ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 สิงหาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | จดหมาย |
เผยแพร่ |
จดหมาย
0 ตัดงบฯ คนป่วย?-อัดฉีด ศก.
กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ และเครือข่ายผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
ได้เข้าร่วมพิธีเปิดเวทีรับฟังความเห็นทั่วไปจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ยืนยันชัดเจน
ในสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรี
จะไม่มีการล้มระบบ
และไม่มีการร่วมจ่ายในระบบแน่นอน
แต่ยังไม่ทันจะข้ามวัน
ทราบข่าวว่า รัฐบาลกำลังมีปัญหาเรื่องงบประมาณ
โดยสำนักงบประมาณเสนอตัดงบประมาณที่ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดที่แล้วลง
ประกอบด้วย ตัดงบฯ นอกเหมาจ่ายรายหัว หรืองบฯ กองทุนเฉพาะโรค
เช่น ค่าบริการผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ โรคไต และเอดส์
โดยสำนักงบประมาณจะให้ตัดงบฯ ลงกว่า 650 ล้านบาท
ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการเข้าถึงยาและการรักษาของกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังแน่นอน
ในขณะที่รัฐบาลชุดนี้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยการแจกเงินให้คนไปเที่ยวคนละ 1,500 บาท กว่า 15,000 ล้านบาท
และใช้งบฯ กระตุ้นเศรษฐกิจไปกว่า 200,000 ล้านบาท
แม้ว่าจะเป็นมติ ครม.ชุดที่แล้ว และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งเป็นทั้งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่รู้ว่ารู้เรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม
แต่การตัดงบประมาณในกองทุนเฉพาะโรคแบบนี้
จะส่งผลอย่างมากต่อผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
ขณะที่ประเทศนี้กำลังรีดเอาเงินที่จำเป็นไปใช้จ่ายในส่วนอื่นที่ไม่จำเป็น เช่น แจกเงินให้เที่ยว เป็นต้น
งบประมาณที่ถูกตัดลดลง ส่งผลไปถึงค่าบริการผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่ สปสช.ต้องรับผิดชอบคนไทยทุกคนทุกสิทธิ กลับถูกตัดลดลงกว่า 650 ล้านบาท
ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วย โดยเฉพาะในสังคมที่มีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นและจำเป็นต้องได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
แต่รัฐบาลนี้กำลังจะทิ้งคนแก่เหล่านี้ไว้ข้างหลัง
ทั้งนี้ นางยุพดี ศิริสินสุข กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระบุว่า
“งบฯ กองทุนเฉพาะเป็นงบประมาณสำคัญเพราะเป็นงบฯ ที่ดูแลกลุ่มประชาชนที่เปราะบางที่สุด ซึ่งรัฐบาลที่แล้วมีการเจรจาร่วมกันระหว่าง อดีตรัฐมนตรี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร สำนักงบประมาณ และ สปสช. เดิมมีการตกลงต่อรองของบฯ ก้อนนี้รวมทั้งหมด 16,800 กว่าล้านบาท แต่กลับถูกตัดงบฯ ไปกว่า 680 ล้านบาท ซึ่งกรรมก็มาตกกับผู้ป่วย”
เช่นเดียวกับนายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลชุดที่แล้วก็ไม่ต่างจากรัฐบาลชุดนี้ เพราะผู้นำก็คนเดียวกัน
ยิ่งเห็นตัวเลขงบประมาณที่รัฐบาลชุดนี้ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยิ่งสะท้อนสะท้านใจ
เพราะงบฯ ที่รัฐเอาไปแจก เอาไปกระตุ้น ล้วนเป็นไปตามที่นโยบายพรรคการเมืองหาเสียงไว้ แต่กลับมารีดเงินเอากับผู้ป่วย
อย่างกรณีผู้ติดเชื้อเอชไอวี มีคนต้องรับยากว่า 300,000 คน และเริ่มมารักษาใหม่ปีละกว่า 30,000 คน
หากงบฯ ลดลง คนเหล่านี้จะถูกตัดโอกาสในการมีชีวิตต่อ
ส่วนตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยโรคไต นายธนพลธ์ ดอกแก้ว ระบุว่า เพิ่งเห็นว่างบฯ กองทุนไตถูกตัดไปกว่า 300 ล้านบาท
ในขณะที่ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีความจำเป็นที่ต้องฟอกไตต่อเนื่อง และขณะนี้พบว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
แต่ขณะที่สิทธิประโยชน์ที่จะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เช่น เครื่องฟอกไตที่บ้าน หรือยากดภูมิสำหรับผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ รวมไปถึงค่าบริการการทำเส้นเลือดเพื่อเตรียมล้างไต หรือผู้ป่วยไตที่มีโรคร่วม ซึ่ง สปสช.อยู่ระหว่างพิจารณา
ถ้าถูกตัดงบประมาณ โอกาสที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่ว่าอาจจะหายไป
ทั้งนี้ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพจะมีการขอเข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขในวันที่ 5 กันยายน 2562 เวลา 10.00 น.
ซึ่งเราก็หวังว่าจะได้รับข่าวดีก่อนจะถึงวันนั้น
เครือข่ายผู้ป่วยเรื้อรัง
เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย
เครือข่ายผู้ป่วยโรคไต
กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ
อีเมลนี้เข้าใจว่าเผยแพร่
ในลักษณะ “อีเมลสาธารณะ”
แต่ “มติชนสุดสัปดาห์”
ก็อยากร่วมเผยแพร่ด้วย
แม้ดูจะเป็นการพยายามปกป้องงบฯ ของ “บางกลุ่ม”
แต่ก็เป็นกลุ่มคนป่วยที่ควรได้รับการดูแลพิเศษ
และยังเป็นปมที่ถูกนำไปเปรียบกับงบฯ อัดฉีดเศรษฐกิจ
ที่วนเวียนอยู่ใน “สิ่งเดิมๆ”
ไม่มีอะไรใหม่
จึงชวนให้ถกแถลง และวิพากษ์วิจารณ์กรณีนี้ยิ่ง