ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | แมลงวันในไร่ส้ม |
เผยแพร่ |
เป็นข่าวสั่นสะเทือน และเป็นที่วิจารณ์รวมถึงคาดเดากันว่า “ใคร” คือผู้เรียกรับผลประโยชน์ในครั้งนี้
เมื่อสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกาและสำนักงานปราบปรามการฉ้อฉลร้ายแรง (เอสเอฟโอ) ของอังกฤษ แถลงว่า บริษัทโรลสรอยซ์ ผู้ผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์สำหรับอากาศยานรายใหญ่จากอังกฤษ จ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยุติคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่และข้อหาคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ใน 3 ประเทศ คือ อังกฤษ สหรัฐ และบราซิล
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ แถลงเมื่อวันที่ 17 มกราคม ว่า โรลสรอยซ์ยอมรับว่าได้จ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่ของบริษัทพลังงานของรัฐในหลายประเทศ ในช่วงปี 2543-2556 ทั้งในคาซัคสถาน, บราซิล, อาเซอร์ไบจาน, แองโกลา, อิรัก และประเทศไทย
รวมเป็นเงินทั้งสิ้นมูลค่ากว่า 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บีบีซีรายงานไว้ว่า กรณีไทย โรลสรอยซ์จ่ายเงิน 36.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้ตัวแทนระดับภูมิภาค ซึ่งหมายถึงบริษัทท้องถิ่นที่ดูแลในเรื่องการขาย กระจายสินค้าและการบำรุงรักษาในหลายประเทศที่ทางโรลสรอยซ์เองไม่มีบุคลากรเพียงพอในการดูแล
เจ้าหน้าที่เอสเอฟโอเผยว่า สินบนบางส่วนจ่ายให้บุคคล ทั้งตัวแทนของรัฐและพนักงานของรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้ดำเนินการในทางที่เป็นประโยชน์ต่อโรลสรอยซ์ ในการจัดซื้อเครื่องยนต์ที 800 ในโบอิ้ง 777 ของการบินไทย
ไฮไลต์อยู่ตรงที่เอสเอฟโอระบุว่า โรลสรอยซ์ได้จ่ายเงิน 18.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นค่านายหน้าให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทย ในช่วงปี 2534-2535 และอีก 10.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่เจ้าหน้าที่ของการบินไทย ในช่วงปี 2535-2540
และอีก 7.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทย และพนักงานของการบินไทยในช่วงปี 2547-2548 รวมตั้งแต่ปี 2534-2540 เป็นเงินทั้งสิ้น 36.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตามมาด้วยข่าวว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐสอบสวนพบว่า บริษัทโรลสรอยซ์ได้มีการจ่าย “สินบน” ให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
ตั้งแต่ช่วงปี 2546 จนถึง 2555 รวมเป็นเงินสินบนกว่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับผู้บริหาร 1 ราย พนักงาน 3 ราย ไม่สามารถระบุได้อีก 2 ราย ในโครงการจำนวน 6 โครงการ ส่วนมากเป็นโครงการโรงแยกก๊าซ
กรณีการบินไทย ผู้ดำรงตำแหน่งในการจัดซื้อจัดจ้างช่วงที่ 1 ไดัแก่ พล.อ.อ.วีระ กิจจาทร ดำรงตำแหน่งดีดี 2531-2535 พล.อ.อ.วรนาถ อภิจารี ผบ.ทอ. เป็นประธานบอร์ดปี 2531-2532 และ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล ผบ.ทอ. เป็นประธานบอร์ดปี 2532-2535
นายสมัคร สุนทรเวช เป็น รมว.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ 14 ธันวาคม 2533-23 กุมภาพันธ์ 2534 และ นายนุกูล ประจวบเหมาะ เป็น รมว.คมนาคม ในรัฐบาล นายอานันท์ ปันยารชุน นั้น 6 มีนาคม 2534-22 มีนาคม 2535
การจัดซื้อจัดจ้างช่วงที่ 2 พล.อ.อ.วีระ กิจจาทร เป็นดีดี ปี 2531-2535 นายธรรมนูญ หวั่งหลี เป็นดีดีช่วง 2536-2543 พล.อ.อ.ม.ร.ว.ศิริพงษ์ ทองใหญ่ เป็นประธานบอร์ดช่วงปี 2536-2539 นายมหิดล จันทรางกูร ประธานบอร์ดช่วงธันวาคม 2539-พฤศจิกายน 2543
พ.อ.วินัย สมพงษ์ เป็น รมว.คมนาคม ในรัฐบาล นายชวน หลีกภัย และ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็น รมว.คมนาคม ยุครัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา
การจัดซื้อจัดจ้างช่วงที่ 3 นายกนก อภิรดี เป็นดีดีการบินไทย ช่วง 2545-2549 นายทนง พิทยะ ประธานบอร์ด มิถุนายน 2545-มีนาคม 2548 นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานบอร์ด มีนาคม 2548-พฤศจิกายน 2549 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รมว.คมนาคม ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (ยศขณะนั้น)
สำหรับกรณีของ ปตท. ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญคือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระหว่างปี 2541-2553 จะมีผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ ปตท. ในช่วงนั้น 2 คนคือ นายวิเศษ จูภิบาล กับ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ส่วน รมต. มีผู้ดำรงตำแหน่งในช่วงนั้น 6 คน
หลังจากมีข่าวดังกล่าว ป.ป.ช. โดย นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ได้ตั้งคณะทำงานสืบสวนและรวบรวมข้อมูลทั้งสองกรณี
ขณะที่ ปตท. ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง รายงานต่อคณะกรรมการบริษัทภายใน 30 วัน
ส่วนบรรดาผู้มีชื่อเกี่ยวข้อง ส่วนมากไม่แสดงความคิดเห็น ขณะที่ นายกนก อภิรดี อดีตดีดีการบินไทย ส่งข้อความผ่านไลน์ว่า ตนเองถูกฝ่ายการเมืองสั่งแขวนในช่วงท้ายของการทำหน้าที่ดีดี แล้วตั้งบุคคลอื่นมาทำหน้าที่แทน
มีการเผยแพร่เอกสารมติคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ที่กระทรวงคมนาคมขอซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777 โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รมว.คมนาคม
ขณะที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือที่ สตง. ให้สอบสวนการจัดซื้อดังกล่าว ว่ามีรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน
เพื่อให้สังคมควรได้รู้ข้อเท็จจริงว่าใครทำอะไรไว้อย่างไรบ้าง และขยายผลตรวจสอบไปในกรณีอื่นด้วย เพื่อไม่ให้เป็นเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง เช่น กรณีจีที 200
ส่วนทางรัฐบาลเอง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบและหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมกับวางแนวทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เรื่องดังกล่าวไม่ส่งผลต่อคะแนนและการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น (CPI) ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ที่จะจัดอันดับปลายเดือนมกราคมนี้ เพราะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในอดีตตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งสังคมคงต้องมองย้อนกลับไปพิจารณาดูว่าเป็นยุคสมัยใด
ส่วน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า เอกสารประกอบการพิจารณาของศาลอังกฤษ ที่โรลสรอยซ์ตกเป็นจำเลย ระบุค่าใช้จ่ายในประเทศไทยตกประมาณ 36.38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท ให้คนกลางผลักดันเพื่อให้ใช้เครื่อง T 800 ของโรลสรอยซ์ในเครื่องบินโบอิ้งที่การบินไทยจัดหามาใหม่ จำนวนทั้งหมด 20 เครื่อง
โดยจ่ายสินบนช่วงแรกระหว่าง 2534-2535 ในรัฐบาล รสช. เป็นเงิน 18.8 ล้านดอลลาร์ งวดที่สอง 10.38 ล้านดอลลาร์ ระหว่าง 2535 ถึง 2540 รัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
งวดสุดท้าย 7.2 ล้านดอลลาร์ ระหว่าง 2547-2548 ยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร
ใครจ่ายนั้นชัดเจน แต่ผู้รับ ยังอยู่ในสถานะ “ไอ้โม่ง” รอการระบุตัว
ไม่น่าเกินความสามารถของรัฐบาล และ ป.ป.ช.
ขณะที่มีเสียงเรียกร้องให้เอาจริงกับคดีทำนองเดียวกัน ที่ถูกดองเค็มไปพร้อมกันด้วย