การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์/สูญสิ้นความเป็นคน ตอนที่ 1

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

สูญสิ้นความเป็นคน ตอนที่ 1

 

การ์ตูนเรื่อง “สูญสิ้นความเป็นคน” เป็นผลงานของ Junji Ito จากงานเขียนของ Osamu Dazai มีแปลไทยหลายสำนวน

ก่อนที่จะไปรู้ว่าโอซามุ ดะไซ คือใคร มีประวัติอย่างไร แม้กระทั่งจุนจิ อิโตะ เป็นใคร เขียนอะไรมาก่อนแล้วบ้าง เราอ่านการ์ตูนก่อน จะได้ไม่มีอคติทั้งต่อนักเขียนและนักวาด

สูญสิ้นความเป็นคนฉบับการ์ตูนนี้เป็นของรักพิมพ์พับลิชชิ่ง ลิขสิทธิ์จาก Shogakukan เหมาะสำหรับอายุ 18+

 

บทที่ 1 โอบะ โยโซ

ฉากแรกในหนังสือการ์ตูนเป็นฉากริมน้ำ กลางคืน ฝนตก โอบะ โยโซ นั่งอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเอาเชือกผูกเขาไว้แล้วสองคนปล่อยตนเองไถลลงน้ำที่ไหลเชี่ยวแล้วจมหายไป

ถัดไปเป็นเรื่องเล่าของตัวเขาเอง “ผมผ่านชีวิตอันมากด้วยความอัปยศ ผมไม่อาจเข้าใจผู้อื่น นิยามความสุขของผมกับนิยามความสุขของคนบนโลกนี้มันแตกต่างจนรู้สึกกังวลใจ ผมคร่ำครวญอยู่ทุกค่ำคืนถึงความกังวลใจนั้นถึงขนาดเคยเสียสติมาแล้ว” เป็นภาพผู้คนหลากหลายที่ดวงตากลวงโบ๋

กรอบถัดมาเป็นภาพคนคนหนึ่งที่มีก้อน 10 ก้อนอยู่ภายใน “ผมมีกลุ่มก้อนของความหายนะอยู่ 10 ก้อน ถ้าหากเอาสักก้อนหนึ่งไปให้คนข้างเคียงแล้วละก็ คงเพียงพอที่จะทำให้ชีวิตของคนข้างเคียงต้องย่อยยับ”

เรื่องย้อนไปช่วงที่เขาเป็นเด็กโตต่อวัยรุ่น เขาเล่าว่า ตนเองแทบพูดคุยกับคนในครอบครัวไม่ได้เลย เมื่อไม่รู้ทำอะไรจึงทำตัวเป็นตัวตลก เขาเล่าต่อไปถึงพิธีกรรมกินข้าวของครอบครัวว่าช่างน่าเบื่อและเคร่งครัดจนสยอง ชวนให้เขาคิดถึงวิญญาณเจ้าของที่ดินที่เกลียดชังตระกูลโอบะล่องลอยอยู่รอบโต๊ะอาหาร

“ผมมีชีวิตราวกับอยู่ในขุมนรกเสมอ”

 

เขาเล่าต่อไปถึงเรื่องการปราศรัยหาเสียงของพ่อซึ่งเป็นที่ชื่นชมทั้งของคนงานและเพื่อนฝูง แต่ก็เป็นเพียงการแสดงออกเพื่อรักษามารยาทและเอาอกเอาใจพ่อเท่านั้น ด้านพ่อและแม่ก็ได้กล่าววาจาเหยียดหยามทั้งเพื่อนฝูงและคนงานเมื่อทั้งหมดกลับไปแล้ว เป็นว่ามนุษย์คบหากันด้วยความไม่จริงใจเช่นนี้เอง

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีคนงานชายคนใหม่เข้ามาในบ้าน เขาข่มขืนโยโซในพุ่มไม้ ครั้นคนงานหญิงพาไปปลอบใจในห้องหับมิดชิดเธอขอล่วงละเมิดเด็กชายอย่างเขาอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งสองกรณีโยโซได้แต่เก็บเรื่องเอาไว้มิได้บอกให้ใครรู้

 

โอบะ โยโซ เป็นเด็กเรียนเก่ง เขาได้ที่หนึ่งเสมอตั้งแต่ชั้นประถม แต่เขามักกลบเกลื่อนความเด่นดังด้านนี้ด้วยการทำตัวเฟอะฟะเป็นตัวตลกที่โรงเรียน ครั้นขึ้นโรงเรียนมัธยมได้ย้ายไปอยู่ต่างเมือง เขายังคงเรียนเก่งเช่นเคยและทำตัวให้เป็นที่น่าหัวเราะเช่นเดิม จนกระทั่งวันหนึ่งถูกเพื่อนประหลาดคนหนึ่งจับได้

“จงใจ จงใจ” ทาเคอิจิ เด็กนักเรียนที่ด้อยทั้งหน้าตา การเรียน ร่างกาย และกีฬา ชี้หน้าเขาในวันหนึ่ง

ในขณะที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้ว่าใจของเขาคิดอะไร กลับเป็นเพื่อนหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งที่ดูออก หลังจากวันนั้นโยโซจึงตีสนิทกับทาเคอิจิแล้วชวนเขาไปที่บ้านดูรูปวาดของศิลปินต่างๆ ที่ชอบวาดภาพน่ากลัว เมื่อโยโซวาดภาพปีศาจน่าเกลียดขึ้นมาตนหนึ่ง

ทาเคอิจิดูแล้วก็ร้องออกมาว่าคือภาพของโยโซนั่นเอง

 

อ่านถึงตอนนี้ก็ได้ประเด็นหนึ่งที่น่าพูดคุยกัน ที่แท้คนที่เข้าสังคมไม่ได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เขาไม่มีความสามารถที่จะอดทนต่อการพูดจาปราศรัยที่ไม่จริงใจต่อกันของผู้คน อีกทั้งทนไม่ไหวต่อการที่ผู้คนมักแสดงพฤติกรรมกลบเกลื่อนตัวตนที่แท้จริงของตนเองเหมือนที่โยโซทำ

มองในแง่นี้ทาเคอิจิยังมีความจริงใจต่อตนเองมากกว่าที่โยโซเป็นเสียอีก ทาเคอิจิไม่พยายามฝืนร่างกายและจิตใจของตนเองเลยเขาจึงดูน่าเกลียดน่ากลัวได้เพียงนั้น ในขณะที่โยโซเองแม้ว่าจะคิดเหมือนทาเคอิจิ นั่นคือสังคมมนุษย์ช่างน่ารังเกียจ แต่เขาก็ยังกลบเกลื่อนความคิดของตนเองมิให้ผู้อื่นล่วงรู้

ครั้นมีคนล่วงรู้ขึ้นมาคนหนึ่ง ดูเหมือนเขาต้องหาทางกำจัด

เมื่ออ่านต่อไปจะพบว่า แม้โยโซและทาเคอิจิจะเป็นคนประเภทที่เรียกว่าจริงใจเป็นที่สุด แต่ทั้งสองคนก็ตกบ่วงความรักของอิสตรีคล้ายๆ กัน และสำหรับทาเคอิจินั้นบ่วงนี้ถึงตาย จึงว่าความลุ่มหลงในเพศรสไม่เคยเข้าใครออกใคร

 

จุนจิ อิโตะ ผู้วาดการ์ตูนเรื่องนี้ได้เก็บใจความสำคัญจากหนังสือขึ้นมาเขียนอย่างค่อนข้างครบถ้วนตั้งแต่เรื่องชาติกำเนิด ตระกูลโอบะ ความคิดคำนึง การศึกษา การกลบเกลื่อน ภาพวาด รวมทั้งทัศนคติที่มีต่อผู้หญิง

แต่ด้วยสื่อการ์ตูนทำให้ไม่สามารถลงรายละเอียดได้มากเท่าที่ปรากฏในหนังสือ

นอกจากนี้ จุนจิ อิโตะ ได้เขียนเพิ่มเติมขยายความเอาเองบางส่วนด้วย ดังที่จะกล่าวต่อไป

“จงใจ จงใจ” เป็นวิญญาณของทาเคอิจิที่ยังตามรังควานหลอกหลอนโยโซไม่สิ้นสุด คือตอนจบของบทที่ 2