ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ |
ผู้เขียน | หนุ่มเมืองจันท์ |
เผยแพร่ |
เพิ่งได้หนังสือ”เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม”วันนี้
เป็นหนังสือประวัติชีวิต”สุพจน์. ธีระวัฒนชัย” ผู้ก่อตั้งโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
ถ้าชีวิตของคนเหมือนนิยายเล่มหนึ่ง
ชีวิตของ”สุพจน์”ก็เป็นนิยายที่มีสีสันอย่างยิ่ง
เริ่มต้นจากทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก-ต่อสู้-อดทน-ประสบความสำเร็จ-ล้มเหลว-ซึมซับบทเรียน
และกลับมาสำเร็จอีกครั้งในวันนี้
เหมือน”จอมยุทธ์”ในนิยายกำลังภายใน
แต่เป็น”เรื่องจริง”ที่เรื่องราวเข้มข้นจนแทบไม่ต้องแต่งเติม
หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ชีวิตของเขาอย่างละเอียด.
“สุพจน์”เริ่มค้าขายตั้งแต่เด็ก
ตอนอายุ 13 ปี แม่ของเขาเปลี่ยนมาทำธุรกิจเสื้อยืด
พี่น้อง 5 คนช่วยผลิตเสื้อยืดตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม
เสื้อ-กางเกงที่ทำเสร็จแล้วก็ต้องนำมาแพ็กใส่ถุงให้เรียบร้อย
“สุพจน์”กับน้องชายมัดเสื้อรวมกันเป็นโหล.
กว่าจะเสร็จก็เที่ยงคืน
จากนั้นก็ยกผ้าที่กองอยู่หน้าบ้านเข้าบ้าน
ตอนเช้าก็ยกออกมา เพื่อใช้พื้นที่ในบ้านเย็บเสื้อผ้า
บ้านของเขามีห้องนอนห้องเดียว
แม่และพี่น้องทุกคนนอนในห้อง
ส่วน”สุพจน์”นอนบนกองผ้าชั้นล่าง
“สุพจน์”เคยเล่าให้ผมฟังว่าหลังเรียนจบคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เขาไปสมัครงาน
ใบสมัครงานให้กรอกว่ามีประสบการณ์การทำงานกี่ปี
เด็กจบใหม่ทุกคนต้องขีดเครื่องหมาย ” – ” หรือไม่กรอกข้อมูลเพราะจบใหม่จะมีประสบการณ์ทำงานได้อย่างไร
แต่”สุพจน์”กรอกไปว่า 12 ปี
ฝ่ายบุคคลถามว่าเพิ่งเรียนจบ. ทำไมบอกว่ามีประสบการณ์ 12 ปี
เขาก็ยืนยันไม่ได้โกหก.
เป็นเรื่องจริง
เพราะเขาทำงานหาเงินตั้งแต่ 10 ขวบ
“สุพจน์”เป็นคนที่คลั่งไคล้ในเรื่องธุรกิจร้านอาหารและการบริการอย่างยิ่ง
อ่าน”เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม”แล้วจะเข้าใจถึงความคลั่งไคล้ของเขาได้ชัดเจน
รู้ละเอียดทุกขั้นตอน
เขาพูดถึงอาหารแต่ละเมนูเหมือนกับเป็น”ลูก”
“ลูก”ที่เลี้ยงมากับ”มือ”
อย่างตอนหนึ่ง ผู้เขียนถามว่าอาหารเมนูไหนยากที่สุด
ลองทายสิครับว่าอะไร
“ปลาดุกฟู”ครับ
“กรรมวิธีมันยุ่งยากมาก”
ต้องนำปลาดุกไปย่างก่อน. จากนั้นนำเนื้อปลาไปยีละเอียด
คลุกเครื่องปรุงและตีเนื้อให้เข้ากัน
จับเป็นแพเพื่อลงทอดในน้ำมันร้อนๆ
ทอดต้องให้สะเด็ดน้ำมัน
ทอดรอบแรกให้สุก 70%
พอลูกค้าสั่งก็ต้องทอดอีกที
เขาเปรียบเทียบว่าถ้าผู้หญิงคนไหนแค้นผู้ชายคนหนึ่งแล้วลงโทษด้วยกรรมวิธี”ปลาดุกฟู”
มันจะโหดร้ายน่าดูเลย
ฆ่า แล้วนำไปย่างไฟ. ลอกหนังออก. เอาเนื้อมาสับให้ละเอียด
แล้วทอดอีกครั้ง
เป็นอารมณ์ขันของคนที่คลั่งไคล้เรื่อง”อาหาร”อย่างแท้จริง
ผมเคยสัมภาษณ์เขาหลายครั้ง
ทุกครั้งที่พูดถึง”อาหาร-ครัว-การบริการ”
นัยน์ตาเขาจะเป็นประกาย.
เล่าแบบเจาะลึกถึงรายละเอียดแบบคนรู้จริง-ทำจริง
สนุกสนานและละเอียดยิบ
ผมชอบเรียกเขาว่า”สุพจน์ ยิบ”
เลียนแบบ”สุทธิชัย หยุ่น”
ครั้งหนึ่งคุยกันหลังจาก”สุพจน์”กลับจากต่างประเทศ
เขาเล่าด้วยเสียงตื่นเต้น
บอกว่าครั้งนี้ไปคุ้มมากเพราะเจอของที่ตามหามานาน
อะไรรู้ไหมครับ
มีดหรืออุปกรณ์แกะหอยนางรมตัวใหญ่
แกะง่าย. เปลือกหอยไม่กระเด็น
ถ้าไม่หลงใหลหรือคลั่งไคล้จริงคิดแบบนี้ไม่ได้
ทุกครั้งที่นั่งคุยกันในโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
เขาจะมีสมาธิอยู่กับการสนทนาเป็นพักๆ
อย่าหวังว่าเขาจะคุยกับเรานาน
เพราะตาของ”สุพจน์”จะกวาดไปทั่วร้าน
เจออะไรไม่ถูกใจจะลุกขึ้นไปจัดการเองเลย
แล้วกลับมาคุยต่อ
ดังนั้น ผมไม่แปลกใจเลยที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงจะประสบความสำเร็จ
และรักษาความสำเร็จได้อย่างยาวนานถึง 20 ปี
เพราะคนที่ทำอะไรด้วยความหลงใหล
ยากที่จะล้มเหลว
เหตุที่ผมเขียนถึง”สุพจน์”ได้ละเอียด…ยิบ
เพราะ”สุพจน์”เป็นเพื่อนของผม
เรียนคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นเดียวกัน
ส่วน”พี่จอบ”วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์”ผู้เขียนเป็นรุ่นพี่ที่เคารพ
คุ้นเคยกันตั้งแต่ทำกิจกรรมนักศึกษา
“พี่จอบ”เป็นบรรณาธิการบริหารของนิตยสารคดีมายาวนาน
ฝีมือการเขียนเป็นอย่างไร
รางวัล”ศรีบูรพา”เป็นประกัน
เมื่อผสมผสานระหว่าง”เนื้อหา”ที่ดี”กับ”คนเขียน”ที่ดี
หนังสือเล่มนี้จึงน่าอ่านมาก
ในหนังสือมีคำนิยมของ”เฮีย”จากชุมนุมศิลปะและการแสดง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“วิโรจน์. ตั้งวาณิชย์”ผู้เชี่ยวชาญเรื่องวัฒนธรรมจีน
“สุพจน์”เป็นอดีตประธานชุมนุม. ที่ไม่มีความถนัดในเรื่องการแสดงอะไรเลย
แต่บริหารจัดการเก่งมาก
ดูแลพวกศิลปินเหล่านี้ได้อย่างดี
“เฮีย”เล่าถึง”สุพจน์”ในมุมของความเป็น”คน”
เป็นคนที่พี่ เพื่อน น้อง “วางใจ”และ”เกรงใจ”
ที่สำคัญ คือ”มีน้ำใจ”มาก
แต่”สุพจน์เป็นคนตระหนี่เรื่องใจ ไม่ยอมให้ใครง่ายๆ ให้ใจพวกเราแล้วก็ยึดพวกเราไว้ตลอดชีพ”
มีหลายเรื่องราวที่”เฮีย”เล่าแล้วทำให้ผมเข้าใจถึงวันที่”สุพจน์”ต้องระดมทุนในส่วนของเขา 20 ล้านบาทเพื่อลงทุนสร้างโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
“สุพจน์”เพิ่งปลดหนี้ได้แค่ 3 ปี
เขามีเงินในมือ 1 ล้าน. โอดี 3 ล้าน
ต้องหาเงินอีกประมาณ 16 ล้านบาทในปี 2542
หลังวิกฤต”ต้มยำกุ้ง” 2 ปี
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“สุพจน์”ทำบัญชีรายชื่อ”เพื่อน”ที่พอมีฐานะหยิบยืมเงินได้
เล่าให้เพื่อนฟังว่าจะเอาเงินไปทำอะไร
แล้วตบท้ายสั้นๆ
“ถ้าเชื่อกูก็เอาเงินมาให้กู ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องให้”
ไม่ให้ก็เข้าใจ. และไม่โกรธ
ครับ. วันนั้นมีเพื่อนให้เขายืมเงิน 16 ล้านบาท
เพราะรู้ว่าคนคนนี้เป็นคนแบบไหน
เรื่องราวของ”สุพจน์” คือ ตำนานความสำเร็จที่มีชีวิต
“ความสำเร็จ”ของโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงนั้นไม่ได้เกิดจากความสามารถในเชิงธุรกิจเพียงอย่างเดียว
และรวมถึงความเป็น”สุพจน์ ธีระวัฒนชัย”ด้วย
รายละเอียดเล็กๆรวมกันก็กลายเป็น”ความสำเร็จ”ที่ยิ่งใหญ่
เหมือนกับ”โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง”ในวันนี้
“เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม”จึงไม่ใช่หนังสือที่”ควรอ่าน”
แต่เป็นหนังสือที่”ต้องอ่าน”สำหรับคนที่ทำธุรกิจ
หรือต้องการ”แรงบันดาลใจ”ในวันที่หมดไฟฝัน
แนะนำครับ