ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 สิงหาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | สำเริงคดี |
ผู้เขียน | ทรงวาด |
เผยแพร่ |
อ้วน
ความอ้วนไม่เคยไว้หน้าใคร ยามนี้ เซเลบฮอลลีวู้ดที่ไม่สามารถลด ละ เลิก การกินล้นเกินได้ จึงชิงแย่งแข่งเบียดกันเข้าเส้นชัยสายอ้วนกันมากนาง
ไล่เรียงตามวัยวุโส เก๊าะต้องเริ่มจาก ริฮานนา ที่แคลอรี่การกินของเธอทวีคูณพูนเพิ่มเป็นตัวแปรตามดีกรีความรักระหว่างเธอกับหนุ่มเศรษฐีซาอุฯ นามฮัสซัน จามีล
ริฮานนากำลังอินเลิฟ และฮัสซันชอบให้ผู้หญิงของเขามีเนื้อมีนูน” แหล่งข่าววงในแหลง
“ทั้งคู่รักการเดินทางเที่ยวกินตามภัตตาคารเลิศรสทั่วโลก ตอนนี้รีรี่น้ำหนักเพิ่มขึ้นไปอีก 20 ปอนด์เป็นอย่างน้อย และฮัสซันก็ชอบเธอแบบนั้น”
นักร้องสาววัย 31 จึงขม้ำหม่ำอาหารนานาวันละราว 5,000 แคลอรี่
“รีรี่ไม่สนว่าใครจะพูดจานินทาเธอว่ายังไง เธอคิดว่ามันน่าเศร้าที่ใครๆ คนอื่นจะมาพะวงกับพุงและก้น แทนที่จะเป็นความสุขของเธอ”
อ้วนรายต่อมาคือดีวา นักร้องวัย 49 มารายห์ แคร์รี่ ผู้เคยใช้การผ่าตัดช่วยลดอ้วนเมื่อปี 2017 ทำให้เธอลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 40 ปอนด์
แต่แล้วเธอก็หวนหากลับมากินเอาๆ จนบัดนี้น้ำหนักตัวไต่ขึ้นสูงเฉียดใกล้กับก่อนหน้าผ่าตัดแล้ว
นั่นคืออยู่ที่ราว 225 ปอนด์
แม้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคอ้วนจะเตือนว่าความอ้วนเป็นตัวก่อโรคต่างๆ นานาได้กว่า 60 ชนิด ตั้งแต่เบาหวานไปจนถึงมะเร็ง
ยิ่งคนที่ลดอ้วนจนผอมลงแล้วกลับอ้วนขึ้นอีกสลับกันไปมายิ่งน่ากลัว
เพราะ “เมื่อคุณลดน้ำหนัก คุณจะสูญเสียไขมันและกล้ามเนื้อ แต่เมื่อคุณกลับมาน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก คุณจะมีไขมันเพิ่มพูนที่ตับเป็นเปอร์เซ็นต์สูงกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นเหตุของโรคเบาหวานหรือเส้นเลือดอุดตัน ซึ่งอาจทำให้หัวใจล้มเหลวหรือเป็นลมอัมพาตได้”
อ้วนแรงแซงโค้งมาเป็นรายที่สามในยามนี้ คือนักแสดงและดีวาทอล์กโชว์วัย 63 วูปี้ โกลด์เบิร์ก ว่ากันว่าปัจจุบันวูปี้ซึ่งสูง 5.5 ฟุตแบกน้ำหนักตัวไว้ถึง 260 ปอนด์
ทั้งๆ ที่ความสูงขนาดนี้น้ำหนักตัวเธอไม่ควรเกิน 135 ปอนด์
“เป็นเพราะเวลาไม่สบายใจ วูปี้จะใช้อาหารดับความกังวล” แหล่งข่าวแพล็มเผย
และช่วงนี้นางก็ไม่สบายใจจากการที่พิธีกรร่วมรายการทอล์กโชว์ The View เฆี่ยนตีนางไว้ในหนังสือแฉเบื้องหลังรายการชื่อ Ladies Who Punch”
“แต่การเจริญอาหารบานตะไทขนาดนี้ไม่ดีเลย เพราะก่อนหน้านี้วูปี้ล้มป่วยด้วยโรคนิวมอเนียและติดเชื้อในกระแสเลือด
ตอนที่เพิ่งฟื้นได้ วูปี้บอกว่า “ใช่เลย ชั้นเฉียดฉิวการลาจากโลกนี้ไปแล้ว ข่าวดีก็คือ ชั้นยังไม่ได้ไปจ้า”
แต่โรคอ้วนที่กำลังเขมือบเธออยู่นี้อาจทำให้เกิดการอักเสบในเส้นเลือดซึ่งจะทำให้เกิดลิ่มเลือดที่ไปอุดตันหัวใจ หรือสมองตรงไหนเข้าก็ได้ จึงเท่ากับว่าเธอกำลังเสี่ยงตายอีกรอบ
เพื่อนร่วมอ้วน แก่ เจ็บ ตายทั้งหลายเอ๋ย จงเร่งลดอาหารจำพวกแป้งและไขมันกันนับแต่วินาทีนี้เทอญ