ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 มิถุนายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | คลุกวงใน |
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
เรื่องสำคัญของอัณฑะ
เหตุการณ์ในเมืองไทยที่โทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษและซีเอ็นเอ็นนำไปเสนอเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคือข่าวงูเหลือมงับอัณฑะและปลายองคชาตของ คุณอรรถพร บุญมากช่วย
ภาพเลือดกระจายในโถส้วมและห้องน้ำ เห็นแล้วเชื่อว่าผู้ชายทุกคนที่ติดตามข่าวต้องรู้สึกเสียวสันหลังไปตามๆ กัน ไม่รู้ว่าสัญลักษณ์ความเป็นชายของคุณอรรถพรจะยังคงอยู่รึไม่
แล้วก็โล่งใจเมื่อเห็นคุณอรรถพรให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แพทย์ยืนข้างเตียงบอกว่าบาดแผลดี ไม่มีอาการอักเสบ
อัณฑะกับองคชาต เป็นอวัยวะที่สำคัญมากสำหรับผู้ชายทุกคนรวมถึงผู้หญิงด้วย!
แต่เรื่องเอกลักษณ์ของเอกบุรุษเป็นเรื่องที่ผู้คนเขินอายที่จะพูดกัน เพราะตั้งแต่จำความได้ การเรียกชื่อองคชาต พ่อแม่มักจะใช้คำอื่นๆ เรียกแทน เช่น ไอ้จู๋ น้องหนู หรือ นกเขา
ส่วนอัณฑะจะเรียกชื่อเล่นว่า “ไข่”
พอลูกชายโตขึ้นมาก็จะเปลี่ยนเป็นเรียกว่า “ไอ้นั่น” ราวกับว่าเครื่องเพศเป็นสิ่งที่ไม่สมควรพูดชื่อจริงๆ ออกมา
เมื่อเด็กชายโตเป็นผู้ใหญ่จึงรู้สึกฝังใจว่าเรื่องอวัยวะเพศเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดถึง เพราะเกรงว่าจะถูกคนอื่นมองว่าเป็นคนทะลึ่ง สัปดน หมกมุ่นแต่เรื่องเพศ
แม้หัวข้อการพูดคุยจะเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพก็ยังรู้สึกกระดากปาก
หนังสือพิมพ์เวลาพาดหัวข่าวเรื่องอวัยวะเพศ มักจะใช้คำว่า “เจ้าโลก” หรือ “พวงสวรรค์”
เหตุการณ์งูเหลือมฉกกัดอวัยวะเพศคุณอรรถพร น่าจะเป็นโอกาสเหมาะที่จะกล่าวถึงเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับอวัยวะเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัณฑะ ซึ่งดูเหมือนเป็น “อวัยวะที่ถูกลืม”
หลายคนอาจสงสัยแต่ไม่กล้าถามว่า ทำไมอัณฑะต้องห้อยออกมา สร้างความลำบากในการเล่นกีฬาหลายประเภท
มิหนำซ้ำตอนนี้ก็เพิ่มความกังวลเวลาเข้าห้องน้ำซ้ำเข้าไปอีก!
เหตุที่อัณฑะห้อยออกมานอกร่างกาย เพราะอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับอัณฑะในการผลิตอสุจิอยู่ที่ประมาณ 34 องศาเซลเซียสซึ่งต่ำกว่าอุณหภูมิปกติของร่างกายซึ่งอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส
ดังนั้น อัณฑะจึงต้องห้อยออกมาอยู่ภายนอกเพื่ออุณหภูมิจะได้ไม่สูงเกินไปในการสร้างอสุจิ
อัณฑะเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักทุกวัน ผลิตอสุจิวันละประมาณ 200 ล้านตัว
อัณฑะเป็นอวัยวะที่บอบบางมากเพราะไม่มีไขมันและไม่มีกระดูกป้องกันเหมือนกับอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
ดังนั้น หากอัณฑะถูกบีบอย่างรุนแรง ผู้ชายอาจหมดสติได้ หรือหากถูกกระทบกระทั่งอย่างหนัก อาจทำให้เป็นหมัน
ถามผู้ชายส่วนใหญ่ว่าเคยวัดขนาดอัณฑะของตัวเองบ้างรึไม่ เชื่อว่าส่วนใหญ่คงตอบว่าไม่เคย
หากจะวัดก็คงวัดขนาดขององคชาต!
ขนาดอัณฑะโดยเฉลี่ย ยาว 2-3 นิ้ว กว้าง 1 นิ้ว
ลองสังเกตอัณฑะของตัวเองดูครับ
สำหรับผู้ชายที่ถนัดขวา อัณฑะข้างซ้ายมักจะห้อยต่ำกว่าข้างขวา ส่วนผู้ชายที่ถนัดซ้าย ลูกอัณฑะข้างขวามักจะห้อยต่ำกว่าข้างซ้าย
หากถามผู้หญิงว่าสนใจกับขนาดอัณฑะของผู้ชายมั้ย
เชื่อว่าส่วนใหญ่คงตอบว่าไม่สนใจ และยิ่งไปกว่านั้น ยังอาจบอกว่าไม่อยากจะมองด้วยซ้ำไป
แต่หากได้อ่านการศึกษาของ Emory University ประเทศสหรัฐอเมริกา อาจเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะขนาดของอัณฑะมีความสำคัญต่อชีวิตคู่
จากการศึกษาพบว่า ผู้ชายที่มีขนาดอัณฑะเล็กมีแนวโน้มที่จะเป็นพ่อที่ดีของลูก
โดยคณะผู้ศึกษาได้ทำการสำรวจพ่อทุกเชื้อชาติจำนวน 70 คน อายุระหว่าง 21-55 ปี โดยเป็นพ่อผิวขาว 50 คน, ผิวเข้ม 15 คน และพ่อเอเชีย 5 คน ที่มีลูกอายุระหว่าง 1 ถึง 2 ขวบ
การศึกษาพบว่า พ่อที่ยิ่งมีขนาดอัณฑะใหญ่เท่าไหร่ บทบาทในการเลี้ยงดูลูกยิ่งน้อยลงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ้าอ้อม, อาบน้ำ, เตรียมอาหาร หรือพาลูกไปหาหมอ
สาเหตุเป็นเพราะอะไร?
คณะผู้ศึกษาวิเคราะห์ว่า อาจเป็นไปได้ที่เมื่อพ่อทุ่มเทกับการเลี้ยงลูก จึงส่งผลให้ขนาดอัณฑะเล็กลง
อาบน้ำเย็นนี้ ถือโอกาสตรวจอัณฑะกันหน่อยไหมพวกเรา!