บทวิเคราะห์ | ฝ่ายค้านล็อกเป้า “บิ๊กตู่” เข้าสภา เปิดฟลอร์ “ซักฟอก” ปมถวายสัตย์

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ไม่มีลาออกแน่นอน” เป็นคำตอบของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังถามเองตอบเองต่อหน้าคนบุรีรัมย์กว่า 2,000 คน ระหว่างนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก โครงการชลประทานบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ในการตรวจราชการ จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำ

เป็นคำตอบหลังจากที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน 7 พรรควาง “ทุ่นระเบิด” ไว้ตั้งแต่วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำ “เรือเหล็ก” ออกโดยสาร นับ 1 อย่างเป็นทางการ ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เมื่อวันที่ 25-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา

เป็นปมร้อนในสภาที่ 214 ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าชื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์นำ ครม.กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 จนอาจเป็นปัญหาเกี่ยวกับการเข้ารับหน้าที่ ส่งผลต่อเนื่องถึงความถูกต้องสมบูรณ์ของการแถลงนโยบายของ ครม.ต่อรัฐสภาด้วย

ประเด็นอันเป็นยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายค้านรุกใส่อย่างเป็นสเต็ป

“ยิ่งทุบ ยิ่งหวาน ยิ่งตี ยิ่งอร่อย” จึงนับเป็นสัญญาณความมั่นใจของ พล.อ.ประยุทธ์ เช่นเดียวกับที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ ที่เคยระบุว่า อาจดูด ส.ส.ฝ่ายค้านมาได้กว่า 30 คน จาก 250 คน ไม่รวม 3 เสียงประธานสภา รองประธานสภา ก็จะมีเสียงสูงถึง 280 ทีเดียว

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ต่อให้เป็นการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่น่าใช่ปัญหาใช่หรือไม่ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า กรณีถวายสัตย์ถือเป็นประเด็นที่หลอกหลอนไม่เพียงแต่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้นำกล่าวคำปฏิญาณตนเท่านั้น แต่ยังทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ต้องติดหางเลขถูกกระทุ้งให้ลาออกในข้อครหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์แถลงนโยบายจนจบ

แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะขอให้จบๆ กันไปเพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชน แม้จะเคยประกาศว่า “ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” เสมือนเป็นการยอมรับ

แต่จนถึงวันนี้ความพยายามในการรับผิดชอบก็ยังไม่เห็น หรือแม้แต่ความพยายามในการแก้ไขข้อผิดพลาดกรณีดังกล่าวจาก พล.อ.ประยุทธ์ ก็หาไม่มี

ไม่มี แม้กระทั่งจะส่งรัฐมนตรีคนไหนมาตอบกระทู้ถามสดในสภาที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ รอถามถึง 3 สัปดาห์

แม้จะมีข้อแม้จากทั้งนายปิยบุตร จากทั้งนายนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน หรือแม้แต่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ผู้อาวุโสจากพรรคประชาชาติ ที่ต่างยืนยันว่า พร้อมถอนญัตติให้ หากรัฐบาลแก้ไขให้ถูกต้อง

“พยายามถึงที่สุดแล้วในการใช้ช่องทางการตั้งกระทู้ เพราะเป็นวิธีการที่สะดวกที่สุด ทั้งรัฐบาลและ ส.ส.ในการชี้แจงในสภา หากชี้แจงเสร็จ เราจะได้แก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งขอเสนอว่า นายกฯ ควรใช้ช่องทางขอพระบรมราชานุญาตขอถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่ เมื่อได้รับโอกาสเมื่อไรเรื่องนี้จะได้จบโดยเร็วที่สุด เพราะหากศาลตัดสินว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ครม.ทั้งหลายจะเป็นโมฆะ และใช้ระยะเวลาแก้ปัญหาอย่างยาวนาน”

เป็นคำเตือนของนายปิยบุตรไปถึงคำร้องที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นคาไว้ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน และอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะส่งต่อไปให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองให้วินิจฉัยชี้ขาดหรือไม่

แต่คำตอบของ พล.อ.ประยุทธ์ ล่าสุดเมื่อถูกถามถึงการมาตอบกระทู้สดในสภาก็ยังเป็นเช่นเดิม ปรากฏภาพออกทะเล ติดภารกิจตรวจกำลังพลทางเรือที่ จ.ระยอง หนีกระทู้ถามสดเป็นครั้งที่ 3

หลังจากครั้งแรก ในวันพุธที่ 7 สิงหาคม ปรากฏภาพ พล.อ.ประยุทธ์ถูกหนามทุเรียนตำมือเลือดออกในระหว่างเยี่ยมชมการคัดทุเรียนที่ตลาดกลางยางพารา จ.ยะลา

หลังจากครั้งที่ 2 ในวันพุธที่ 14 สิงหาคม ปรากฏภาพ พล.อ.ประยุทธ์ไปหกล้มระหว่างเตะบอลในกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา ที่มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในบรมราชินูปถัมภ์

เมื่อสิ้นสุดเดดไลน์ 3 ครั้งก็ถึงคิวล็อกเป้า “บิ๊กตู่” เข้าสภาตามญัตติ ล่าสุด “ครูแก้ว” นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ในฐานะที่รับผิดชอบกระทู้และญัตติ บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมแล้ว หลังจากตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้อง

แม้การยื่นญัตติของ 214 ส.ส.ฝ่ายค้าน จะถูกปรามาสจากสื่อบางสำนัก เปรียบเสมือนเป็นการ “ซักฟอกลม” ต่อยไปก็ไร้ผล

แต่เบื้องต้น ฝ่ายค้านขอเวลา 2 วันใช้ 15 ส.ส.อภิปรายเชือด เปิดฟลอร์กลางสภา อย่างน้อยๆ เปิดแผลไว้สั่นคลอนรัฐบาลได้ต่อ

ยิ่งมีช็อตแบบ “ตัดพี่ตัดน้องในสภา” เหมือนในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลก็ถือว่าคุ้ม

เป็นไปตามยุทธศาสตร์ 2 ขาคู่ขนาน ขาหนึ่ง ในสภาผู้แทนราษฎร และอีกขาหนึ่งทำงานร่วมกับภาคประชาชน แสวงหาแนวร่วมเดินหน้ารื้อทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ด้านวิปรัฐบาลอ่านเกมออก จัดเตรียม ส.ส.ไว้คอยอารักขา ขณะที่ซีกรัฐบาลโดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ การันตี พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีปัญหา ฝ่ายค้านยื่นมาก็ต้องไปตอบ พร้อมเสนอแนะความเห็นให้นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ เรียบร้อย ประกอบกับมุมมองอื่นๆ อีกเพียบ

ยืนยันส่งคำชี้แจงถึงผู้ตรวจการแผ่นดินตามกรอบเวลาทันก่อนเข้าสู่ที่ประชุมผู้ตรวจฯ ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ น่าจะรู้หัวรู้ก้อย

แต่เฉพาะเกมในสภาเรื่องการถวายสัตย์ จะเข้มข้นแค่ไหน เดือนกันยายนรู้ผลแน่