ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 9 - 15 สิงหาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | สิ่งแวดล้อม |
ผู้เขียน | ทวีศักดิ์ บุตรตัน |
เผยแพร่ |
อุบัติเหตุรถยนต์ชนจักรยานหน้าเทศบาลตำบลสันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ทำให้ว่าที่ ร.ต.สุรพล ตาสิงห์ นักปั่นสองล้อเสียชีวิต
เป็นอีกเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดของคนรักการปั่นจักรยาน
ว่าที่ ร.ต.สุรพล เคยรอดชีวิตจากเหตุการณ์นักศึกษาเมาแล้วขับรถชนมาเมื่อ 4 ปีก่อน
ในครั้งนั้นเพื่อนนักปั่นร่วมก๊วนเสียชีวิต 3 คน
มีผู้บาดเจ็บ 2 คน 1 ในนั้นคือว่าที่ ร.ต.สุรพล
เมื่อรักษาจนหายดีแล้ว ว่าที่ ร.ต.สุรพลกลับมาปั่นจักรยานอีกแล้วก็เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
คนขับรถยนต์พุ่งชนว่าที่ ร.ต.สุรพล เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตรวจวัดพบมีระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่ากฎหมายกำหนด
คุณวาสนา ตาสิงห์ ผู้เป็นภรรยา บอกว่า สามีชื่นชอบและรักการปั่นจักรยานมากเป็นชีวิตจิตใจ เห็นได้จากภาพถ่ายทุกภาพที่ปั่นจักรยานจะมีแต่รอยยิ้ม และออกจากบ้านไปปั่นจักรยานออกกำลังกายทุกวัน วันละเกือบร้อยกิโลเมตร
“อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับสามีเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ ได้แล้ว แต่อยากฝากเตือนทั้งคนขับรถและคนปั่นจักรยานให้ระมัดระวัง ไม่ประมาท เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก” คุณวาสนาบอกผ่านสื่อ
ในฐานะคนปั่นจักรยานขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว “ตาสิงห์” ด้วย
นักปั่นบ้านเรามีโอกาสเสี่ยงอันตรายสูงมากในการขี่จักรยานบนท้องถนน
หลายๆ ครั้งที่นักปั่นจักรยานเจอรถเก๋ง รถเมล์ รถบรรทุกขับเบียด หรือบีบแตรไล่ให้พ้นทาง
ไม่ว่าจะเป็นเพราะคนขับรถยนต์ไร้วินัย ไม่เคารพกฎจราจร หรือมีอคติกับคนปั่นจักรยาน
แต่สะท้อนให้เห็นว่านักปั่นจักรยานมีความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทุกครั้งที่ปั่นบนถนนในเมืองไทย
วันนี้ทั่วโลกต่างยอมรับว่าจักรยานคือพาหนะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทำให้โลกน่าอยู่
จักรยานมีราคาถูกกว่ารถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ไม่ต้องเติมน้ำมันให้สิ้นเปลืองทรัพยากร
ไม่ปล่อยควันพิษให้เป็นอันตรายกับผู้คน
การปั่นจักรยานช่วยให้สุขภาพจิตดี สุขภาพร่างกายแข็งแรง
ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ช่วยชาติประหยัด
รัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลกจึงสนับสนุนการสร้างทางจักรยาน เชิญชวนให้คนปั่นจักรยานมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
บางประเทศนั้นนอกจากมีไบก์เลนกว้างขวางเชื่อมโยงในทุกจุดตั้งแต่หมู่บ้าน ชุมชน สถานีรถไฟ รถบัส สนามบิน ท่าเรือ โรงเรียน ศูนย์การค้า ที่ทำการรัฐบาล ฯลฯ หากยังมีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายให้กับนักปั่นในทุกรูปแบบ
บางประเทศสร้างอาคารที่จอดรถจักรยาน มีห้องอาบน้ำสาธารณะ ไฟสัญญาณสำหรับจักรยาน ที่แขวนและล็อกจักรยาน
รถบัสโดยสารก็มีที่แขวนจักรยาน รถไฟบนดินหรือใต้ดินก็มีโบกี้ให้นักจักรยานโดยเฉพาะ
เมื่ออยู่บนถนน คนขับขี่รถยนต์ทั่วโลกล้วนให้เกียรติและเคารพในสิทธินักปั่นสองล้อ
เมื่อเห็นจักรยานอยู่ข้างหน้า จะชะลอรถเว้นระยะห่าง หรือลดความเร็วและขอแซงผ่านอย่างช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง
ผิดแผกแตกต่างกับคนขับรถยนต์ของบ้านเราที่เห็นคนปั่นเป็นเหมือนเหยื่ออันโอชะ
นี่เป็นเรื่องน่าคิดว่าการรักษาระเบียบวินัยหรือการเคารพกฎจราจรล้มเหลว เพราะอะไร
อุบัติเหตุบนท้องถนนประเทศไทยติดอันดับต้นๆ ของโลก
บางปีนั้นเคยไต่ระดับเป็นที่ 2 ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่น่ายินดีเลย
เพราะมีทั้งการสูญเสีย การบาดเจ็บล้มตาย ปีละเป็นหมื่นคน
อุบัติเหตุเกิดบนถนนของไทยเป็นรายชั่วโมง ในรอบวันมีผู้เสียชีวิตหลายสิบ เจ็บเป็นพันคน
สำหรับผมมั่นใจว่าการเกิดอุบัติเหตุในบ้านเรานั้น สาเหตุสำคัญคือการไม่เคารพกฎจราจร
คนขับรถหรือขี่จักรยานไม่ผ่านการเรียนรู้กฎจราจร หรือรู้แล้วแต่ไม่รักษาระเบียบวินัย
เรื่องที่ดูเหมือนจะเล็กๆ เช่น การจอดรถในพื้นที่ห้ามจอด แต่มีคนจำนวนไม่น้อยฝ่าฝืนจอดหน้าตาเฉย ทั้งที่รู้เหตุผลว่าทำไมต้องกำหนดให้เป็นพื้นที่ห้ามจอดเพราะเบียดบังเส้นทางทำให้ทางแคบลงเกิดอันตรายกับรถคันอื่นๆ
ผมปั่นจักรยานบนถนนกรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้าบ่อยครั้ง เพราะถนนเพิ่งก่อสร้าง ทางโล่งกว้าง มีเลนจักรยานให้ด้วย
บริเวณเลนถนนติดกับขอบสะพานใกล้ๆ ซอยกรุงเทพกรีฑา 8 ถูกจับจองเป็นที่จอดรถอย่างถาวร มีทั้งรถบรรทุก รถเก๋ง
มีบางจุดเอายางรถยนต์หรือไม้มากั้นเป็นเขตหวงห้ามอีกต่างหาก เป็นการแสดงถึงความเห็นแก่ตัวอย่างชัดแจ้ง
ทางเท้าหรือเลนจักรยานก็เช่นกัน ในเมืองใหญ่ๆ กลายเป็นทางวางสินค้า รถเข็น และเป็นทางวิ่งของจักรยานยนต์
อีกเรื่องที่แสดงความไม่เคารพกฎจราจร ก็คือ การไม่หยุดรถให้คนข้ามถนนข้ามไปก่อน ทั้งที่เป็นทางม้าลาย หรือมีไฟสัญญาณจราจรบอกชัดเจน
จากเรื่องเล็กๆ เหล่านี้เมื่อนำมาเชื่อมต่อกัน เราจะเห็นภาพจิตไร้สำนึกสาธารณะ
ถ้าเอาภาพนี้มาเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่นญี่ปุ่นแล้ว จะเห็นถึงความแตกต่างชัดเจนยิ่ง
คนข้ามถนนในทางข้ามของญี่ปุ่นจะรู้สึกว่าปลอดภัย เพราะรถทุกคันชะลอและจอดเว้นระยะตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
การขับขี่บนถนนก็เช่นกัน การแซงซ้ายหรือปาดหน้า ขับรถเร็วเกินกำหนดแทบจะไม่มีให้เห็นเลย
ความมีจิตสำนึกสาธารณะและเคารพในกฎจราจรของชาวญี่ปุ่นได้สะท้อนออกมาเป็นสถิติ
กล่าวคือ จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนของญี่ปุ่นต่ำมาก
สถิติปีล่าสุด 2561 มีผู้เสียชีวิตเพียง 162 คน
เป็นสถิติแตกต่างกับบ้านเราลิบลับ
เมื่อปีที่แล้วการเกิดอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย มีผู้เสียชีวิต 22,491 คน
ฉะนั้น การรณรงค์เพื่อให้คนไทยในทุกระดับอายุรักษาวินัยจราจร และการบังคับใช้กฎหมายสมควรยกให้เป็นวาระสำคัญของประเทศ