รู้จักทีมงาน “มือพระกาฬ” ชุดสืบสวนระเบิดป่วนกรุง รวมดาว “นักสืบ” แถวหน้า

ถึงตอนนี้สื่อมวลชนไทยและเทศต่างพากันตั้งคำถาม ใครคือ “มาสเตอร์มายด์”? คนร้ายลอบวางระเบิดรอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องจังหวัดนนทบุรี และวางเพลิงไหม้อีก 5 จุดในตลาดย่านประตูน้ำและศูนย์การค้าย่านสยามสแควร์ ระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคม รวมระเบิดทั้งหมด 17 ลูก

ภายหลังมือวางระเบิดป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผ่านไปเฉียด 10 ชั่วโมง

ก็จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ที่แยกปฐมพร อ.เมือง จ.ชุมพร

งานนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา “บิ๊กแป๊ะ” ผบ.ตร. ลงพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) จังหวัดยะลา

สอบสวนนายลูไอ แซแง อายุ 22 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาสด้วยตนเองถึง 2 รอบ

และยังมี “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.36 “บิ๊กแหมว” พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 นรต.36 “บิ๊กบัว” พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. นรต.36 “บิ๊กทิน” พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. นรต.37

รวมทั้งนักสืบก้นกุฏิ “บิ๊กแป๊ะ” ที่ร่วมตั้งวอร์รูมทำงานที่ ศปก.ตร.สน. อย่าง “บิ๊กแมน” พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. นรต.43 และ “รองนพ” พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. นรต.46

พร้อมผนึกทีมเพื่อนรัก นักสืบพระกาฬ “บิ๊กใหม่” พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กช้าง” พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. เป็นส่วนบังคับบัญชา อำนวยความยุติธรรม ควบคุม กำกับดูแล และกำหนดแนวทางการสืบสวนสอบสวน ให้ครอบคลุมครบถ้วน และตรวจสอบ เร่งรัด พนักงานสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบให้รีบดำเนินการสืบสวนสอบสวนแสวงหาพยานหลักฐาน

นอกจากนี้ ยังระดมนักสืบฝีมือดีร่วมคลี่คลายคดี ทั้ง “บิ๊กอุ้ย” พล.ต.ท.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผบช.สพฐ.นรต.35 “จเรใหม่” พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ นรต.36 “บิ๊กแซ็ค” พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 นรต.38 “บิ๊กโตโต้ ” พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8 นรต.36 “บิ๊กโต้ง” พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค. นรต.37 “บิ๊กบิ๊ก” พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวงทรง ผบช.ยศ.ตร. นรต.39 “บิ๊กเอ็ดดี้” พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผบช.ส. นรต.40 และ พล.ต.ต.มนัส ศึกษมัด ผบก.กองคดีอาญา สำนักงาน กมค. นรต.37 เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน

โดยทั้งหมดตั้งทีมวอร์รูมทำงานที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) ถนนศรีอยุธยา เขตพญาไท กทม.

เหล่าสีกากีเรียกทีมเพื่อน-พี่-น้อง “บิ๊กแป๊ะ” ว่า “ดรีมทีม” เพราะรวมนักสืบมืออาชีพ

แต่ละคนจัดว่าโปรไฟล์ไม่ธรรมดา ไล่เรียงจากผู้นำหัวขบวน “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผลงานการันตีมากมาย อาทิ เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2543 เคยสวมบทมือปราบเป็นนักเจรจาเกลี้ยกล่อมคนร้าย เหตุจับตัวประกันเรือนจำสมุทรสาคร

ปี 2557 ขณะเป็นรอง ผบ.ตร. ปิดคดีสังหาร 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่หาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี

ต่อมาในปี 2558 เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก ไล่ล่าคนร้ายวางระเบิดเขย่าประเทศได้สำเร็จในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ต่อมาลงพื้นที่คลี่คลายคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ นายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อ 10 กรกฎาคม 2560 จนจับกุม “บังฟัต” กับพวกรวม 9 ราย

ในปีเดียวกัน จับกุมนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า กฟผ. ก่อเหตุวางระเบิด 3 จุดต่อเนื่องที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ หน้าโรงละครแห่งชาติ และหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (เก่า) ถนนราชดำเนิน

รายต่อมา พล.ต.อ.สุชาติเคยจับกุมนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ผู้บงการฆ่า น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย อายุ 20 ปี กับนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส อายุ 21 ปี หน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 และฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ศพดส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบปรามการค้ามนุษย์ นโยบายสำคัญของรัฐบาล

พล.ต.อ.ชัยวัฒน์คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงสืบสวน เคยคลี่คลายคดีดัง อาทิ จับผู้ต้องหาร่วมกันใช้จ้างวานฆ่านายประมาณ ชันซื่อ อดีตประธานศาลฎีกา คดีฆ่านางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคไทยรักไทย คดีคาร์บอมบ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (สมัยนั้น) บริเวณแยกบางพลัด คดีฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บัติ ที่กระบี่ และนายวัฒนา วางระเบิดต่อเนื่อง 3 จุด

พล.ต.ท.สุวัฒน์ร่วมคดีคลี่คลายหลายคดี อาทิ ฆ่า 2 นักท่องเที่ยวเกาะเต่า คดีแก๊งปลอมพาสปอร์ตฆ่าหั่นศพชายเชื้อชาติฮังการี สัญชาติอเมริกัน นำศพแช่แข็งตู้แช่ คดีชายสัญชาติสเปนฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติ ก่อนแยกชิ้นส่วนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งจับกุม ร.ต.ท.วัชรินทร์ รักประทุม รอง สว.สอบสวน ช่วยงานสืบสวน ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ท.วีรากร ไวยวุฒิ รอง ผกก.ป.สน.บางยี่ขัน นอกจากนี้ “เดอะปั๊ด” ยังเป็นหนึ่งในทีมคลี่คลายคดีระเบิดต่อเนื่องกัน 3 จุด และคดีความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ อยู่ทั้งนครบาล กองปราบฯ ภูธร สตม. มีผลงานคดีร่วมทีม “บิ๊กแป๊ะ” คลี่คลายคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ “ผู้ใหญ่บัติ” จนจับกุม “บังฟัต” คดีฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ฆ่าชิงทรัพย์เด็กเสิร์ฟในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แก๊งลักตู้เซฟ ญาติอดีต ส.ส. ขนทรัพย์ 20 ล้านฝังดิน สน.บางมด

คนต่อมา พล.ต.ท.รณศิลป์ ผลงานโดดเด่น อาทิ คดีปล้นทรัพย์บ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2554 คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.เจนจิรา พลอยองุ่นศรี นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5 มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2541 คดีระเบิดบริเวณจุดทิ้งขยะหน้าปากซอยรามคำแหง 43/1 ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2556 และคดีความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

พล.ต.ท.สุทินจับกุมนายณัฐพล นรการ อายุ 29 ปี หนุ่มนักตุ๋น “อายุน้อยร้อยล้าน” จับผู้จ้างวานและมือปืนยิงนายช่างโยธา อบต.คลองน้อย จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิต จับกุมหนุ่มเมืองกาญจน์ก่อเหตุฉุดสาวนักศึกษาพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย เป็นต้น

“บิ๊กแมน” ดาวรุ่งพุ่งแรง คดีวิสามัญฆาตกรรมแก๊งลักรถเซฟิโร่ 2 ศพ หลังสถานีรถไฟสามเสน วิสามัญฆาตกรรม “คาร์ล สตอปเบิร์ก” โจรตัวเอ้ ที่จังหวัดชลบุรี พิชิตคดียิงเสี่ยกาแฟ ท้องที่ สน.วัดพระยาไกร แก๊งวัยรุ่นที่รุมทำร้ายบรูซ แกสตัน ชิงไอโฟน และรวบจ่าแมน ตร.เก๊ อ้างเป็นคนสนิท “บิ๊กแป๊ะ” รับเงินวิ่งเต้นโยกย้ายตำแหน่ง ระเบิดพื้นที่ อ.สมุย จ.สุราษฎร์ธานี

และคดีฆ่ายกครัว 8 ศพผู้ใหญ่บัติ เป็นต้น

และสุดท้ายรุ่นน้อง นักสืบฝีมือดี นรต.46 พ.ต.อ.นพศิลป์ จัดวางเป็นมือสืบสวนอันดับต้นๆ ของนครบาล อาทิ แกะรอยจับกุมนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า คดีวางระเบิดต่อเนื่อง 3 จุดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ หน้ากองสลาก (เก่า) และโรงละครแห่งชาติ

จับ “บังฟัต” คดีฆ่ายกครัวที่กระบี่ คดียิงนักศึกษาต่างสถาบันในพื้นที่นครบาล

คดีอุ้มฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง หรือหญิง สาวทอมบอยไปฆ่าฝังดินใน จ.กาญจนบุรี เมื่อต้นปี 2560 มีอดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เป็นผู้จ้างวาน

และวิสามัญทักษ์ดนัย หรือกอล์ฟ เหนี่ยวรั้งใจ หัวโจกควงปืนชิงเงิน 7.2 ล้านบาทจากรถขนเงินบริษัท บริงค์ส จำกัด

ทั้งหมด รวมดาวนักสืบแถวหน้าระดับประเทศเลยทีเดียว แต่ผลงานจะสาวถึง “มาสเตอร์มายด์” หรือไม่ ต้องเกาะติดข่าวกันต่อไป