ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 มกราคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
แม้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และทีมเศรษฐกิจจะลงแรงใส่ความคิดเพื่อจะกอบกู้เศรษฐกิจไทยให้พ้นจากปากเหว
แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ค่อยเป็นใจมากนัก
ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ที่ภาคใต้ที่จะทำให้เศรษฐกิจของภาคใต้สะดุดครั้งใหญ่
แทนที่จะวิ่งไปข้างหน้าก็ต้องหยุดผูกเชือกรองเท้าอีกนานพอสมควร
ก่อนหน้านี้รัฐบาลเริ่มมีความหวังจาก “ยางพารา” ที่ราคาขยับสูงขึ้นมาเรื่อยๆ
ชาวสวนยางกำลังจะยิ้มแย้มแจ่มใส
พอมาเจอน้ำท่วมใหญ่เข้าไปเลยสะดุดหัวทิ่มไปเลย
เพราะต้องใช้เวลาฟื้นฟูต้นยางอีกนานพอสมควรกว่าจะเริ่มกรีดยางได้
เมืองไทยมีอยู่ 5 ภาค คือ เหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก และใต้
เจอน้ำท่วมใหญ่ไป 1 ภาค
หรือ 1 ใน 5
ทีมเศรษฐกิจแทบกุมขมับ
นอกจากนั้นแล้วธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ถือเป็น “ต้นทาง” ของ “โดมิโน” ทางเศรษฐกิจ
เพราะทุกครั้งที่เศรษฐกิจไทยมีปัญหา
“อสังหาริมทรัพย์” จะส่งสัญญาณก่อน
ล่าสุด บ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของบริษัทใหญ่เล็กกำลังเจอปัญหาธนาคารพาณิชย์ไม่ยอมปล่อยกู้ให้คนซื้อบ้าน
อัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 20% เป็นอย่างต่ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านหรือคอนโดฯ ราคา 1-3 ล้านบาท
เพราะแบงก์กลัวเรื่องหนี้เสียหรือ NPL ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่สำคัญตอนนี้เกิดปรากฏการณ์ลูกบ้านที่ผ่อนมาแล้ว 4-5 ปีกลายมาเป็น NPL
พอแบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อให้ผู้ซื้อ เจ้าของโครงการก็มีปัญหา
ตามปกติเจ้าของโครงการจะตกลงกับแบงก์ที่ปล่อยสินเชื่อให้ว่าถ้ายอดขายได้เท่าไรจึงจะปล่อยเงินงวดใหม่ให้
พอยอดไม่ได้ตามเป้า แบงก์ก็ไม่ปล่อยเงินก้อนใหม่ให้
สัญญาณควันแบบนี้กำลังเริ่มให้เห็นแล้ว
อีกเรื่องหนึ่งที่น่ากลัว คือ เรื่องการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงินหรือบี/อี
“ตั๋วแลกเงิน” เป็นตราสารการเงินรูปแบบหนึ่งที่บริษัทต่างๆ ใช้ระดมทุนจากนักลงทุนทั่วไป
จ่ายดอกเบี้ยให้สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์
นักลงทุนก็ชอบ เพราะผลตอบแทนดีกว่าฝากเงินไว้กับแบงก์
บริษัทต่างๆ ก็ชอบ เพราะดอกเบี้ยต่ำกว่ากู้แบงก์
ตอนเศรษฐกิจยังพอไปได้ ตั๋วบี/อี ไม่มีปัญหา ครบกำหนดเมื่อไรก็จ่าย
แต่วันนี้หลายบริษัทเริ่มผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี
ตัวเลขไม่เยอะมาก แต่ผลทางจิตวิทยาสูงมาก
เพราะทำให้นักลงทุนเริ่มคิดเยอะในการที่จะซื้อตั๋วบี/อี
หรือแม้แต่หุ้นกู้ก็เจอผลกระทบด้วยเช่นกัน
ความไม่มั่นใจทำให้ช่องทางการระดมทุนด้วยบี/อีหรือหุ้นกู้ที่เคยสดใสตีบตันลง
พอนักลงทุนลังเล บริษัทต่างๆ ก็ต้องจูงใจด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น
ต้นทุนการเงินของบริษัทต่างๆ จึงเพิ่มขึ้น
สงสาร “สมคิด” จริงๆ