เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมไปงานเชียงใหม่ บุ๊กแฟร์ มาครับ

คนเยอะทีเดียว

นอกเหนือจากไปแจกลายเซ็นที่บู๊ธสำนักพิมพ์มติชนแล้ว ยังขึ้นเวทีเสวนาเรื่อง “ทางของเราต้องก้าวเอง” ด้วย

“กตัญญู สว่างศรี” เป็นผู้ดำเนินรายการ

คุยกันสนุกมากครับ

แต่ที่แปลกกว่าการเสวนาครั้งอื่นก็คือ มีการถ่ายทอดสดทาง “เฟซบุ๊กไลฟ์” ของเพจ “ข่าวสดออนไลน์”

ผมสนใจเรื่อง “เฟซบุ๊กไลฟ์” มานานแล้ว

และเป็นแฟนประจำของเพจ “มติชน-ข่าวสด-ประชาชาติธุรกิจ” ที่ลุยถ่ายทอดสดอย่างจริงจัง

วิธีการของ “เฟซบุ๊กไลฟ์” ก็ง่ายมาก

เพียงแค่กดเข้าไปเหมือนเราจะเขียนข้อความตามปกติ

ด้านล่างของช่องข้อความจะมีเมนู “วิดีโอแพร่ภาพสด”

กดเลยครับ

แล้วก็หันกล้องไปถ่ายภาพที่เราต้องการ

แค่นั้น เราก็จะกลายเป็น “ฐาปนีย์ เอียดศรีไชย” รายงานสดจากที่ไหนในโลกนี้ก็ได้

ใช้แค่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว

ไม่ต้องใช้รถโอบีราคา 10 ล้าน

ไม่ต้องเช่าสัญญาณดาวเทียม

ไม่ต้องขอขอบคุณการสื่อสารแห่งประเทศไทย เหมือนที่เราเคยได้ยินในรายการที่ถ่ายทอดสด

ไม่ต้องใช้กล้องโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ฯลฯ

ต้นทุนการถ่ายทอดสดจากที่เคยใช้ครั้งละหลายล้านบาท

ลดเหลือแค่ “มือถือ” เครื่องเดียว

นี่คือ การปฏิวัติการถ่ายทอดสดของโลก

คนที่มีสิทธิดู “เฟซบุ๊กไลฟ์” คือ คนที่เป็นเพื่อนเราทางเฟซบุ๊ก

แต่ถ้าเป็นแฟนเพจ ใครที่กด like เราก็จะมีสิทธิ์ได้ดูการถ่ายทอดสดครั้งนี้

คนทั่วไปมักจะ “เฟซบุ๊กไลฟ์” เรื่องราวในชีวิตประจำวัน

กินข้าว ทำกิจกรรมกับเพื่อน ฯลฯ

แต่ถ้าเป็นเพจของ “ข่าวสด” เขาจะ “เฟซบุ๊กไลฟ์” ถ่ายทอดสดเหตุการณ์ต่างๆ เหมือนเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง

นายกฯ ให้สัมภาษณ์ก็ถ่ายทอดสด

กลุ่ม นปช. แถลงข่าวก็ถ่ายทอดสด

ดาราให้สัมภาษณ์ก็สด

ศิลปินเปิดตัวคอนเสิร์ตที่ไหน ก็สด

มีเสวนาที่ไหนก็สด ฯลฯ

สนุกมากครับ

ตามปกติเราดูข่าวโทรทัศน์ เขาจะตัดต่อข่าวสั้นๆ และใช้การอ่านข่าวมากกว่าปล่อยคลิปสัมภาษณ์ยาวๆ

แต่ใน “เฟซบุ๊กไลฟ์” เขาปล่อยยาวเหยียดเลยครับ

เต็มอิ่ม

สำหรับคนที่ทำงานข่าวมานานอย่างผม การถ่ายทอดสดแบบนี้ทำให้เราเห็น “ความ” ระหว่าง “บรรทัด” ชัดเจน

หรืองานเสวนาบางงานที่คงไม่มีโทรทัศน์ช่องไหนถ่ายทอดสด เช่น เสวนาเรื่องการออกกำลังกายในงาน “มติชน เฮลท์แคร์” ครั้งที่ผ่านมา

ผมลองเปิดดูเล่นๆ

เฮ้ย…ดีเลยครับ มีประโยชน์มาก

“เฟซบุ๊กไลฟ์” ถ่ายทอดสดเสร็จ ก็สามารถทิ้งค้าง “คลิป” ดังกล่าวไว้ในเฟซบุ๊กด้วย

ใครดูสดไม่ได้

ก็ดูย้อนหลังได้

ตอนอยู่บนเวที ผมเห็นน้องของ “ข่าวสด” เตรียมอุปกรณ์ไว้แล้ว

“ไอโฟน” 1 เครื่อง พร้อมขาตั้ง

แค่นั้นเองครับ

พอเริ่มเสวนา เขาก็กดปุ่ม “เฟซบุ๊กไลฟ์”

ผมไม่ได้เปิดเพจของ “ข่าวสด” ดูระหว่างการพูดคุย

ถ้าดูสดๆ เลย ใครแสดงความเห็น หรือถามอะไรขึ้นมา ผมก็สามารถตอบคำถามได้เลย

เป็นการสื่อสารแบบสองทาง

จบการเสวนา ผมเดินทางกลับ กทม. เลยในคืนนั้น

ถึงบ้านค่อยคลิกเข้าไปดูในเพจของ “ข่าวสด”

เข้าไปดูเล่นๆ

อยากรู้ว่ามีคนดูเท่าไร

กะว่ามีคนดูตอนถ่ายทอดสดประมาณหลักร้อย

สูงสุดก็น่าจะหลักพันต้นๆ

แต่พอคลิกเข้าไป

เฮ้ย…ตั้ง 4 หมื่นคน

แวบแรกที่เห็นตัวเลข ผมตกใจ 2 ครั้ง

ครั้งแรก ตกใจว่าทำไมคนดูเยอะจัง

สะดุ้งครั้งที่สอง เพราะนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เราพูดไปบนเวที มีคนดูตั้ง 4 หมื่นคน

จิ๊บจ๋ายแล้ว ข้าพเจ้าพูดอะไรไปบ้างบนเวที

ไปหมิ่นประมาทใครหรือเปล่า

ใครจะไปนึกว่าคนดูถ่ายทอดสดเยอะขนาดนี้

แต่เมื่อเข้าไปดูแฟนเพจของ “ข่าวสด”

โห…ยอดแฟนเพจสูงถึง 8.6 ล้านคน

ฐานแฟนเพจใหญ่ขนาดนี้ทำให้ยอดคนดูจึงสูงมาก

เข้าไปดู “ประชาชาติธุรกิจ”

แฟนเพจ 8 แสนกว่าคน

“มติชนออนไลน์” 5.4 แสนคน

รวมแฟนเพจของสื่อหนังสือพิมพ์ทั้งหมดในเครือ “มติชน”

…10 ล้านคนครับ

ฐานคนดูมากกว่าสถานีโทรทัศน์หลายช่องเลย

เท่ากับว่าตอนนี้ “มติชน” มีสถานีโทรทัศน์ 1 ช่อง

เพียงแต่ช่องทางการแพร่ภาพต่างจากสถานีโทรทัศน์ทั่วไปเท่านั้นเอง

แพร่ภาพทางมือถือและหน้าจอคอมพิวเตอร์

ไม่ใช่จอโทรทัศน์

ที่สำคัญ ไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานสักบาทเดียว

ผมย้อนไปดูสถิติของ “เฟซบุ๊กไลฟ์” ใน “ข่าวสด”

เชื่อไหมครับว่าบางเรื่องมีคนดูเกินแสนคน

เป็นตัวเลขที่วัดผลได้ชัดเจนอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

ในวงการโฆษณาถือว่ายอดคนดูระดับนี้ไม่ธรรมดา

ได้ข่าวว่า “ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง” หลายแห่งเริ่มจับตามองเรื่อง “เฟซบุ๊กไลฟ์” ตาเป็นมัน

นึกเล่นๆ สิครับว่าการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ใช้งบลงทุนมหาศาล

ส่วนใหญ่ไม่ต่ำกว่าล้านบาท

แต่มีคนเห็นภาพงานเปิดตัวน้อยมาก

เจ้าของสินค้าคงเสียดายเงินเหมือนกัน เพราะเขาอยากให้คนเห็นภาพการเปิดตัวสินค้าเยอะๆ

ตัวอย่างเช่น การเปิดตัว “สยามดิสคัฟเวอรี่” ที่ปรับปรุงใหม่แบบอลังการงานสร้าง

ใช้งบเปิดตัวหลายสิบล้านบาท

แต่มีคนเห็นไม่กี่คน

ทั้งที่หลายคนอยากเห็นภาพของศูนย์การค้านี้ที่รีโนเวทใหม่

แต่ก็ไม่ได้เห็น

ยิ่งคิดต่อยิ่งสนุกครับ

ทั้งรูปแบบของรายการ

ทั้งอุปกรณ์ที่ทำให้การถ่ายทอดสดน่าสนใจขึ้น

และการตลาดดิจิตอลที่จะเปลี่ยนไป

ปรากฏการณ์ “เฟซบุ๊กไลฟ์” น่าติดตามมากครับ