ผงะฉาววงการสีกากี ทุจริตสอบนายสิบ ตร. มีทั้ง บช.น.-บช.ภ.7 ลุ้น ผบ.ตร. สั่งโมฆะ

แถลงผลสอบ

นับเป็นเหตุอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับแวดวงสีกากีอีกครั้ง

สำหรับการสอบเข้าโรงเรียนนายสิบตำรวจของกองบัญชาการตำรวจนครบาล

ที่มีผู้เข้าสอบนับหมื่น แต่สามารถรับได้แค่ 1 พันอัตราเท่านั้น

เมื่อการสอบลุล่วง ทั้งข้อเขียน สัมภาษณ์ ทดสอบสมรรถนะ จนได้ผู้เข้ารอบสุดท้าย

กลับพบร่องรอยการทุจริตการสอบ ที่ไม่ใช่การใช้เทคโนโลยีไฮเทคแต่อย่างใด

แต่ย้อนยุคไปถึงสมัยการเขียนโพยข้อสอบให้ลอกกันจะจะ

ส่งผลให้เกิดการตรวจสอบขนานใหญ่

ขณะที่ผู้สอบได้ ต่างลุ้นระทึก ว่าจะถูกหางเลขให้การสอบเป็นโมฆะหรือไม่

จับตัวเทศกิจ
จับตัวเทศกิจ

ผงะโกงสอบนายสิบ ตร.

เหตุการณ์ครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม เมื่อ พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศฝร.บช.น. เปิดเผยว่า ได้เรียกตัวนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัย 3 แห่ง 4 ราย มาสอบปากคำหลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวกับการทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายสิบตำรวจของ บช.น.

การสอบข้อเขียนเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม โดยเปิดรับบุคคลภายนอกอายุระหว่าง 18-27 ปี วุฒิการศึกษา ม.6 หรือ ปวช. หรือเทียบเท่า เปิดตำแหน่ง 1 พันอัตรา มีผู้สมัครทั้งสิ้น 13,285 คน

มีผู้ผ่านรอบแรก 1,800 คน มีการสอบสัมภาษณ์ ทดสอบสมรรถภาพร่างกายเสร็จสิ้น อยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติเพื่อคัดเลือกผู้สอบผ่านรอบสุดท้าย

ขณะที่กรรมการนำกระดาษข้อสอบทั้งหมดมาตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย กลับพบข้อพิรุธ

เมื่อกระดาษคำตอบในคำถามทั้งหมด 150 ข้อ มีผู้ที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ 13 คะแนน

แต่ในกระดาษโจทย์และกระดาษทด เขียนคำตอบเฉลยไว้ถูกทั้งหมด แถมยังเขียนตัวอักษรที่ใหญ่ผิดปกติ ทำให้บุคคลรอบข้างมองเห็นได้แม้อยู่ระยะไกล

เค้าลางการทุจริตเกิดขึ้นมาทันที!??

ทั้งนี้ ความผิดปกติทั้งหมดพบที่สนามสอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เมื่อสอบลึกไปก็พบผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 413 คน แบ่งเป็นนักศึกษาที่ยิงข้อสอบ 34 คน เป็น น.ศ.แพทย์ 10 คน วิศวะ 10 คน และคณะอื่นๆ อีก 14 คน จาก 3 มหาวิทยาลัยดัง

ที่ร่วมขบวนการลอกข้อสอบอีก 80 คน ที่เหลืออีกหลายร้อยคนเป็นคนที่ร่วมลอกข้อสอบโดยไม่ได้ตั้งใจ

สำหรับวิธีการนั้น พบว่ามีหัวโจกใหญ่เป็นข้าราชการสังกัด กทม. ว่าจ้างนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำมาทำข้อสอบ ที่ออกในความรู้ระดับ ม.6 โดยให้ค่าจ้างคนละ 2-3 หมื่นบาท

จากนั้นก็ไปติดต่อหาเหยื่อที่ต้องการสอบเข้าได้ แล้วจึงสมัครสอบโดยวิธีออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบหลักฐานทางการศึกษา

ส่วนเลขที่นั่งสอบก็อาศัยช่องว่างเมื่อผู้สมัครจ่ายเงินค่าธรรมเนียมสอบกับธนาคาร ก็จะกำหนดที่นั่ง ซึ่งจะได้ใกล้ๆ กัน

เป็นวิธีธรรมดารูปแบบเดิมๆ ที่นำกลับมาใช้ใหม่ หลังจากเจ้าหน้าที่เข้มงวดเรื่องอุปกรณ์ไฮเทค

ทั้งนี้ หลังจากพบความผิดปกติ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. สั่งการให้ชะลอการประกาศผลสอบ และเสนอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ประกาศให้ผลสอบทั้งหมดเป็นโมฆะ

ขณะที่กองบัญชาการศึกษา สั่งการให้ทั้ง 12 กองบัญชาการ ที่จัดสอบนายสิบในรูปแบบเดียวกัน ตรวจสอบผลสอบใหม่ทั้งหมด

เพื่อดูว่ามีการทุจริตในรูปแบบดังกล่าวอีกหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 อีกแห่ง ที่ส่อจะมีการทุจริต โดยใช้รูปแบบเดียวกันเนื่องจากพบกระดาษโจทย์เขียนคำตอบใหญ่กว่าปกติ

จึงเสนอเรื่องให้ ผบ.ตร. ทราบ เพื่อพิจารณาต่อไป

เขียคำตอบชัด
เขียคำตอบชัด

เปิดกลโกง-หัวโจกจนมุม

ด้านคดีความ พล.ต.ท.ศานิตย์ เผยว่า ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.มือปืนรับจ้างหรือผู้ที่ถูกว่าจ้างให้เข้ามาทำข้อสอบ 2.ผู้สมัคร

โดยการดำเนินคดีกับพวกมือปืนรับจ้างนั้น ความผิดพื้นฐานตาม ป.อาญา มาตรา 137 ข้อหาแจ้งความเท็จอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน กรอกข้อมูลในระบบราชการอันเป็นเท็จ ในข้อมูลการสมัครเข้าสอบคัดเลือกผ่านทางอินเตอร์เน็ต การกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2550 ฐานความผิดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน

มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

ส่วนผู้สมัครที่ทุจริต มีความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจรตาม ป.อาญา ม.209 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

โดยไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.พหลโยธิน เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ยังแจ้งความดำเนินคดีกับ นายจิระพจน์ พลายด้วง อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจ เขตปทุมวันฐานเป็นตัวการสำคัญ

โดยนายจิระพจน์ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน พร้อมให้การว่าเป็นผู้ดำเนินการเพียงคนเดียว ทำมาประมาณ 1 ปี โดยเรียกรับเงินจากผู้เข้าสอบรายละ 3-4 แสนบาท และทำเพียงคนเดียวเท่านั้น

ส่วนที่เลือกช่องทางทุจริตการสอบเข้า เนื่องจากนายจิระพจน์ ทำงานอยู่ย่านปทุมวัน ซึ่งเป็นแหล่งที่มีนักเรียนไปติวหนังสือกวดวิชามาก มีทั้งสอบเข้าโรงเรียนนายสิบ และที่อื่นๆ จึงเข้าไปทำความรู้จัก และเสนอช่วยเหลือให้สอบได้

นอกจากนี้ ยังพบว่า นายจิระพจน์ไปติดต่อกลุ่มนักเรียนที่มีผลการเรียนดีตามสถาบันกวดวิชาต่างๆ อ้างว่าต้องการจ้างมาติวให้กับผู้เข้าสอบ แต่เมื่อถึงเวลาก็ทำหน้าที่เป็นมือปืนรับจ้างยิงข้อสอบ ให้เข้าสอบด้วยเพื่อเฉลยคำตอบ แลกกับค่าตอบแทนครั้งละ 5 พัน-2 หมื่นบาท

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรายชื่อกลุ่มนักเรียนเรียนดี ที่มีเครือข่ายประมาณ 51 ราย พบปรากฏชื่อในสนามสอบต่างๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสอบบรรจุเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ โรงเรียนจ่าอากาศ นักเรียนนายสิบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อสอบที่วัดพื้นความรู้ ม.6

และจากการสอบปากคำกลุ่มนักศึกษา และผู้เข้าสอบ ต่างสารภาพว่าร่วมกันทุจริตจริง โดยหลังจากสมัครสอบ นัดแนะกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจ ก่อนไปสอบที่ ม.รามคำแหง หัวหมาก

ต่อจากนี้ต้องสืบสวนต่อไปเพื่อทลายขบวนการโกงข้อสอบให้หมดสิ้น

 

ลุ้น ผบ.ตร. สั่งโมฆะหรือไม่

ส่วนเรื่องผลการสอบนั้น เบื้องต้น พล.ต.ท.ศานิตย์ เรียกประชุมคณะกรรมการดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกฯ มาหารือ พร้อมมีมติให้ยกเลิกกระบวนการการคัดเลือกทั้งหมด และให้เสนอไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ให้ออกประกาศยกเลิกต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลังกระแสข่าวดังกล่าว บรรดาผู้ที่ได้รับผลกระทบต่างพากันออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม

โดย นายปณัฐ นิติภักดี ผู้สอบได้ที่ 1 คะแนน 123 คะแนน ระบุว่า หากยกเลิกการสอบจะได้รับผลกระทบ ควรคัดคนที่กระทำความผิดออกไป ส่วนผู้อยู่ในข่ายสงสัยก็ว่าไปตามขั้นตอน ขณะที่พวกสอบได้โดยสุจริตควรได้รับความเป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องขอความเป็นธรรมนั้น ควรใช้กฎหมายและเหตุผลเป็นหลัก เพื่อให้ผู้มีอำนาจได้นำไปประกอบการพิจารณาและตัดสินใจต่อไป ไม่ควรใช้อารมณ์ในการเรียกร้อง จึงจะทำหนังสือถึง ผบ.ตร. ให้สอบสวนและนำรายชื่อผู้กระทำการทุจริตในการสอบครั้งนี้ออกจากรายชื่อผู้สอบผ่านทั้งตัวจริงและตัวสำรองทั้งหมด และบรรจุเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ด้วยความเป็นธรรมต่อไป

นายชยพล ขำทองทับ ผู้เข้าสอบ เปิดเผยว่า อยากให้ บช.น. ให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่สอบผ่านด้วยความสุจริต เพราะตนมุ่งมานะมีความพยายามให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ แต่ต้องกลับมาเจอเรื่องแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่ความผิดของพวกตน แต่เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่มีธุรกิจซึ่งควรดำเนินการลงโทษคนกลุ่มนั้น ไม่ใช่เหมารวมผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด ทุกคนที่สอบเสียค่าใช้จ่าย 3-5 หมื่นบาท

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ยังไม่ตัดสินใจว่าจะยกเลิกการสอบหน่วยงานไหน หรือทั้งหมด โดยให้กองบัญชาการศึกษาไปสำรวจตรวจสอบ แล้วค่อยนำเสนอว่าจะดำเนินการอย่างไร

ครั้งนี้ไม่ได้พบการทุจริตจากเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาที่มีการยกเลิกเพราะพบว่ามีข้อสอบรั่ว เจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ครั้งนี้เป็นการกระทำความผิดของผู้สอบ ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัดเจนอยู่แล้ว สมมติว่าพบคนผิด 50 ตำแหน่ง ตำแหน่งสำรองก็มีอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องแยกแยะและพิจารณาให้รอบคอบทุกมิติ ทุกอย่างพิจารณาไปตามข้อเท็จจริง ตรงไปตรงมา

ต้องให้สิทธิ์คนอื่นเขาด้วยไม่ใช่ไปตัดสิทธิ์ คนเขาตั้งใจสอบอย่างโปร่งใสเขาเสียเงินเสียทองสมัครมา

ขณะที่กองบัญชาการศึกษาเตรียมเสนอให้ ผบ.ตร. พิจารณาในวันที่ 16 มกราคมนี้

ลุ้นระทึกว่าผลจะออกมาอย่างไร