กล่องข้าวน้อย “นายกฯ” โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

—————-

กล่องข้าวน้อย “นายกฯ”

—————-

คนอีสาน มีตำนาน “ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่”

เป็นข้อเตือนใจ สำหรับการมีสัปปายะ( สิ่งที่เอื้อ , สิ่งที่เกื้อกูล)ต่อกัน

นั่นคือ อย่างหุนหันพลันแล่น ต้องมีสติ อยู่ตลอดเวลา

ตำนาน “ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่” ว่าถึงหนุ่มกำพร้าพ่อ คนหนึ่ง ออกไปทำนา รู้สึกเหน็ดเหนื่อยและหิวข้าว

ปกติแม่ผู้ชราจะมาส่งข้าวให้ทุกวัน แต่วันนี้กลับมาช้า เกิดกระวนกระวายใจ โมโหหิว

เมื่อเห็นแม่เดินเลียบคันนา มาพร้อมกับก่องข้าวน้อยๆ

รู้สึกโกรธ ยิ่งขึ้นไปอีก ช้าก็ช้า ยังเอาก่อง(กล่อง)ข้าว(มา)น้อยอีก จึงพลุ่งพล่านคว้าได้ไม้เข้าตีแม่จนล้มลง

แล้วเดินไปกินข้าวอย่างหิวกระหาย แต่ กินจนอิ่มแล้ว ข้าวยังไม่หมดก่องเสียที

รู้สึกผิดชอบชั่วดี หันไปดูอาการของแม่

แต่ก็สายไป แม่ตายไปแล้ว ด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบของตน แท้ๆ

ด้วยความเสียใจ จึงก่อธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิแม่ไว้แล้วให้ชื่อว่า “ธาตุก่องข้าวน้อยฆ่าแม่” เป็นสัญลักษณ์”รับผิด”

คงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มอีก

แต่อยากโยง”ก่อง”ข้าวน้อย นั้นไปถึง “กล่องข้าว”(พลาสติก)ของนายกฯ

ก่องข้าวน้อยข้างต้น เริ่มเหตุจากจุดเล็กๆคือเห็นก่องข้าวเล็ก กลัวไปพอกิน เลยก่อเรื่องใหญ่

ส่วน “กล่องข้าว”นายกฯ ก็เริ่มมาจากจุดเล็กๆ ที่หวังจะทำให้ภาพนายกฯดูดี

จึงมีดราม่า จากนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เป็นภาพข้าวผัดกะเพราหมูสับไข่ดาว ในกล่องพลาสติกสีดำ โดยระบุข้อความ

“มื้อแรกวันนี้ของท่านนายกฯ ระหว่างเดินทางไปพบพี่น้องประชาชนที่ พิษณุโลก และ สุโขทัย”

หวังจะโชว์ภาพทำงานหนัก กินง่ายอยู่ง่าย ของผู้นำ

แต่ก็เจอ ดราม่าสวนทางจากผศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ที่โพสต์ข้อความสวนกลับ

“บอกให้ประชาชนเลิกใช้กล่องพลาสติก แต่ท่านนายกรัฐมนตรีก็ยังใช้กล่องพลาสติกแล้วจะมีความหมายอะไรเมื่อผู้นำประเทศไทยยังไม่ตระหนักและให้ความสำคัญต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังเลย… Rip มาเรียม”

เรื่องสั้น กลายเป็นเรื่องยาว

เรื่องเล็ก พลิกเป็นเรื่องใหญ่

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาขอโทษสังคม

แถมต้อง “กลัดกระดุม”ใหม่อีกแถว ว่า

“เมื่อนายกฯ เห็นว่าอาหารใส่กล่องโฟมก็ได้ตำหนิเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ว่าไม่ให้ใช้พลาสติกเป็นภาชนะใส่อาหาร และจากนี้ไปให้ใช้วัตถุย่อยสลายได้แทน”

ไม่ต้องถามว่า คนจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ

ตรงกันข้าม กลับทำให้คิด”ยาวและต่อเนื่อง”ไปถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ณ สัปปายะสภาสถาน ในวันที่ 18 กันยายนคือ การอภิปรายทั่วไป เรื่องการถวายสัตย์

ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้

หากยึดหลักทำให้ เรื่องเล็กเป็นเรื่องเล็กเสียแต่ต้น

เช่น ยอมตอบกระทู้สดเรื่องดังกล่าวให้เสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมง

แต่ก็ไม่ยินยอม หันไปสร้างภาระกิจเพื่อบอกคนในสภาว่า นายกฯมีภาระกิจมากมาย ไม่ว่างจะมาตอบกระทู้ได้

ทำให้ทุกวันพุธ พฤหัส ทำเนียบต้องหาวาระให้นายกฯไปโน้นไปนี่ เพื่อให้เป็นไปตามข้ออ้าง

และก็อย่างที่เห็นวันพุธที่ผ่านมาถูกกำหนดให้ไปตรวจน้ำท่วมที่สุโขทัย -พิษณุโลก

โชว์ว่างานหนักจริงๆ

แต่เกิดอยากบวกดราม่า “กล่องข้าว”เข้าไป

สิ่งที่กำหนดได้ ก็เลยกลายเป็นกำหนดไม่ได้

กล่องข้าวนายกฯทำท่าจะกลายเป็น “ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่”

โยงไปโยงมาทำนองเพราะมีสิ่งนั้นจึงมีสิ่งนี้

เรื่องที่ควรเล็ก กลายเป็นเรื่องใหญ่

เหมือนดัง สภาความเป็นสถานสัปปายะ อันควรร่มเย็น

กลายเป็นสถานแห่งความรุ่มร้อนเสียเนี่ย

————