คนของโลก : โฮดัน นาลาเยห์ นักข่าวผู้เผยมุมมองใหม่โซมาเลีย

โฮดัน นาลาเยห์ ผู้สื่อข่าวชาวแคนาดาเชื้อสายโซมาเลีย วัย 43 ปี โพสต์ข้อความสะท้อนความสุขที่เธอได้กลับประเทศโซมาเลีย ประเทศ “บ้านเกิด” ที่เธอต้องจากไปเป็นเวลานานกว่า 30 ปี ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา

การเดินทางซึ่งนาลาเยห์อธิบายเอาไว้ว่าเป็น “รอมฎอนแรกที่บ้านของเธอ”

ทว่าอีกราว 2 เดือนต่อมา นาลาเยห์กลับต้องเสียชีวิตลงขณะตั้งท้องลูกคนที่ 3 หลังเกิดเหตุกลุ่มก่อการร้ายอัลชาบับก่อเหตุโจมตีโรงแรมชื่อดังในเมืองคิสมาโย เมืองที่มีทิวทัศน์อันสวยงามของ “จูบาแลนด์” เขตปกครองตนเองตอนใต้ของประเทศโซมาเลีย

เหตุก่อการร้ายที่คร่าชีวิตคนจำนวนมากถึง 26 คน ผลจาก “คาร์บอมบ์” และการบุกกราดยิงยึดโรงแรมของมือปืนอย่างน้อย 4 คน กลายเป็นการเผชิญหน้ายิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง

ชาวโซมาเลียและชาวต่างชาติจำนวนมากเสียชีวิต โดยนาลาเยห์และสามีนักธุรกิจและอดีตผู้นำท้องถิ่นอย่าง “ฟาริด จามา สุไลมาน” ก็เป็นส่วนหนึ่งของเหยื่อความรุนแรงครั้งนี้

 

นาลาเยห์เกิดที่เมืองลาสอานอด ตอนเหนือของประเทศโซมาเลียในปี 1976 นาลาเยห์ต้องเดินทางพร้อมกับครอบครัวและพี่น้องอีก 11 คนไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศแคนาดา ตั้งแต่เธอมีอายุได้เพียง 6 ขวบ

“พ่อแม่ของฉันรอดชีวิตในประเทศใหม่ เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง และพ่อของฉันระดับผู้ว่าการในโซมาเลีย นั่งรถเบนซ์ไปไหนมาไหน แต่ต้องเริ่มชีวิตใหม่ด้วยการทำงานเป็นพนักงานลานจอดรถ และดูแลลูกๆ 12 คน” นาลาเยห์ระบุ

เมื่อเข้าสู่วัย 30 นาลาเยห์เรียนปริญญาโทด้านสื่อสารมวลชน ก่อนที่ในปี 2014 นาลาเยห์ก่อตั้ง “อินทิเกรชั่นทีวี” นำเสนอผ่านช่องทาง “ยูทูบ” โดยช่องดังกล่าวอธิบายเป้าหมายเอาไว้คือการ “สร้างชุมชุนที่เล่าเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจและยกระดับจิตใจของชาวโซมาเลียทั่วโลก”

นาลาเยห์สร้างชื่อเสียงในด้านการนำเสนอแง่มุบบวกของประเทศโซมาเลีย ประเทศทางตะวันออกของประเทศแอฟริกาที่ตกอยู่ท่ามกลางสงครามอย่างยาวนาน โดยได้รับความนิยมจากชาวโซมาเลียพลัดถิ่นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

นาลาเยห์นำเสนอภาพผู้คน วิถีชีวิตของชาวโซมาเลีย ด้านที่เห็นได้ยากยิ่งจากการถูกนำเสนอผ่านสื่อกระแสหลัก นอกเหนือไปจากสงคราม การกดขี่ทางเพศ หรือการก่อการร้าย

นาลาเยห์ระบุผ่านการสัมภาษณ์ในพอดแคสต์ “มีนนิ่งฟูล เวิร์ก มีนนิ่งฟูล ไลฟ์” เอาไว้ว่า สื่อสังคมออนไลน์นั้น “เปลี่ยนวิธีการที่ผู้คนเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไปโดยสิ้นเชิง”

“หากเราไม่เป็นผู้สร้างเนื้อหาของพวกเราเอง เราก็จะต้องพึ่งพาความเมตตาจากคนอื่นๆ ที่เล่าเรื่องราวของแอฟริกา” นาลาเยห์ระบุ

 

นาลาเยห์มีลูกชายสองคนกับการแต่งงานครั้งก่อนหน้า ก่อนที่จะเลิกรากันไป โดยนักข่าวหญิงแกร่งพูดถึงการต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไว้ด้วยว่า

“สังคมจะตัดสินคุณ” นาลาเยห์ระบุ และว่า “พวกเขาจะดูถูกผู้หญิงที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้ชายดูถูกคุณเพราะพวกเขาคิดว่าคุณจะง่าย พวกเขาคิดว่าจะไม่มีใครยอมจ่ายสินสอดเพื่อแต่งงานกับคุณ เป็นความคิดบ้าๆ ที่มองว่าคุณไม่มีค่าเมื่อคุณหย่าร้าง”

“แต่คุณรู้ไหม เรื่องราวการเดินทางของฉันที่แบ่งปันกับผู้ติดตามซึ่งได้รู้ว่าชีวิตเราเมื่อเกิดอะไรขึ้นแล้ว เราสามารถเริ่มต้นใหม่ เราสามารถเรียนรู้ เติบโต และไม่จำเป็นที่จะต้องรู้สึกละอายแต่อย่างใด” นาลาเยห์ระบุ

นาลาเยห์พบรักใหม่และแต่งงานกับฟาริดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา และเผยแพร่ภาพบรรยากาศฮันนีมูนในประเทศโซมาเลียผ่านอินสตาแกรมของเธอด้วย

อย่างไรก็ตาม นาลาเยห์เคยระบุเอาไว้กับซีบีซี นิวส์ เมื่อปี 2016 ว่า “ใครก็ตามที่มีแรงบันดาลใจทำงานเพื่อช่วยสร้างโซมาเลีย รู้ว่ามีความเสี่ยงต่อชีวิตอยู่เสมอ”

 

ขณะที่นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ระบุถึงนักข่าวผู้ต้องสละชีวิตไปกับเหตุก่อการร้ายล่าสุดในโซมาเลียว่า งานของนาลาเยห์นั้นแสดงให้เห็นเรื่องราวของชาวโซมาเลียในแง่มุมบวก ยกระดับจิตใจ และสร้างแรงบันดาล และเป็นตัวแทนบทบาทสื่อที่มีอิสระในการขยายมุมมองของผู้คนให้กว้างออกไป และเป็นเรื่องราวที่ปกป้องความหลากหลาย และการอยู่ร่วมกันด้วย

“การสูญเสียเธอไปนั้นรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งในแคนาดา ในโซมาเลีย และในวงการสื่อมวลชนทั่วโลก” ทรูโดระบุ