มาดามหลูหลี / Parasite : ปรสิต ชนชั้นล่าง

มาดามหลูหลี[email protected]

บงจุนโฮผู้กำกับฯ ภาพยนตร์ฝีมือเยี่ยมของเกาหลี ที่มีรางวัลมากมายเป็นการการันตี

ภาพยนตร์แต่ละเรื่องของเขา มักบอกเล่าเรื่องราวที่มีเอกลักษณ์เด่นชัด สะท้อนบุคลิก ตัวตน และมุมมองของบงจุนโฮ

แก่นเรื่องของหนังทำให้ผู้ชมทั้งหวาดหวั่น ตกตะลึง สะพรึงกลัว และเศร้าใจจนแทบหายใจไม่ออก จากผลงาน The Host (2006), Snow Piercer (2012), Okja (2017)

สำหรับปี 2019 นี้เรื่อง Parasite ของบงจุนโฮที่กำกับการแสดงและเขียนบทเอง และได้รับรางวัล World Premiere “Plame D”or” จากงาน Cannes Film Festival 2019

Parasite เรื่องราวของสองครอบครัวที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

ครอบครัวของกีแทก (ซงคังโฮ ดาราคู่บุญของบงจุนโฮ) กับภรรยาชุงซุก (จางฮเยจิน) มีลูกชายกีอู (ชเวอูซิก) และลูกสาวกียอง (ปาร์กโซดัม) เป็นคนยากจนยิ่งกว่าคนหาเช้ากินค่ำ อาศัยอยู่ในบ้านเช่าชั้นใต้ดิน ที่มักมีคนเมามายืนฉี่หน้าบ้าน

ทุกคนไม่มีงานทำ อาศัยการพับกล่องกระดาษพิซซ่าให้ร้านพิซซ่า

ส่วนครอบครัวร่ำรวยของคุณปาร์ก (อีซอนคยอน พระเอกจากซี่รี่ส์ “Pasta”) และคุณนายยอนคโย (โชยอนจอง) ซึ่งมินคยอก (พระเอกปาร์กซอจุน มาปรากฏตัวแค่ฉากเดียว) เพื่อนของกีอูแนะนำให้เขารู้จักครอบครัวนี้ เพื่อสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้ทาฮเย (จองจีซู) ลูกสาวที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย

บ้านอันใหญ่โตสวยหรูของครอบครัวปาร์ก ซึ่งสร้างโดยสถาปนิกผู้มีชื่อเสียง มูนกวาง (อีจองอึน) แม่บ้านเก่าของสถาปนิกยังคงอยู่กับคุณนายยอนคโย เป็นแม่บ้านที่รู้จักทุกตารางนิ้วในบ้านนี้ดีกว่าเจ้านายเสียอีก

คุณนายพอใจการสอนของกีอู และทาฮเยก็ชอบกีอูแบบเด็กสาวหลงรักชายหนุ่ม ทำให้กีอูได้โอกาสสร้างความไว้วางใจและเริ่มวางแผนให้กียองน้องสาวมาสอนทาซง (จองฮยอนจอน) ลูกชายคนเล็กของคุณปาร์ก ซึ่งชอบงานศิลปะและเหมือนเด็กไม่นิ่ง

กีอูและกียองสองพี่น้องที่ไม่มีโอกาสแม้แต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย หากสร้างประวัติการศึกษาและการทำงานจนเริ่ดหรูราวกับจบจากต่างประเทศ ให้คุณนายปาร์กไฮโซได้เชื่อถือ

จากนั้นยังวางแผนให้พ่อและแม่ได้เข้าทำงานให้ครอบครัวปาร์ก พ่อได้เป็นคนขับรถ ส่วนแม่มาเป็นแม่บ้าน โดยได้กำจัดแม่บ้านคนเก่าให้ถูกไล่ออกจากบ้าน

ครอบครัวของกีแทกที่มาอาศัยทำงานอยู่ในบ้านของคุณปาร์ก ทั้งที่เป็นการเข้ามาทำงานเพื่อแลกกับเงินเดือน หากวิธีการที่ใช้กลับดูเหมือนปรสิตที่เข้ามาเกาะกินครอบครัวของคุณปาร์ก

แม้ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนจะดีขึ้น แต่ความเป็นจริงคนทั้งสี่ต่างรู้ดีว่า สิ่งที่ได้รับนี้มันเป็นของชั่วคราว เป็นสิ่งที่ได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่

ในค่ำคืนที่ฝนตกหนัก ครอบครัวคุณปาร์กฉลองวันเกิดทาซงด้วยการออกไปแคมปิ้งที่ต่างเมือง เปิดโอกาสให้กีแทกและครอบครัวฉกฉวยเวลาดื่มด่ำกับชีวิตเพียงชั่วคราว

จู่ๆ แม่บ้านคนเก่าได้มาปรากฏตัว ขอเข้าบ้านเพื่อนำของที่ลืมไว้ จากนั้นเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนสายฝนที่ตกกระหน่ำอย่างไม่หยุดยั้ง จนหัวใจของครอบครัวกีแทกทุกคนหนักอึ้ง…

Parasite ภาพยนตร์ที่ดำเนินเรื่องอย่างคาดเดาไม่ถูก ช่วงเวลาที่ผ่านไปของเรื่องราวทำให้คนดูหัวใจหนักอึ้งจนแทบหายใจไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเอาใจช่วยใครดี หรือให้สถานการณ์เป็นไปในทิศทางไหน

ความแตกต่างทางชนชั้นในสังคมยังมีอยู่มากมายทุกๆ ประเทศ เป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไข แทบไม่น่าเชื่อว่า สภาพห้องเช่าหรือ “บ้าน” ของครอบครัวกีแทกจะเรียกว่าบ้านได้ แค่เปิดประตูบ้านก็ถึงที่นอนและครัว กับห้องน้ำที่มีสภาพนาหดหู่มาก

สภาพห้องใต้ดินที่พร้อมจะถูกน้ำท่วมเมื่อฝนตกหนัก และกลิ่นชื้นของชั้นใต้ดินที่ติดตัวทุกคนในบ้าน เป็นกลิ่นความชื้นที่แม้แต่เด็กชายเล็กๆ อย่างทาซงยังสัมผัสได้ ทั้งยังเป็นกลิ่นที่คุณปาร์กรู้สึกรังเกียจ เหมือนกลิ่นเหม็นๆ ของคนจนอันเป็นกลิ่นเฉพาะตัว

ส่วนบ้านไฮโซของคุณปาร์กที่ใหญ่โตหรูหรากว้างขวาง หนังทำให้เห็นว่าระยะทางเดินจากห้องรับแขกในตัวบ้านถึงประตูบ้านนั้นยาวไกลแค่ไหน ด้วยบทเจรจาที่คุณนายปาร์กพูดคุยกับกีอูหรือกียองเมื่อเดินถึงหน้าบ้าน เรื่องราวยืดยาวที่คุยกันจบก่อน

“ก้อนหิน” ที่มินคยอกมอบให้กีอู ดูเหมือนวัตถุโบราณซึ่งควรเอาไว้ประดับบ้าน ก็ดูไม่เหมาะกับบ้านอันซอมซ่อของกีอู และในที่สุดกีอูได้ตัดสินใจยกหินก้อนนี้ออกจากบ้าน เพื่อใช้กระทำการบางอย่าง

แต่กลับกลายเป็นว่าก้อนหินนั้นได้ทุ่มลงที่ตัวเอง

Parasite ภาพยนตร์สะท้อนเรื่องราวสังคม

สมแล้วที่เป็นหนังระดับปรมาจารย์อย่างบงจุนโฮ ดูแล้วนึกถึงหนังญี่ปุ่นเรื่อง Shoplifters

ถ้าคนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยกำลังความรู้ของตัวเอง คงไม่มีใครอยากเป็นปรสิตหรือเหลือบทากที่เกาะกินดูดเลือดคนเพื่อมีชีวิต!!!