มาดามหลูหลี / Only The Cat Knows : เจ้าแมวจิบิต้องรู้แน่…

มาดามหลูหลี[email protected]

ภาพยนตร์หรือละคร ถ้ามี “แมว” เข้าไปอยู่ในฉาก ความน่ารักของแมวเหมียวมักเป็นที่ถูกใจเหล่าทาสแมวทั้งหลาย

Only The Cat Knows ภาพยนตร์ญี่ปุ่น สร้างจากหนังสือมังงะเรื่อง “Otosan, Chibi ga Inaku Narimashita” โดยเคโกะ นิชิ (ตีพิมพ์เมื่อ 2013-2015 ในนิตยสาร Zoukan Flowers) ซึ่งเล่าเรื่องราวชีวิตคู่ของสามีภรรยาที่อยู่ร่วมกันมาถึง 44 ปี มีลูกชายและลูกสาวสองคน โดยต่างเติบโตและมีชีวิตของตัวเอง

เป็นการแสดงร่วมกันอีกครั้งของดารานำอาวุโสสองท่าน คือ ทัตซึยะ ฟูจิ (จาก Photo Album of The Village) รับบทเป็นคุณพ่อมาซารุ และจิเอโกะ ไบโซ (จาก Tora-san Welcome Back) เป็นยูกิโกะ ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของมาซารุ

หนังถามว่า “ยังจำอารมณ์ตอนตกหลุมรักใครสักคนได้มั้ย?”

คู่สามีภรรยาที่อยู่กันมานานมาก ไม่รู้ว่ายังจำภาพวันแรกที่พบกันได้หรือไม่ ยังคงมีความสัมพันธ์เหมือนที่แรกรักกันใหม่ๆ หรือว่าจืดชืดเฉยชาแบบต่างคนต่างอยู่ ถามคำตอบคำแทบไม่อยากพูดกัน

ยูกิโกะอุ้มแมวดำอยู่บนตักนั่งดูซีรี่ส์เกาหลี ซึ่งเธอจดจำบทสนทนาในซีรี่ส์ได้เกือบทุกคำพูด เธอคงดูซ้ำจนจำได้

เจ้าแมวดำจิบิเป็นเสมือนเพื่อนของยูกิโกะ อยู่ในบ้านที่เงียบเหงา ถ้าไม่มีเจ้าแมวจิบิ เธอก็คงอยู่คนเดียวพูดคนเดียว

 

มาซารุผู้เป็นสามีแม้จะเกษียณมาแล้ว แต่มักออกจากบ้านทุกวันโดยพกอาหารกล่อง (Bento) ที่ยูกิโกะทำเมนูเดิมๆ เป็นมื้อกลางวัน เขาไปที่ชมรมเล่นโชบิ (หมากรุกญี่ปุ่น) ทุกวัน มียามาซากิ (คัทซึยะ โคบายาชิ) ชายหนุ่มที่ฝันอยากเป็นนักเขียนมาเล่นเป็นเพื่อน

โอโต้ซังมาซารุยังได้เกษียณ แต่แม่บ้านอย่างยูกิโกะไม่มีวันได้เกษียณ เธอยังคงทำงานบ้านทำอาหารเช่นเดิมทุกๆ วัน เหมือนวันแรกที่เธอแต่งงานกับมาซารุ

ยังคงถอดถุงเท้าให้สามี เตรียมอาหารให้รับประทาน จัดปูที่นอนให้ อย่างที่รู้ๆ กันว่าผู้ชายญี่ปุ่นซึ่งเป็นใหญ่ในบ้าน กลับถึงบ้านมี 3 อย่างที่แม่บ้านต้องดูแลคือ อาบน้ำ (furo), กินข้าว (meshi) และนอน (neru)

ยูกิโกะแวะไปหามาซารุที่ชมรมหมากรุก ยืนจ้องจนเขาหันมามอง เธอกวักมือเรียก เขาก็ทำทีไม่สนใจและไม่ออกมาด้วย แทนที่เธอจะเดินเข้าไป เมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจ เธอก็เดินกลับบ้าน

เธอเพียงแค่อยากให้มาซารุพาไปเที่ยวเมืองนากาโน่ที่มีลิงแช่ออนเซน ยูกิโกะขอให้สามีพาเธอไปเที่ยวที่นี่ เพราะมีเพื่อนมาชวน แต่เหมือนมาซารุจะไม่สนใจที่จะพาเธอไปเที่ยว ยูกิโกะทำได้แค่พูดบ่นให้แมวจิบิฟัง

อยู่ด้วยกันสองคน แต่เหมือนอยู่คนเดียว คำพูดราวกับสายลมพัดหาย ไม่มีการรับรู้ ยูกิโกะดูเกรงใจสามีมากจนคล้ายกลัว ทั้งไม่กล้าตัดสินใจอะไร

 

วันหนึ่ง อยู่ๆ แมวจิบิหายออกจากบ้าน ยูกิโกะเป็นห่วงและคิดถึงมันมาก เธอได้ปรึกษานาโอโกะ (มิคาโกะ นิชิคาวะ) ลูกสาวให้ช่วยตามหาแมว ขณะที่มาซารุบอกเสียงดุว่าแมวจิบิคงไปหาที่ตายเพราะอายุมากแล้ว

คนญี่ปุ่นชอบเลี้ยงแมวมาก เมื่อแมวหาย ถึงกับต้องว่าจ้างบริษัทวิจัยแมวให้ตามหา ซึ่งค่าบริการสูงถึง 100,000 เยน หรือประมาณ 30,000 บาท มีเจ้าหน้าที่เอากรงแมวมาล่อและแผ่นปลิวประกาศตามหาแมว

เมื่อแมวจิบิหาย ยูกิโกะได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง จนลูกๆ ตกใจ

คู่สามีภรรยาที่อยู่กันมาจนเป็นตายายได้แล้ว แต่ผู้ชายก็มักใช้ชีวิตตามสบายเหมือนเดิม ขณะที่ผู้หญิงก็ยังดูแลรับใช้ผู้ชายเหมือนเดิมเช่นกัน

ความแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย คือ ผู้หญิงมักจดจำเรื่องดีงามที่ผู้ชายเคยทำให้ แต่ผู้ชายมักจะลืมเลือนสิ่งดีงามที่ผู้หญิงได้ทำให้เขา และยังปฏิบัติต่อผู้ชายจนเป็นปกติวิสัย จนกลายเป็นสิ่งธรรมดาที่ดูไร้คุณค่า

 

หนังฉายภาพเรื่องราวชีวิตคู่ ที่ชีวิตจริงก็คงไม่แตกต่างไปจากนี้ เพราะอยู่กันมายาวนาน เรื่องที่จะพูดคุยกันก็พูดไปจนหมดแล้ว รู้ไส้รู้พุงหมดแล้ว ไม่ว่าจะคิดทำอะไร

และหนังฉายภาพย้อนหลังไปเมื่ออดีตที่มาซารุกับยูกิโกะได้พบกันครั้งแรก ซึ่งแทบไม่มีการพัฒนาความสัมพันธ์กันเลย เพียงแค่หญิงสาวเป็นพนักงานขายนมกับขนมปัง ซึ่งชายหนุ่มมาซื้อตอนเช้าเวลา 07.25 น.ทุกวันตรงเวลา ทั้งคู่จึงแค่ทักทายกัน ยังมีหญิงสาวเพื่อนร่วมงานที่แอบชอบชายหนุ่มคนเดียวกันนี้

ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน เพราะแม่สื่อนัดหมายให้มีการดูตัว

Only The Cat Knows หนังดำเนินเรื่องเนิบช้าแบบวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่น ดนตรีประกอบไพเราะมากๆ ให้จังหวะสนุกคึกคัก ภาพบรรยากาศสวยงาม ชื่อหนังเอาแมวมาแอบอ้าง เอาเข้าจริงแมวเหมียวมาเข้าฉากไม่กี่ฉาก เหมือนแมวมันจะรู้นะว่าถูกหลอก

แมวเหมียวที่ใช้ชีวิตอิสระ อยากไปอยากมาตามใจชอบ

บางครั้งคุณผู้หญิงก็ต้องทำตัวเหมือนแมวเหมียวบ้าง เข้ามาคลอเคลียบางเวลา และสะบัดตัวเดินหนีหายไปจากชีวิตสักระยะหนึ่ง…ให้คิดถึง…