ต่างประเทศ : “ศึกการทูตดอลลาร์” ไต้หวันปะทะจีน

ขณะที่จีนกำลังเผชิญการท้าทายอำนาจจากกลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงที่ออกมาต่อสู้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของชาวฮ่องกง

อีกด้านจีนก็กำลังงัดข้อกับไต้หวัน ที่จีนยึดถือเป็นดินแดนในอาณัติปกครองของตนเองเฉกเช่นเดียวกับฮ่องกงและมาเก๊า ภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ของจีน ที่ผู้ใดจะเข้ามาแทรกแซงมิได้

การงัดข้อกันครั้งล่าสุดก็ดูจะเป็นชัยชนะอีกครั้งของจีนเหนือไต้หวัน จากการที่รัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอน ชาติหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ให้การรับรองสถานะและดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันมายาวนานถึง 36 ปี ได้ตัดสินใจเปลี่ยนข้างหันไปสวามิภักดิ์กับจีนแทน

ส่งผลให้เมื่อต้นสัปดาห์ ไต้หวันชิงประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับหมู่เกาะโซโลมอนอย่างเป็นทางการในทันที

พร้อมกับประณามจีนว่าเดินเกม “การทูตดอลลาร์” ด้วยการใช้อำนาจเงินและอิทธิพลบารมีของความเป็นมหาอำนาจข่มขู่คุกคาม จนทำให้ชาติพันธมิตรของไต้หวันร่อยหรอลงเพราะหันไปซบอกจีน

นั่นส่งผลให้หมู่เกาะโซโลมอนเป็นชาติล่าสุด ชาติที่ 6 ที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันเพื่อหันมาถือข้างจีนในช่วงเวลาเพียง 3 ปี นับจากที่ประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2559

โดยก่อนหน้านั้นมีชาติแอฟริกันเล็กๆ อย่างเซาตูเมและปรินซีปี ตามมาด้วยประเทศบูร์กินาฟาโซ และอีก 3 ชาติในอเมริกาใต้ ได้แก่ ปานามา เอลซัลวาดอร์ และสาธารณรัฐโดมินิกัน ได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับไต้หวันและหันไปสนับสนุนจีนแทนไปแล้ว

 

การทูตดอลลาร์ ถือเป็นกลยุทธ์ชั้นดีและหวังผลได้ของจีนในการโดดเดี่ยวไต้หวันในเวทีโลก เพราะตอนนี้ทำให้ไต้หวันเหลือมิตรประเทศที่รับรองสถานะความเป็นรัฐอิสระของไต้หวันในประชาคมโลกเหลือเพียงแค่ 16 ประเทศเท่านั้น และส่วนใหญ่ยังเป็นประเทศด้อยพัฒนาที่อยู่ในภูมิภาคอเมริกากลางและแปซิฟิก

จากรายงานข่าวที่ปรากฏบนหน้าสื่อชี้ว่าเงินสนับสนุนก้อนโตจำนวน 8.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จีนยื่นเสนอให้เป็นเงินทุนก้อนแรกเพื่อการพัฒนาประเทศแก่หมู่เกาะโซโลมอน และการเล็งเห็นผลประโยชน์ที่จะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมในภายภาคหน้าจากจีน เป็นปัจจัยทรงอิทธิพลที่ทำให้รัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะละทิ้งความสัมพันธ์กับไต้หวันไปอย่างไม่ไยดีแล้วหันไปเกาะขอนไม้ใหญ่อย่างจีน มหาอำนาจโลกที่มีทั้งอำนาจเงินและอำนาจบารมีอย่างแข็งแกร่ง

การยังคงเดินกลยุทธ์ “การทูตดอลลาร์” ต่อไปเช่นนี้ของจีน ก็อาจจะทำให้ไต้หวันตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญเสียมิตรประเทศของตนเองไปให้กับจีนเพิ่มขึ้นอีกได้

 

ต่อประเด็นนี้ แอนนา พาวเลส ผู้เชี่ยวชาญกรณีศึกษาด้านความมั่นคงโลก ประจำมหาวิทยาลัยแมสซีย์ ประเทศนิวซีแลนด์ สะท้อนมุมมองว่า ภูมิภาคแปซิฟิกเป็นป้อมปราการใหญ่ที่ให้การสนับสนุนความมีตัวตนในเวทีโลกของไต้หวัน หลังจากชาติพันธมิตรในภูมิภาคอื่นส่วนใหญ่หันไปรับรองจีนปักกิ่งกันหมดแล้ว การตัดสินใจตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันครั้งนี้ของหมู่เกาะโซโลมอน ชาติพันธมิตรใหญ่ที่สุดของไต้หวันในแปซิฟิก ทำให้เกิดคำถามสำคัญขึ้นตามมาว่า ประเทศใดจะเป็นประเทศต่อไปที่จะตามรอยหมู่เกาะโซโลมอน และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ จะกลายเป็น “โดมิโน เอฟเฟ็กต์” ที่จะทำให้พันธมิตรไต้หวันในแปซิฟิกล้มพังครืนลงไปในท้ายที่สุดหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าคิด

ส่วนในทัศนะของเจมส์ แบตลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศหมู่เกาะโซโลมอน มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับหมู่เกาะโซโลมอน ไม่ได้เป็นบทสรุปล่วงหน้าว่าพันธมิตรอื่นๆ ของไต้หวันในภูมิภาคนี้จะต้องเดินตามรอย แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่มีข้อกังขาเลยก็คือ หมู่เกาะโซโลมอนกลายเป็นรางวัลใหญ่ของจีน ในการทำศึกพิพาททางการทูตกับไต้หวันในแปซิฟิก

และไม่แน่ว่าการสูญเสียชาติพันธมิตรไปอีกหนึ่งของไต้หวันในรัฐบาลไช่ อิง เหวิน ก็อาจจะส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อการเมืองภายในของไต้หวันอีกด้วยในห้วงเวลาที่ไต้หวันกำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า

โดยประเด็นความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ จะยังคงเป็นประเด็นเสาหลักที่ครอบงำการเลือกตั้งของไต้หวันอยู่เหมือนเช่นเคย