แมลงวันในไร่ส้ม/ กรณี ‘ถวายสัตย์’ 7 พรรคเปิดเกมในสภา ‘บิ๊กตู่’ รับ-เร่งแก้ปัญหา

แมลงวันในไร่ส้ม

กรณี ‘ถวายสัตย์’

7 พรรคเปิดเกมในสภา

‘บิ๊กตู่’ รับ-เร่งแก้ปัญหา

 

กลายเป็นเรื่องที่ยังจบไม่ลง และเป็นข่าวที่มีการนำเสนอในสื่อทั้งหนังสือพิมพ์และออนไลน์

นั่นคือ การเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีผู้ทักท้วงว่า คณะรัฐมนตรีกล่าวถ้อยคำไม่ครบตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ในมาตรา 161

เรื่องนี้แพร่กระจายไปหลังการประชุมร่วมกันของรัฐสภา 25 กรกฎาคม เพื่อแถลงนโยบาย ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ

แต่ปรากฏในคลิปว่า ถ้อยคำที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวนั้น ไม่ครบประโยคตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 161 จึงอยากถามว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ ครม. ถือว่ามีผลสมบูรณ์หรือไม่ และถือว่าการเข้ารับหน้าที่ก่อนมาแถลงนโยบาย สมบูรณ์หรือยัง

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า ถ้าปล่อยให้นายปิยบุตรพูดโดยอ้างถึงคลิป โดยที่ตนเองและประธานการประชุมไม่ได้เห็นคลิป แล้วให้นายปิยบุตรพูดได้อย่างไร การตัดต่อในคลิป หรือการตัดต่อในทีวีนั้น สามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องพูดครบถ้วนทั้งประโยค เขาก็ตัดทอนได้

ซึ่งนายชวนตอบว่า ตนเองไม่เห็นคลิป แต่ผู้พูดต้องรับผิดชอบ เพราะขณะนี้มีการถ่ายทอดสด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พูดถือเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง ต้องรับผิดชอบ

เกิดการโต้เถียงในสภาอีกพักใหญ่ ก่อนที่นายชวนย้ำว่า เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบว่าเป็นของผู้ถาม แล้วตัดบทเข้าสู่ระเบียบวาระแถลงนโยบายทันที

น่าสังเกตว่า ตลอดการประชุม 25-27 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ลุกขึ้นชี้แจงและตอบโต้การอภิปรายของฝ่ายค้านหลายเรื่อง แต่ในเรื่องการถวายสัตย์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสั้นๆ ในเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษของวันที่ 25 กรกฎาคม ว่า พิธีถวายสัตย์เสร็จสิ้นด้วยความเรียบร้อยแล้ว ผมจะไม่กล่าวถึงอีก

แล้วชี้แจงในประเด็นอื่นๆ ต่อไป

 

บุคคลสำคัญในเรื่องนี้คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งนักข่าวได้สอบถามว่า จะต้องดำเนินการแก้ไขอย่างไรหรือไม่ คำตอบจากนายวิษณุก็คือ ไม่ขอตอบ เนื่องจากเสร็จเรียบร้อยกระบวนการครบถ้วน และผ่านพ้นไปแล้ว ถือว่าทุกอย่างผ่านตามขั้นตอนแล้ว

ฝ่ายค้านได้ให้สัมภาษณ์และทวงถามการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะออกข่าวว่า อาจจะยื่นกระทู้ถามและยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้

วันที่ 1 สิงหาคม นายวิษณุ เครืองาม ตอบคำถามที่นักข่าวถามว่า นายวิษณุระบุเคยมีบางรัฐบาลถวายสัตย์ไม่ครบเช่นกัน หมายถึงรัฐบาลชุดใด นายวิษณุกล่าวว่า “มันผ่านมาแล้ว ผมจะหาเรื่องให้เขาเอากลับมาพูดอีกทำไม”

เมื่อถามว่า การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลถือว่าชอบด้วยกฎหมายแล้วหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ตอบแล้ว เมื่อถามย้ำหากไม่มีคำตอบที่ชัดเจน รัฐบาลจะถูกวิจารณ์ไปตลอดหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวย้ำว่า ไม่ตอบ ส่วนจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความได้หรือไม่นั้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ และไม่รู้ใครจะตอบเรื่องนี้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลสามารถทำงานได้ตามปกติใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ตอบแล้วครับ เมื่อถามถึงข้อเสนอของอัยการแนะนำให้รัฐบาลทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ขอตอบเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นได้ เรื่องนี้ไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น แล้ววันหนึ่งจะรู้เองว่าทำไมถึงไม่ควรพูด

เรื่องราวลุกลามต่อไปอีก โดยวันที่ 5 สิงหาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมคณะ เดินทางมายื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมีนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นผู้รับเรื่อง กรณี พล.อ.ประยุทธ์นำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม กล่าวถ้อยคำไม่ครบถ้วน บางถ้อยคำขาดหายแต่กลับมีบางถ้อยคำเพิ่มขึ้นมา ซึ่งไม่ตรงกับบทบัญญัติในมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ

นายศรีสุวรรณระบุว่า ถ้อยคำที่ขาดหายไปเป็นสาระสำคัญ นั่นคือ

“ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

เป็นถ้อยคำที่คณะรัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ให้ครบ เป็นบทบัญญัติที่กำหนดไว้ตายตัวตามรัฐธรรมนูญ เป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของการถวายสัตย์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องไปยังศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการวินิจฉัยชี้ขาดโดยเร็วว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่

 

ท่าทีของนายกรัฐมนตรีเปลี่ยนแปลงไปในวันหลังๆ โดยวันที่ 5 สิงหาคม ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันซ้ำอีกว่า ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

ข้อความต่างๆ ที่พูดไปแล้วถือว่าครอบคลุมทั้งหมด และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญที่สุดเป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการ

เรื่องนี้ควรจบดีกว่า อย่าให้บานปลาย หลายคนในนั้นก็เป็นทหาร ขอร้องว่าเคยเป็นพี่น้องกันมา อย่าให้การเมืองมาทำให้ประเทศชาติปั่นป่วนไปทั้งหมด ถ้าจะดีหรือไม่ดีอย่างไรก็ให้รอเลือกตั้งคราวหน้าก็แล้วกัน

อย่างไรก็ตาม ต่อมาวันที่ 6 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กำลังพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ แต่ยืนยันว่าได้ทำครบถ้วน เรื่องดังกล่าวก็คงต้องว่ากันต่อไป

เมื่อถามว่า ที่กำลังหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้น หาทางอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็กำลังหาทาง ไม่รู้จักคำว่าหาทางหรืออย่างไร เอาล่ะ เรื่องนี้ตนจะทำของตนเอง

เมื่อถามต่อว่าจะชี้แจงกระทู้ถามเรื่องนี้ของฝ่ายค้านในวันที่ 7 สิงหาคม หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าให้ชี้แจงวันที่ 7 สิงหาคม ตนคงไปไม่ได้เพราะจะเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ คงรอไปก่อน

เรื่องบางเรื่องก็ต้องฟังเหตุฟังผลกันบ้าง เพราะถ้าเอาทุกอย่างมาผูกกันหมดก็จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ขอให้ไว้ใจตน เชื่อว่าตนทำได้ และต้องทำให้ได้

เป็นบทสรุปในการแก้ปัญหาของนายกฯ ที่ยังต้องรอดูการปฏิบัติว่าจะทำอย่างไร