จิตต์สุภา ฉิน : CES 2017 ความผูกพันฉันเพื่อนของคนกับเทคโนโลยี

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านจากลาสเวกัสค่ะ

ปีนี้เป็นปีที่ 3 ติดกันแล้วที่ซู่ชิงเดินทางมาลาสเวกัสในช่วงหลังปีใหม่

แน่นอนว่าสาเหตุที่ตาลีตาเหลือกแพ็กกระเป๋าเดินทางมากว่า 20 ชั่วโมงทั้งที่เพิ่งจะฉลองปีใหม่เสร็จสดๆ ร้อนๆ ก็เพื่อจะเดินทางมาร่วมงาน CES นั่นเองค่ะ

CES หรือ Consumer Electronics Show เป็นงานจัดแสดงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่มีขึ้นเป็นประจำทุกปีที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมืองแห่งแสงสีเสียงและการพนันที่ไม่เคยหลับใหล

ซึ่งความพิเศษของ CES ในปีนี้ก็คือการจัดมาครบ 50 ครั้งพอดิบพอดี

ซู่ชิงตกหลุมรักงาน CES และตั้งใจจะเข้าร่วมงานนี้ให้ได้ทุกปีก็เพราะว่ามันช่างเป็นงานเทคโนโลยีที่มีความหลากหลายมากค่ะ

ขอบเขตของเทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดงในงานนี้กว้างใหญ่มากๆ ทั้งรถยนต์ โดรน หุ่นยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สมาร์ตดีไวซ์ ไปจนถึงสิ่งประดิษฐ์แปลกพิสดารที่หาดูไม่ได้ที่ไหน

ซึ่งแตกต่างจากงานอื่นๆ ที่มักจะเน้นอย่างใดอย่างหนึ่งไปเลย

ดังนั้น สำหรับซู่ชิงแล้วการได้มาเดินไปในฮอลล์อันแสนจะใหญ่โตของงาน CES คือการอัพเดตตัวเองให้เตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยีที่กำลังจะมาตลอดทั้งปี และการได้จุดประกายความคิดให้ตัวเองด้วยการไปดูไอเดียใหม่ๆ ว่าคนอื่นในโลกเขากำลังคิด กำลังประดิษฐ์อะไรกันอยู่บ้าง

ซู่ชิงจึงรวบรวม 5 เทคโนโลยีที่ชอบจากการที่ซู่ชิงได้เดินสำรวจงานในครั้งนี้มาฝากคุณผู้อ่านมติชนสุดสัปดาห์กันค่ะ

connected-mirror-with-oak-shelf-ekko-41236-principale_660_427_0

ชิ้นแรกก็คือ กระจกอัจฉริยะ ค่ะ กระจกบานนี้มีชื่อว่า EKKO ผลิตโดยบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส Miliboo ไอเดียของเขาก็คือกระจกถูกผลิตคิดค้นขึ้นมาได้นาน 200 ปีแล้ว และทุกวันนี้ก็มีการผลิตกระจกแบบโมเดิร์นออกมามากมาย แต่วิธีการใช้งานกระจกก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย ยังคงเป็นกระจกที่เอาไว้ส่องเงาสะท้อนของตัวเราเฉยๆ

ดังนั้น บริษัทจึงคิดค้นกระจกที่จะให้รายละเอียดกับเราได้มากขึ้น คือนอกจากจะสะท้อนเงาแล้ว ยังสะท้อนถึงบุคลิก ลักษณะ และแสดงผลข้อมูลต่างๆ ที่เราชอบและเราสนใจ

ด้วยเทคโนโลยีที่บริษัทคิดค้นขึ้นมาทำให้บริเวณส่วนล่างของกระจกสามารถแสดงผลข้อมูลดิจิตอลต่างๆ เริ่มต้นตั้งแต่การพยากรณ์ดวงให้เรา และให้เราเลือกว่าอยากให้กระจกแสดงผลอะไร ซึ่งก็มีตั้งแต่ ข่าวสารอัพเดต คลิปวิดีโอ เพลง วิทยุ ภาพ และฟังก์ชั่นการจับเวลา

ทำให้บ้านไหนที่มีกระจกบานนี้ติดตั้งไว้ก็จะสามารถแปรงฟันไปด้วย อ่านข่าวบนกระจกไปด้วย

หรือจะแต่งหน้าไปด้วย พร้อมๆ กับการดูคลิปวิดีโอที่บิวตี้บล็อกเกอร์สอนแต่งหน้าไปด้วย

ซู่ชิงลองไปใช้งานแล้วอยากจะขอรีวิวสั้นๆ ว่าชอบมาก และในอนาคตจะซื้อมาติดไว้ที่บ้านสักบานแน่ๆ ค่ะ แต่ราคาก็ไม่ได้เบาสบายกระเป๋าสักเท่าไหร่ เพราะอยู่ที่ 399 ดอลลาร์ หรือประมาณ 14,000 กว่าบาทค่ะ

 

ชิ้นที่สอง อันนี้ก็อัจฉริยะเหมือนกันค่ะ แต่เป็นโต๊ะอัจฉริยะ Smart Table จาก Panasonic ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอยู่ค่ะ

รูปร่างลักษณะของมันแทนที่จะเป็นพื้นผิวโต๊ะธรรมดาๆ ก็กลับกลายเป็นหน้าจอสัมผัสที่ถูกซ้อนทับไว้ด้วยเนื้อผ้าและกระจกอีกทีหนึ่ง

เราสามารถเล่นอินเตอร์เน็ต ดูภาพกล้องวงจรปิด และทำนู่นทำนี่ได้ราวกับว่าโต๊ะตัวนี้คือหน้าจอแท็บเล็ตขนาดใหญ่

แต่เมื่อไม่เปิดใช้งานก็เหมือนโต๊ะไม้ธรรมดาๆ ตัวหนึ่งนั่นเอง

เมื่อเอาสมาร์ตโฟนมาซิงก์เข้ากับโต๊ะก็สามารถเช็กข้อความและวิดีโอคอลล์จากบนโต๊ะเลย แถมมุมขวาบนของโต๊ะยังออกแบบมาให้วางแก้วน้ำและเปิดเพิ่มอุณหภูมิให้อุ่นเครื่องดื่มได้ด้วย

ซู่ชิงได้พูดคุยกับผู้พัฒนาโต๊ะตัวนี้โดยตรง เขาบอกว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะทำออกมาขายเพราะยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนา

แต่รอสักประมาณ 7-10 ปี ก็คิดว่าน่าจะพร้อมให้ใช้งานกันแล้วล่ะค่ะ

Image may contain: one or more people

ขยับมาชิ้นที่สามกันค่ะ ไหนๆ เราก็มีทั้งกระจกกับโต๊ะอัจฉริยะแล้ว มาคุยกับตู้เย็นกันสักหน่อยเป็นไง

ซัมซุงเปิดตัวตู้เย็นรุ่นล่าสุดของ Family Hub 2.0 เป็นตู้เย็นเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะทำให้ห้องครัวสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม

ซู่ชิงชอบตู้เย็นตัวนี้ตรงที่เราสามารถพูดคุยกับมันได้ (พอดีเป็นคนขี้เหงาอยากให้ทุกสิ่งรอบตัวเป็นเพื่อนคุยได้)

ซึ่งซัมซุงเขาพัฒนาผู้ช่วยส่วนตัวที่สั่งการด้วยเสียงขึ้นมาด้วยตัวเอง

ซู่ชิงลองไปทักทายตู้เย็นว่า “ฮัลโหล ซัมซุง” และใช้เสียงสั่งการได้สนุกสนานเลยค่ะ มีทั้งสั่งให้ช่วยโชว์ของในตู้เย็นให้หน่อย หน้าจอ 29 นิ้วบนตู้เย็นก็จะเปลี่ยนเป็นภาพที่ใช้กล้องที่ฝังภายในตู้ถ่ายออกมาให้เราได้เห็นว่าเรามีอาหารเครื่องดื่มอะไรอยู่ข้างในตู้บ้าง

หรือหากทำอาหารอยู่และไม่สะดวกจะเปิดดูสูตรเอง ก็ขอให้ตู้เย็นช่วยอ่านออกเสียงสูตรอาหารนั้นให้ฟังดังๆ ก็ได้

และถ้าเห็นว่านมหมด ไข่เกลี้ยง ผักไม่เหลือ ก็ใช้เสียงสั่งให้ตู้เย็นพาเข้าไปช็อปปิ้งผ่านแอพให้หน่อยและจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย

ทั้งหมดนี้ทำได้ครบจบทุกรายละเอียดบนตู้เย็นตู้เดียว

แต่อันนี้น่าเสียดายเพราะไม่เข้ามาขายในเมืองไทยแน่นอน

samsung-family-hub-2-0-refrigerator-1

มาดูชิ้นที่สี่กันค่ะ ถึงแม้ว่าซู่ชิงไม่มีประสบการณ์ในการคลอดลูกและให้นมลูก แต่ก็มั่นใจว่าคุณแม่ลูกอ่อนทั่วโลกจะต้องชื่นชอบแก็ดเจ็ตชิ้นนี้มากๆ เพราะมันเป็นการดีไซน์เครื่องปั๊มนมใหม่หมดจด

แทนที่คุณแม่จะต้องนั่งเฉยๆ ปั๊มนมกับเครื่องที่เสียบปลั๊กในแบบที่ลุกไปไหนไม่ได้

Willow เครื่องปั๊มนมแบบใหม่นี้ออกแบบมาเป็นสองชิ้นให้สวมเข้ากับเต้านมแต่ละเต้า แต่งตัวสวมเสื้อทับลงไปตามปกติ

เครื่องปั๊มนมก็จะทำหน้าที่ปั๊มไปเรื่อยๆ จนถุงเต็มก็จะหยุดอัตโนมัติ ทำให้ผู้หญิงสามารถปั๊มนมไปด้วย ทำงานทำการอย่างอื่นไปด้วยได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาชีวิตไปกับการนั่งปั๊มนมเหมือนที่ผ่านมา

ตอนนี้ติดอุปสรรคอยู่ที่ราคายังสูงเกินไปสักหน่อย คืออยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท ซึ่งทางผู้ผลิตก็บอกว่าจะหาทางทำให้ต้นทุนต่ำลงกว่านี้ให้ได้ค่ะ

15874975_709288559247519_1216996426456191255_o

มาถึงสิ่งสุดท้ายที่ชอบ อันนี้ไม่ได้เป็นแก็ดเจ็ตชิ้นใดชิ้นหนึ่ง แต่ซู่ชิงชอบเทรนด์เทคโนโลยีของการนำเอาปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เข้าไปใส่เอาไว้ในรถยนต์ ทำให้แม้ว่าเราจะขับรถคนเดียวแต่ก็เหมือนมีเพื่อนร่วมทางไปด้วยตลอดเวลา มีรถยนต์หลายค่ายที่กำลังพัฒนาคอนเซ็ปต์ปัญญาประดิษฐ์บนรถ

เช่น ฮอนด้า ที่นำเอารถยนต์คอนเซ็ปต์ NeuV กับเอไอชื่อ “ฮานะ” มาโชว์เคสในงาน หรือ Concept i ของโตโยต้ากับเอไอชื่อ “ยูอิ” โดยปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้นอกจากจะทำหน้าที่ในการให้ข้อมูลสำคัญๆ แล้ว ก็ยังจะเรียนรู้ลักษณะนิสัยของผู้ขับขี่ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นเหมือนเพื่อนสนิทรู้ใจ ที่ทำได้แม้กระทั่งอ่านอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของคนขับในขณะนั้นๆ

ซู่ชิงสรุปได้สั้นๆ ว่าธีมสำคัญของงาน CES ในปี 2017 นี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมากก็คือความพยายามของค่ายเทคโนโลยีทั้งหลายในการพัฒนาให้เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นกับมนุษย์ แทนที่จะเป็นแก็ดเจ็ตที่แค่มีประโยชน์ใช้สอยเฉยๆ ก็ใส่สติปัญญา อารมณ์ความรู้สึกเข้าไปให้มันด้วย ทำให้เราแนบแน่นกับเทคโนโลยีมากกว่าที่เคยเป็นมา

ดังนั้น ก็น่าจะคาดหวังได้ว่าเราจะได้เห็นเทคโนโลยีแบบนี้มีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี 2017 นี้ค่ะ

the-honda-neuv

ป.ล. คุณผู้อ่านที่อยากเห็นภาพ วิดีโอ หรือถ่ายทอดสดจากงาน CES 2017 สามารถเข้าไปดูได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ซู่ชิง Jitsupa Chin ค่ะ