน้ำแข็งทั้งในแอนตาร์กติกและกรีนแลนด์ ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงอย่างมาก

“อย่างที่เราเห็นในปีนี้ถึงผลกระทบอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นในบาฮามาสและโมซัมบิก ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และพายุโซนร้อนที่รุนแรงที่นำไปสู่หายนะของมนุษยชาติและเศรษฐกิจ” ตาอาลัสกล่าว

ในรายงานยังได้เน้นย้ำถึงภัยอันตรายที่จะเกิดกับมหาสมุทร เนื่องจากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะไปจบลงที่ “น้ำ”

ซึ่งดับเบิลยูเอ็มโอวิเคราะห์ว่า 2561 เป็นปีที่มหาสมุทรร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้

เป็นรายงานที่ออกมาเตือนว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องหันมาจริงจังกับการแก้ปัญหาโลกร้อน ที่คืบคลานเข้ามาในชีวิตเราเพิ่มมากขึ้น

นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น กล่าวก่อนหน้าการประชุมของยูเอ็นว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อ “การปฏิบัติ” ไม่ใช่แค่เพียงคำพูด และได้บอกกับบรรดาผู้นำว่า ไม่ต้องมีคำพูดที่สวยหรู แต่ต้องการคำมั่นสัญญาที่จริงจัง

“เพราะผู้คนต้องการวิธีการ คำมั่นสัญญาและการกระทำ” เลขาธิการยูเอ็นกล่าว

และในการประชุมครั้งนี้ ผู้ที่ดูโดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น “เกรตา ทุนเบิร์ก” เยาวชนนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดน

นักเรียนสาววัยเพียง 16 ปีที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กคนอื่นๆ ลุกขึ้นมาช่วยกันกระตุ้นโลกให้ตื่นตัวเรื่องโลกร้อน ที่ขึ้นกล่าวบนเวทีอย่างดุเดือด โดยประณามบรรดาผู้นำโลกว่าล้มเหลวในการจัดการปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทุนเบิร์กบอกว่า “นี่มันผิดไปหมด ฉันไม่ควรจะอยู่ตรงนี้ ฉันควรจะกลับไปโรงเรียนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร ขณะที่พวกคุณมาเพื่อฝากความหวังไว้กับเยาชน คุณกล้าดียังไง”

และว่า “คุณขโมยความฝันของฉันและของเด็กๆ ด้วยคำพูดที่เลื่อนลอย แต่ฉันก็ยังถือว่าโชคดี ผู้คนกำลังเผชิญกับความทุกข์ยาก ผู้คนกำลังล้มตาย ระบบนิเวศกำลังล่มสลาย พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ แต่พวกคุณเอาแต่พูดเรื่องเงินทองและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่สิ้นสุด กล้าดียังไง”

นอกจากนี้ ทุนเบิร์กเองยังบอกด้วยว่าไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของผู้ใหญ่ เพราะว่าหากพวกเขาเข้าใจสถานการณ์จริงๆ แล้วยังไม่ยอมทำอะไร ก็หมายความว่า พวกผู้ใหญ่เป็นคนไม่ดี และเธอจะไม่ยอมเชื่อ

ทุนเบิร์กยังกล่าวถึงเป้าหมายของกูแตร์เรส ในการประชุมครั้งนี้ ที่ต้องการให้ประเทศต่างๆ ให้คำมั่นที่จะแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังว่า เธอไม่คิดว่าจะมีการแก้ปัญหาหรือแผนการใดๆ มาเสนอให้สอดคล้องกับตัวเลขที่มีการนำเสนอกัน เพราะมันเป็นตัวเลขที่น่าอึดอัดใจเกินไป “และพวกคุณก็ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะพูดมันไปตามความเป็นจริง”

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำกล่าวของทุนเบิร์ก วิสัยทัศน์ของเด็กหญิงคนหนึ่ง ที่ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนถึงกับ “จุก”

เพราะส่วนใหญ่ มันคือเรื่องจริง ที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายปฏิเสธไม่ได้!!