เครื่องเคียงข้างจอ / วัชระ แวววุฒินันท์ / นาฏราช ครั้งที่ 10

วัชระ แวววุฒินันท์

เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์

นาฏราช ครั้งที่ 10

จัดมาจนถึงปีที่ 10 แล้วนะครับ สำหรับงานประกาศรางวัล “นาฏราช” จัดโดยสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์

เท้าความถึงสมาชิกสมาพันธ์ก็คือผู้ประกอบวิชาชีพในอุตสาหกรรมวิทยุและโทรทัศน์ อันได้แก่ สถานีดิจิตอลช่องต่างๆ ที่ก็เป็นสมาชิกกับสมาพันธ์เกือบทั้งหมด ผู้ผลิต และบุคลากรรายบุคคลที่ไม่ได้สังกัดใดๆ

เรียกว่าเป็นการรวมตัวกันของผู้ทำงานทางด้านนี้จริงๆ

รางวัลนาฏราชนี้ยึดคอนเซ็ปต์แบบเดียวกับรางวัลออสการ์คือ “คนในวงการมอบให้คนในวงการ” โดยผู้ตัดสินจะเป็นคนในวงการนี่เองที่เคยได้รับรางวัลต่างๆ มา นั่นแสดงถึงคุณภาพและเกียรติยศที่เขามีอยู่และปรากฏเป็นผลงานที่ชัดเจนได้รับการยอมรับ เมื่อคนเหล่านี้มองว่าเพื่อนร่วมอาชีพคนใดมีความสามารถ สมควรได้รับรางวัล แสดงว่าผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต้องเป็นผู้ที่เหมาะสมจริงๆ

ในปีนี้จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม ถ่ายทอดสดจาก GMM Live House ติดตามชมได้ทางสถานีช่องวัน 31 ตั้งแต่เวลา 17 นาฬิกา จนถึง 2 ทุ่มนั่นเลย

 

งานนาฏราชนี้เป็นงานหนึ่งที่ได้เห็นถึงการรวมตัวรวมใจกันของคนในวงการจริงๆ แม้เวลาตอนทำงานจะต้องแข่งขันกัน แต่ในช่วงเวลาแห่งเกียรติยศนี้ทุกคนก็หันมาจับมือร่วมกัน ชื่นชมกันและกัน

สำหรับผลงานที่ได้รับการโฟกัสมากที่สุดก็หนีไม่พ้นรางวัลทางสายละครโทรทัศน์ ซึ่งในปีนี้เป็นการประกาศรางวัลของผลงานที่ออกอากาศในปี 2561 คือปีที่ผ่านมา และละครที่ดูเหมือนจะมาแรงแห่งปีคือ “บุพเพสันนิวาส” ที่เดินสายกวาดรางวัลทั้งกับตัวละครเองและกับนักแสดงมาแล้วมากมาย สำหรับงานนี้ก็ยังไม่แน่

เพราะเมื่อดูชื่อละครที่เข้าชิงชัยกันแล้ว แต่ละเรื่องก็แข็งแรงและมีจุดเด่นเฉพาะตัวกันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นละครซีรี่ส์แนวใหม่ที่ฮือฮอาอย่าง “เลือดข้นคนจาง” กับวลี “ใครฆ่าประเสริฐ”

กับงานนี้ คุณประเสริฐอาจจะฆ่าพ่อหมื่นก็ได้ ใครจะรู้

หรือละครรสแซบถึงใจพระเดชพระคุณโดยเฉพาะคุณผู้หญิง ที่มีการแสดงอันเข้มข้นอย่าง “เมีย 2018” ที่ก็มีสิทธิ์คว้ารางวัลสำคัญๆ ไปครองได้เหมือนกัน

รวมทั้งละครฟอร์มใหญ่อย่าง “ศรีอโยธยา” ของค่ายทรูโฟร์ยู ที่เป็นโปรดักชั่นใหญ่ วิจิตรสวยงาม และได้รับรางวัลระดับนานาชาติมาแล้ว ก็มีสิทธิ์จะหยิบรางวัลทางด้านโปรดักชั่นไปครองได้ไม่มากก็น้อย

และเมื่อดูในรายละเอียดรางวัลด้านบุคคล ก็อดซี้ดปากตามไม่ได้ เพราะเชือดเฉือนกันจนกรรมการน่าจะหนักใจ

 

รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมที่เข้ารอบมามี เบลล่า ราณี รายนี้มาแน่นอนจากละคร “บุพเพสันนิวาส” แต่อาจต้องสู้อย่างหนักกับบี น้ำทิพย์ จากเรื่อง “เมีย 2018” ส่วนที่บทบาทเข้มข้นเหลือเกินกับตัวละคร “ภัสสร” คือแหม่ม คัทลียา จาก “เลือดข้นคนจาง” โดยมีแพนเค้ก เขมนิจ จาก “ศรีอโยธยา” และรุ่นใหญ่สุด คือ ป๊อก ปิยธิดา จากเรื่อง “ไร้เสน่หา” ร่วมแข่งด้วย

ส่วนนำชายก็ดุเดือดไม่แพ้กัน “พี่หมื่น” โป๊ป ธนวรรธน์ ยืนหนึ่งมาก่อนเลย แต่พระเอกแสนดีอย่างพ่อหมื่นก็อาจต้องลุ้นหนักกับพระเอกเจ้าชู้อย่างป้อง ณวัฒน์ จาก “เมีย 2018” ขณะเดียวกันเลือดข้นคนจางก็มี “กู๋เมศ” แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ ที่แสดงดีเหลือเกินมาเบียดอยู่ติดๆ พร้อมจะฆ่าคนอื่นเหมือนที่เคยฆ่าประเสริฐมาแล้ว ส่วนพระเอกขวัญใจผู้ชมอย่างณเดชน์ ก็ขอแข่งกับเขาด้วยคนจากผลงาน “ลิขิตรัก” ในขณะที่พระเอกตัวจริงของเบลล่า คือ เวียร์ ศกลวัฒน์ ก็ฝากผลงาน “สัมปทานหัวใจ” ไว้โดดเด่นจนติดโผเข้ามาให้ลุ้นเช่นกัน

สำหรับปีที่แล้ว ผู้ที่ได้นำชายไปครองคือ ต่อ ธนภพ จากโปรเจ็กต์เอส เดอะซีรี่ส์ ตอน “พี่น้องลูกขนไก่”

นั่นเป็นเครื่องแสดงว่าละครฟอร์มใหญ่ก็อาจจะพ่ายให้กับละครฟอร์มเล็กแต่แจ๋วได้เหมือนกัน

 

มาดูสมทบหญิงบ้าง สาขานี้ก็โหดไม่เบา ติดมา 5 คนนั้นเป็นรุ่นใหญ่กระดูกชิ้นโตถึง 3 คือ ตั๊ก มยุรา จาก “รูปทอง”, ก้อย ทาริกา จาก “ริมฝั่งน้ำ” และ นก สินจัย จาก “ศรีอโยธยา” ส่วนอีก 2 เป็นรุ่นกลาง 1 และรุ่นใหม่ 1 คือ อุ๋ม อาภาศิริ จาก “เลือดข้นคนจาง” และ มารี เบรินเนอร์ จาก “เมีย 2018”

ผมว่าเป็นรางวัลที่ตัดสินยากมากทีเดียว

ส่วนสมทบชายนั้น ผู้ได้นำชายคราวที่แล้วคือ ต่อ ธนภพ ปีนี้เปลี่ยนมาลุ้นสมทบบ้างกับเรื่อง “เลือดข้นคนจาง” ที่บทดีจนอาจส่งต่อขึ้นเวทีรับรางวัลอีกหน โดยมี พชร จิราธิวัฒน์ กับบทคนติดยาจากละคร “ข้ามสีทันดร” มาแข่งด้วย ส่วนสามีแห่งชาติคือ ฟิล์ม ธนภัทร มาให้แม่ยกได้แอบลุ้นจาก “เมีย 2018” อีก 2 รายเป็นรุ่นกลาง 1 และรุ่นใหญ่ 1 คือ ก็อต จิรายุ ไม่ใช่จากบุพเพสันนิวาส แต่จากละคร “คมแฝก” จ้า ส่วนรุ่นใหญ่คือ พ่ออี๊ด สุประวัติ จากละคร “ริมฝั่งน้ำ” ที่อาจจะถึงฝั่งและคว้ารางวัลไปก็ได้ใครจะรู้

เป็นไงครับ เชียร์ใครลุ้นใครดี น่าเชียร์กันทั้งนั้น วันที่ 21 นี้ได้รู้กัน

 

รางวัลอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่น้อย โดยมีรางวัลประเภทละครทั้งหมด 14 รางวัล และรางวัลทางด้านรายการอีก 14 รางวัล โดยเฉพาะทางด้านรายการประเภทข่าวนั้นแข่งขันกันเข้มข้น เพราะสถานีทุกช่องให้ความสำคัญกับรายการข่าวกันมาก

ส่วนรางวัลสำหรับวิทยุ ปีนี้เพิ่มขึ้นมาจากเดิม 6 รางวัล เป็น 9 รางวัล โดยเป็นครั้งแรกที่มีการมอบรางวัลให้กับสถานีวิทยุบนแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย จะเห็นว่าแม้แต่รางวัลยังต้องปรับตัวตามพฤติกรรมและเทคโนโลยีการสื่อสารด้วย

ความพิเศษอย่างหนึ่งของรางวัล “นาฏราช” คือ ไม่มีใครได้ทราบผลก่อนเลย แม้แต่คณะกรรมการของสมาพันธ์เองก็ได้ทราบพร้อมกับผู้ชมทั้งประเทศเหมือนกัน เพราะผู้เก็บรวบรวมคะแนนคือ Pricewaterhouse Coopers เป็นผู้ทราบผลผู้เดียว และจะส่งผลนั้นให้กับผู้จัดสดๆ บนเวที

ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับรางวัลออสการ์นั่นเอง

 

นอกจากรางวัลทั้งหมด 37 รางวัลแล้ว ความน่าสนใจของงานนี้อยู่ที่โชว์บนเวทีด้วย ที่ทุกปีจะจัดขึ้นมาแบบใส่ครีเอทีฟ มีการบอกเล่าถึงความเคลื่อนไหวของวงการแบบหยิกแกมหยอก หรือมีการพูดถึงการเข้าชิงรางวัลอย่างสร้างสรรค์ ตื่นตาตื่นใจชวนติดตาม

อย่าลืมชมกันนะครับ

ย้ำอีกทีวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม เริ่มเวลา 5 โมงเย็นทางช่องวัน 31 กับงานประกาศรางวัล “นาฏราช ครั้งที่ 10”