รายงานพิเศษ / ส่อง กห.ยุค “บิ๊กตู่” กับเงา “บิ๊กป้อม” ส่องไลน์ “นายกฯ-ผบ.เหล่าทัพ” มองข้ามช็อตทัพฟ้า จับตาเสืออากาศ “จ้อ-ต่วย-ตั้ว-ป้อง” กับความหวังแห่งธูปะเตมีย์

รายงานพิเศษ

ส่อง กห.ยุค “บิ๊กตู่” กับเงา “บิ๊กป้อม”

ส่องไลน์ “นายกฯ-ผบ.เหล่าทัพ”

มองข้ามช็อตทัพฟ้า จับตาเสืออากาศ

“จ้อ-ต่วย-ตั้ว-ป้อง” กับความหวังแห่งธูปะเตมีย์

แม้จะถูกจับตามองว่าจะนั่งควบ รมว.กลาโหมแค่ชั่วคราว รอนายทหารที่เหมาะสมมานั่งแทนก็ตาม แต่บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามที่จะทำหน้าที่ รมว.กลาโหมอย่างเต็มที่

เพราะสถานการณ์เบื้องหน้า อยู่นอกเหนือการควบคุมได้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะรู้ดีว่า ภารกิจบนถนนการเมืองของตนเองนี้จะยาวนาน อย่างน้อย 2 สมัย 8 ปีก็ตาม

พล.อ.ประยุทธ์ก็อาจจะต้องเป็นนายกฯ และควบ รมว.กลาโหมไปแบบถาวรเลยก็เป็นได้ เพราะอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เพื่อสร้างความมั่นคงแข็งแรงให้เก้าอี้นายกฯ

เพราะถึงอย่างไร กองทัพก็ยังคงเป็นฐานอำนาจสำคัญของการเป็นนายกรัฐมนตรี

แม้จะมีบิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ช่วยแบ่งเบางานต่างๆ ให้ก็ตาม แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ตั้งใจว่าจะเข้ากลาโหมสัปดาห์ละหนึ่งวันเพื่อให้กระทรวงกลาโหมไม่เหงา จากเดิมที่จะเข้ากลาโหมแค่เดือนละครั้ง เมื่อต้องมาประชุมสภากลาโหมเท่านั้น

ทั้งนี้ก็เพื่อให้กระทรวงดูคึกคัก ไม่เงียบเหงา เมื่อมี “สนามไชย 1” เจ้ากระทรวงปืนใหญ่ เข้ามาใช้ห้องทำงานที่ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม อันเก่าแก่บ้าง

เพราะเมื่อครั้งบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกฯ ควบ รมว.กลาโหมมา 5 ปีในยุครัฐบาล คสช.นั้น เข้ามากระทรวงกลาโหมสัปดาห์ละหลายวัน แม้จะไม่ได้นั่งทำงานเต็มวันก็ตาม

แม้แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็น รมว.กลาโหมแล้ว พล.อ.ประวิตรก็ยังขอมาใช้สถานที่ห้องรับรอง รมว.กลาโหม รับแขกต่างประเทศ โดยเฉพาะบรรดาเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ อยู่เสมอๆ

แม้จะมีบิ๊กชาติ พล.อ.สุชาติ หนองบัว เลขาฯ รมว.กลาโหม ตท.15 นั่งทำงานเป็นพี่ใหญ่ในสำนักงาน รมว.กลาโหมทุกวัน

พร้อมด้วยทีม ตท.20 ทั้งบิ๊กหนู พล.อ.ศักดา เนียมคำ หัวหน้าสำนักงาน รมว.กลาโหม และบิ๊กกวาง พล.ท.มล.กุลชาต ดิษฐกุล ทีมงานส่วนตัวจากตึกไทยคู่ฟ้า และเสธ.จิ้น พล.ท.ธนะศักดิ์ ชื่นอิ่ม (ตท.24)

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ถึงจะไม่ได้เข้ากลาโหม แต่ก็พูดคุยสอบถามสั่งการกับทีมงานหน้าห้องเสมอ รวมทั้งบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ที่ก็เป็นน้องรักที่ใกล้ชิดกันมายาวนาน

ดังนั้น จึงถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ก็คือทีมเดียวกันเช่นเดิม เพราะบิ๊กตู่ยังคงให้บิ๊กป้อมช่วยดูแลเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายทหารด้วย โดยที่ ผบ.เหล่าทัพก็ยังไปทานข้าวเช้าทุกวันศุกร์ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ใน ร.1 รอ. กับบิ๊กป้อมเช่นเคย แม้จะไม่ได้เป็น รมว.กลาโหม แต่ก็ยังเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และยังเป็นพี่ป้อม พี่ใหญ่อยู่นั่นเอง

แถมทั้ง พล.อ.ณัฐจะกลายเป็น ผบ.เหล่าทัพที่เป็นแกนหลัก เพราะมีอายุราชการยาวถึงกันยายน 2564 และจะเป็น ผบ.เหล่าทัพคนเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ ในโยกย้ายปลายปี 2563 ที่ทั้งบิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. และรวมถึงบิ๊กนัต พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ที่คาดว่าจะขึ้นเป็น ผบ.ทอ.ในไม่กี่วันนี้ ที่ก็จะเกษียณกันยายน 2563

ไม่แค่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ยังมีไลน์กลุ่มกับ ผบ.เหล่าทัพ ไว้นัดแนะ สั่งการ และส่งภาพ ส่งรายงานต่างๆ ให้เสมอๆ รวมทั้งไลน์ส่วนตัวกับ ผบ.เหล่าทัพแต่ละคน

โดยเฉพาะกับ พล.อ.อภิรัชต์ ที่นอกจากการเป็น ผบ.ทบ.แล้ว การเป็นน้องรักที่ใกล้ชิดก็ทำให้มีเรื่องต้องคุยกันมากกว่า ผบ.เหล่าทัพคนอื่น

แม้จะเป็น ผบ.ทบ.แล้ว แต่ พล.อ.อภิรัชต์ก็ยังเป็นน้องรักและเป็นมือทำงาน และปฏิบัติการลับให้ พล.อ.ประยุทธ์เสมอ

นอกจากทางไลน์และโทรศัพท์มือถือติดต่อกันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็มักจะมี “จดหมายน้อย” กระดาษโน้ตเล็กๆ เขียนสั่งการ หรือฝาก ผบ.เหล่าทัพเสมอๆ

หากส่องไลน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ และ ผบ.เหล่าทัพ ก็จะพบว่า ล้วนเต็มไปด้วยภาพสัตว์ที่ต่างคนต่างโปรดปราน

พล.อ.ประยุทธ์ใช้รูปโปรไฟล์เป็นรูปเสือ ด้วยความที่เป็นทหารเสือราชินี หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า “เสือ” ที่จบหลักสูตรทหารเสือฯ และโตมาจาก ร.21 รอ. ด้วย

ขณะที่ พล.อ.ณัฐ ปลัดกลาโหม ที่แม้จะเป็นทหารเสือฯ เช่นกัน แต่ก็ใช้ภาพสิงโต ส่วน พล.อ.พรพิพัฒน์ใช้ภาพตนเองและพลุสีทอง และรูปการ์ตูนกบเล็กๆ เพราะชื่อเล่นว่ากบ

ส่วน พล.อ.อภิรัชต์ไม่ใช้รูปโปรไฟล์ใดๆ แต่ใช้ชื่อว่า Foxhall ซึ่งเป็นชื่อหมู่บ้านในวอชิงตัน ดี.ซี. สมัยเคยเรียนที่สหรัฐอเมริกา

ส่วน พล.ร.อ.ลือชัยใช้ภาพตนเองกับเรือรบ และรหัสเหยี่ยวทะเล Seahawk 911 ขณะที่ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ใช้ภาพตนเอง แต่ใช้ชื่อว่า กระต่ายบิน เพราะชื่อเล่นว่าต่าย

แต่มี call sign ว่า STOMPER แต่ชอบเรียกตัวเองว่า rabbit

พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน

ขณะที่ทุ่งดอนเมือง มีการมองข้ามช็อตกันแล้วว่า หากบิ๊กนัต พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ เสนาธิการทหารอากาศ ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่แล้ว ใครจะมาต่อคิวขึ้นแม่ทัพฟ้าอีกคน

ด้วยเพราะ พล.อ.อ.มานัตเกษียณกันยายน ดังนั้น ในโผนี้ก็จะเห็นหน้าเห็นตัวผู้บัญชาการทหารอากาศคนถัดไปกันแล้ว

หากบิ๊กจ้อ พล.อ.ท.ธรินทร์ ปุณศรี รองเสนาธิการทหารอากาศ ที่เป็นเพื่อนเตรียมทหาร 20 ของ พล.อ.อ.มานัต ขยับขึ้น ผช.ผบ.ทอ. ก็ย่อมหมายถึง การมีสิทธิ์ลุ้นชิงเก้าอี้ ผบ.ทอ. และจะกลายเป็น ผบ.ทอ.ของ ตท.20 คนที่ 2 ของรุ่น

แม้ในทุ่งทัพฟ้าจะมีคำพูดติดปากที่ว่า ในรุ่นหนึ่ง ควรจะมีคนได้เป็น ผบ.ทอ.เพียงคนเดียว

ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการผ่องถ่ายอำนาจจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ใช่เอาแต่พวก เอาแต่เพื่อน และรุ่น

ด้วยเพราะในเตรียมทหาร 18 นั้น ก็มีแต่ “บิ๊กต่าย” พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน เป็น ผบ.ทอ.คนเดียว แม้ว่ายังมีบิ๊กยาว พล.อ.อ.วันชัย นุชเกษม รอง ผบ.ทหารสูงสุด เพื่อนอีกคน ที่จะเกษียณกันยายน 2563 ที่ลุ้นเก้าอี้ ผบ.ทอ.ได้

แต่ พล.อ.อ.วันชัยก็ดูจะทำใจตั้งแต่ถูกเด้งพ้นจากกองทัพอากาศ เมื่อโยกย้ายปลายปีที่แล้ว พร้อมๆ กับโอกาสที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทอ. ก็หมดลงไปด้วยตั้งแต่วันนั้น

แม้ตลอดเวลา 1 ปีจะมีการจับตามองว่า มีสัญญาใจกันหรือไม่ ระหว่าง พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ กับ พล.อ.อ.วันชัย ที่เป็นเพื่อนรัก ตท.19 ด้วยกันว่า เมื่อบิ๊กต่ายเป็น ผบ.ทอ.แล้ว 1 ปี จะให้บิ๊กยาวเป็น ผบ.ทอ.ต่ออีก 1 ปีก่อนเกษียณ

แต่ดูเหมือนว่า พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ไม่ใช่คนตัดสินใจเพียงคนเดียว ว่าจะให้ใครเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่

เพราะหากอ่านใจ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ก็คงอยากจะเอา พล.อ.อ.วันชัยกลับมาเป็น ผบ.ทอ.

พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์

แต่ทว่า ทุกอย่างจบลงตั้งแต่มีชื่อ พล.อ.อ.มานัตขึ้นมาเป็น เสธ.ทอ. ตั้งแต่โยกย้ายปลายปีที่แล้ว อีกทั้งไม่มีสัญญาใจใดๆ ระหว่าง “ต่ายกับยาว” และเพื่อนก็ย่อมเข้าใจเพื่อน

อีกทั้ง พล.อ.อ.วันชัยก็ดูจะยอมรับในชะตากรรมของตนเอง เขาจึงทำหน้าที่รอง ผบ.ทหารสูงสุดมาอย่างเต็มที่

และไม่เคยคาดหวังที่จะกลับมาเป็น ผบ.ทอ.ในปีสุดท้ายก่อนเกษียณเลย

จนมีเสียงชื่นชมที่กองบัญชาการกองทัพไทยว่า พล.อ.อ.วันชัยเป็นคนดี ไม่เรียกร้องใดๆ แม้จะเคยมีสิทธิ์ในการชิงเก้าอี้ ผบ.ทอ.มาก่อนก็ตาม

หลังมีข่าวสะพัดว่ามีความพยายามในการชิงเก้าอี้ ผบ.ทอ. กับ พล.อ.อ.มานัต ในการโยกย้ายครั้งนี้

แต่ดูเหมือนจะมีการจับจ้องไปที่บิ๊กหมู พล.อ.อ.ปรเมศร์ เกษโกวิท รองปลัดกลาโหม เพื่อน ตท.18 ที่ถือเป็นแคนดิเดตนอก ทอ.อีกคน ที่ก็พอมีสิทธิ์ลุ้น หลังจากที่ถูกเด้งออกมาจาก ทอ.เมื่อโยกย้ายปลายปีที่แล้วเช่นกัน

แต่ด้วยเพราะเป็นเครือญาติของบิ๊กหมู พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท อดีตปลัดกลาโหม น้องรักของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แต่ก็ดูเหมือนจะแผ่วปลาย

เพราะในที่สุดแล้ว ความพยายามลุ้นเฮือกสุดท้ายก็ไม่เป็นผล เพราะจาก ตท.18 ก็ย่อมต้องผ่องถ่ายสู่ ตท.20 ที่เป็นรุ่นของบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่ถือว่ามีบทบาทมากกว่า ผบ.เหล่าทัพคนใด โดยเฉพาะเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และควบ รมว.กลาโหมด้วย

จนมีข่าวสะพัดมาก่อนหน้านี้ว่า พล.อ.อภิรัชต์ก็มีส่วนสนับสนุน พล.อ.อ.มานัต เพื่อน ตท.20 ให้ขึ้นเป็น ผบ.ทอ.อีกแรงหนึ่งด้วย

นอกเหนือจากการที่ พล.อ.อ.มานัตเติบโตมาในเส้นทางที่ได้รับการหนุนเนื่องจากอดีต ผบ.ทอ.หลายคน เพราะทำงานมาทั้งกับบิ๊กเฟื่อง พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ และบิ๊กจิน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ตอนเป็น ผบ.ทอ.

ถูกจับตามองว่าจะเป็น ผบ.ทอ.ในอนาคต ตั้งแต่ตอนที่เป็นผู้บังคับการกองบิน 7 และไปเป็นผู้ช่วยทูตทหารอากาศ ประจำเยอรมนี นั่นแล้ว

พล.อ.ท.ธรินทร์ ปุณศรี

ก่อนกลับมาเติบโตในกรมยุทธการทหารอากาศ จนขึ้นเป็นเจ้ากรมยุทธการ ทอ. ก่อนขึ้นเป็นรอง เสธ.ทอ. และเป็นนายทหารที่มีบทบาทสำคัญ ในการวางระบบเครื่องบิน กริพเพ่นเข้าประจำการ จนถูกเรียกว่าเป็นสายกริพเพ่น

จึงทำให้การโยกย้ายทหารครั้งนี้ พล.อ.อ.มานัตจึงยังคงเป็นเต็งหนึ่งเดียว ผบ.ทอ.ในกองทัพอากาศ ส่วนแคนดิเดตจากนอก ทอ. ก็ดูจะพลังไม่พอ

แต่ที่จับตามองกันมากคือ ในโผนี้ จะต้องมีการวางตัว ผบ.ทอ.คนต่อไปที่จะมาแทน พล.อ.อ.มานัต

ที่ต้องรอดูว่า ใครจะได้ขึ้นมาใน 6 ฉลามอากาศ Top six ทั้งบิ๊กต่วย พล.อ.ท.สุทธิพันธุ์ ต่ายทอง รอง เสธ.ทอ. (ตท.21) ที่ลุ้นเก้าอี้เสนาธิการทหารอากาศ

พล.อ.ท.สุทธิพันธุ์ ต่ายทอง

แต่ก็ต้องควบแข่งกับ พล.อ.ท.ธรินทร์ ที่ก็เป็นน้องชายของบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี อดีต เสธ.ทอ. ที่ยังคงมีบารมีอยู่ใน ทอ.ไม่น้อย

แต่ก็มีข่าวสะพัดว่า พล.อ.อ.มานัตสะดวกใจที่จะให้ พล.อ.ท.สุทธิพันธุ์ที่เติบโตมาในสายกำลังพล เป็น เสธ.ทอ. มากกว่า เพราะความสัมพันธ์กับ พล.อ.ท.ธรินทร์ อาจไม่ค่อยหวานชื่นนัก

แต่ก็ทำให้ทั้ง พล.อ.ท.ธรินทร์ ตท.20 ที่เกษียณ 2564 และ พล.อ.ท.สุทธิพันธุ์ (ตท.21) ที่เกษียณ 2565 จะกลายเป็นคู่ชิง ผบ.ทอ.ในอนาคต ในปลายปีหน้า

ไม่แค่นั้น ยังมีชื่อของบิ๊กตั้ว พล.อ.ท.สฤษดิ์พงศ์ วัฒนวรางกูร จากผู้ทรงคุณวุฒิฯ ทอ. จาก ตท.21 ร่วมลุ้นด้วย เพราะก็เป็นน้องรักของ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ที่เป็นนักบินเอฟ 16 และอดีต ผช.ทูตทหารอากาศประจำลอนดอน

ที่ต้องจับตามองคือ บิ๊กป้อง พล.อ.ท.นภาเดช ธูปะเตมีย์ รอง ผบ.คปอ. (ตท.21) ที่คาดว่าจะขึ้นมาเป็น ผบ.คปอ.ในโผนี้ ที่ก็จะถือว่ามีสิทธิ์ลุ้นชิง ผบ.ทอ.ในปีหน้าด้วย

พล.อ.ท.นภาเดช ธูปะเตมีย์

เพราะ พล.อ.ท.นภาเดช ถือเป็นนายทหารอากาศที่ถูกจับตามองว่าจะเป็น ผบ.ทอ.ในอนาคต ด้วยเพราะเติบโตมาในเส้นทางนักบินเอฟ 16 และอดีต ผช.ทูตทหารอากาศ ประจำกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และเป็นลูกชายของ พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ อดีต ผบ.ทอ.

ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า พล.อ.ท.นภาเดช อาจถูกสกัดส่งออกนอก ทอ.ให้ไปเป็นพลอากาศเอก ที่ บก.กองทัพไทย นั่งเป็นรอง เสธ.ทอ. เพราะมี พล.อ.ท.ศุภชัย สายเงิน รอง ผบ.คปอ. ชิงเก้าอี้ ผบ.คปอ.อยู่ด้วย แถมทั้งร่ำลือกันว่า พล.อ.ท.นภาเดชไม่ใช่น้องเลิฟของ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์อีกด้วย

แต่ หาก พล.อ.ท.นภาเดชขึ้น ผบ.คปอ.ได้ก็ย่อมหมายถึงมีสิทธิ์ชิงเก้าอี้ ผบ.ทอ.ในปีหน้า และอาจต้องชิงกับทั้ง ตท.20 และกับเพื่อน ตท.21 ที่ล้วนเกษียณ 2565 ด้วยกันเองด้วย

แต่ทุกอย่างก็ย่อมขึ้นอยู่กับดวงชะตาที่ฟ้าได้กำหนดไว้แล้ว