6.Descendants of the Sun

Descendants of the Sun หรือในชื่อภาษาไทย ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ ซีรี่ส์เกาหลีชื่อดังที่ถ่ายทอดเนื้อหาของเหตุการณ์ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างพลทหารหนุ่ม ยูซีจิน (Yoo Si-jin) รับบทโดย ซงจุงกิ (Song Joong-ki) และแพทย์สาว คังโมย็อน (Kang Mo-yeon) รับบทโดย ซองเฮเคียว (Song Hye-kyo)

ความนิยมอย่างสุดขีดของซีรี่ส์เรื่องนี้ในช่วงเวลานั้นยังส่งผลให้ซงจุงกิ กลายเป็นสามีแห่งชาติในช่วงเวลาหนึ่ง

ทั้งยังทำให้ชื่อดาราเกาหลีรายนี้ขึ้นแท่นชื่อบุคคลที่มีการค้นหามากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของ Google ประจำปี 2016 ของประเทศไทยอีกด้วย

ครั้งหนึ่งในรายการ คืนความสุขให้ประเทศไทย “ลุงตู่” หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังเคยกล่าวเชิงชื่นชมซีรี่ส์เรื่องนี้ว่าเป็นซีรี่ส์ที่ดี สอนให้คนรักชาติ

ที่สำคัญ Descendants of the Sun ยังกลายเป็นคำค้นหายอดนิยมที่สุดอันดับหนึ่งประจำปี 2016 ในประเทศไทย

5.Your Name

Your Name (Kimi no Na wa) หรือชื่อภาษาไทย “หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ” คือแอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่มีเรื่องราวปาฏิหาริย์ระหว่างของคนสองคน มิตสึฮะ (โมเนะ คามิชิราอิชิ) เด็กสาวผู้อาศัยอยู่ในชนบทแต่มีความฝันที่อยากไปใช้ชีวิตในเมืองกรุง

และ ทากิ (ริวโนะสุเกะ คามิกิ) เด็กหนุ่มในโตเกียวผู้ทำงานพิเศษที่ร้านอาหารอิตาเลียน และสนใจในงานด้านศิลปะ

Your Name สร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับแอนิเมชั่นญี่ปุ่นเรื่องไหนที่เข้าได้เข้ามาฉายในไทยมาก่อน

นั่นก็คือ “ผู้ชมเต็มแน่นถึงแถวหน้า”

แฟนเพจ Major Cineplex ประกาศว่ารายได้เปิดตัววันแรกของ Your Name นั้นพุ่งทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 Box Office ในประเทศไทย ด้วยรายได้เปิดตัว 3.41 ล้านบาท มากกว่าภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง Inferno ที่ทำรายได้ไป 2.81 ล้านบาท ทั้งที่ฉายด้วยโรงที่จำกัด และจำนวนรอบที่น้อยกว่า

จนสุดท้ายก็ทำรายได้ไปมากกว่า 50 ล้านบาท!

ไม่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น Your Name ยังสร้างปรากฏการณ์ระดับนานาชาติ

เพราะนอกจากทำรายได้รวมในญี่ปุ่นไปแล้วกว่า 17,969 ล้านเยน (เกือบ 6,000 ล้านบาท) ในระยะเวลาฉายรวม 11 สัปดาห์

แอนิเมชั่นเรื่องนี้กำลังได้รับพิจารณาให้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 89 สาขา Best Animated Feature หรือภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมอีกด้วย

บางคนถึงกับบอกว่าหรือ มะโกะโตะ ชินไค ผู้กำกับฯ แอนิเมชั่นเรื่องนี้คือ สตูดิโอจิบลิ 2 ที่กำลังจะสร้างความหวังอีกครั้งให้กับวงการการ์ตูนญี่ปุ่น

4.พิษสวาท เพื่อนรักเพื่อนร้าย ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ และ I HATE YOU I LOVE YOU

ปีนี้ถือเป็นปีทองของซีรี่ส์ที่ไม่ได้ฉายในช่องทีวีกระแสหลักก็ว่าได้ เพราะซีรี่ส์ที่ฉายตามช่องทีวีดิจิตอลของฝั่งแกรมมี่กับสร้างกระแสได้อย่างถล่มทลายถึง 3 เรื่อง ไล่ตั้งแต่ พิษสวาท ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ และเพื่อนรักเพื่อนร้าย

โดยเฉพาะเพื่อนรักเพื่อนร้าย ซีรี่ส์ยอดนิยมขนาดความยาว 15 ตอนในตระกูล Club Friday จากช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ที่บอกเล่าเรื่องราวการชิงรักหักสวาทของสองเพื่อนรัก การ์ตูน (กิ๊บซี่-วนิดา เติมธนาภรณ์) และ เชอรี่ (สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข) ดุเด็ดเผ็ดแซบ จนใครๆ ก็ต้องตามดูกันทั่วประเทศ

แม้จะมีเสียงค่อนขอดวิพากษ์วิจารณ์ฉาก “ข่มขืน” ในซีรี่ส์เรื่องนี้อยู่บ้างก็ตาม แต่ก็กลายเป็นคำค้นหายอดนิยมที่สุดอันดับห้าประจำปี 2016 ในประเทศไทย

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือซีรี่ส์ 5 ตอนจบแนวสีบสวนสอบสวน I HATE YOU I LOVE YOU ที่สร้างกระแส #ใครฆ่านานะ จนโด่งดังทั่วประเทศ

ไม่เพียงไม่ได้ฉายในช่องทีวีกระแสหลักเท่านั้น แต่ยังฉายบน LINE TV เป็นที่แรกก่อน ซึ่งก็สำเร็จเป็นอย่างดีมียอดผู้ชมมากมาย

สะท้อนว่าคนไม่ได้ยึดติดกับแพลตฟอร์ม

หากคอนเทนต์ดี น่าสนใจ ก็พร้อมที่จะย้ายไปดูที่อื่น

3.ชิบูยาโทสต์ “ชาเย็น” และอัฟเตอร์ยูเข้าตลาดหุ้น

จากร้านเล็กๆ ในย่านทองหล่อ สู่ 15 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล After You เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นที่เรียบร้อย

สำหรับผม After You ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์ขนมหวานที่ประสบความสำเร็จ แต่เป็นถึงผู้บุกเบิกวัฒนธรรมคาเฟ่ขนมในประเทศไทยเลยก็ว่าได้

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา After You จุดกระแสที่ทำให้คนไทยแห่กันมาต่อคิวรอเป็นชั่วโมงเพื่อลิ้มลอง “ชิบุยะ ฮันนี่โทสต์” (Shibuya Honey Toast) ซึ่งกลายมาเป็นเมนูยอดฮิตที่แทบทุกร้านต้องมี เลยเถิดจนไปถึงร้านสะดวกซื้อที่ต้องบรรจุเมนูนี้เข้าไปด้วย

After You ทำให้เกิดวัฒนธรรม “คาเฟ่ขนม” ในประเทศไทยแพร่หลายเป็นเรื่องปกติ

ปีนี้ก็ได้เปิดตัวเมนูใหม่ถึง 3 เมนู “ชิบุย่าโทสต์” “คากิโกริ” และ “ชานมผสมเฉาก๊วย” ออกมาเอาใจคนรัก “ชาไทย” โดยเฉพาะ

ซึ่งผมไปยืนต่อคิวทีไรก็รอเป็นชั่วโมงทุกที เคยได้บัตรคิวที่ 97 ด้วย!

ข้อมูลจาก บมจ.หลักทรัพย์ ทิสโก้ ระบุว่า รายได้จากการขายและกำไรสุทธิของบริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ปี 2556 รายได้จากการขาย) อยู่ที่ 189 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่ 3 ของปี มีรายได้จากการขาย 439 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท

After You เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก จำนวน 165 ล้านหุ้น เปิดตลาดที่ 11.50 บาท จากราคา IPO ที่ 4.50 บาท และปิดที่ 13.50 เพิ่มขึ้น 9 บาท (+200%) มูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 3,431 ล้านบาท

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเปิดตัวได้สวยขนาดนี้แล้ว อนาคตจะหวานหอมเหมือนชิบูย่าโทสต์หรือไม่

2.PPAP

หากกังนัมสไตล์คือเพลงสุดป๊อปที่สุดแห่งปี 2012 เพลง PPAP ก็คือเพลงที่มีความเป็นไวรัลมากที่สุดแห่งปี 2016

Pen Pineapple Apple Pen (PPAP) คือเพลงที่แต่งโดย Pikotaro หรือชื่อจริง Kazuhiko Kosaka เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชั่วข้ามคืน จนหลายคนสงสัยว่า “นี่มันเพลงอะไรของมันวะ!” เพราะดูเหมือนจะไม่มีสาระหรือเนื้อหาอะไรเลย แค่มีคุณลุงหน้าตาตลกๆ มาร้องว่า “I have a pen, I have a apple / Uh! Apple-Pen! / I have a pen, I have pineapple / Uh! Pine-apple-Pen!”

แต่ทว่าด้วยท่อนฮุกที่ติดหู ร้องตามง่าย มีความประหลาดปนตลก ก็ทำให้คนทั่วโลกนำไปคัฟเวอร์เป็นสไตล์ของตัวเองมากมาย

เพลงนี้มีต้นทุนเพียง 100,000 เยน (ประมาณ 33,000 บาท) โดยค่าใช้จ่ายหลักคือการเช่าสตูดิโออัดเสียง

Pikotaro บอกว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้หลังจากเห็นสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะ นั่นคือ ปากกา แอปเปิ้ล และสับปะรดกระป๋อง

ความสำเร็จของกระแสนี้นำมาซึ่งการตัดสินใจทำเพลงนี้ใหม่อีกครั้ง โดยเพิ่มช่วงเต้น และมีการแต่งเนื้อเพลงเพิ่มนิดหน่อย ความยาวของ Long Version นี้อยู่ที่ประมาณ 2 นาที จากเดิมที่สั้นเพียง 45 วินาที

เพลง PPAP ของ Pikotaro ไม่ได้สำเร็จแค่ในแง่ของความป็อบปูลาร์เท่านั้น แต่ Guinness World Records ก็ยังมอบรางวัลให้เขาเช่นกัน โดยรางวัลที่เขาได้รับคือ “เพลงที่สั้นที่สุดในโลกที่ติดอันดับชาร์ตเพลง Billboard Hot 100”

นอกจากนี้ เขายังประกาศด้วยว่าได้ทำการเซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง SONY/ULTRA และ CNR Records จนมีอัลบั้มของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย

1.โปเกมอน โก

Pokemon GO ทำลายสถิติและสร้างตัวเลขมหัศจรรย์ไว้มากมาย ไล่ตั้งแต่จำนวนยอดผู้ใช้ต่อวันสูงสุด 23 ล้านคนต่อวัน ยิ่งใหญ่กว่าเกม Candy Crush

มียอดดาวน์โหลดกว่า 100 ล้านครั้ง โดยถ้านับแค่สัปดาห์แรกที่เปิดตัว มีคนดาวน์โหลด 10 ล้านครั้ง ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ app stores เคยเปิดใช้บริการ

ยอดคนใช้เวลาอยู่ในแอพ 43 นาทีต่อวัน มากกว่าเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์

ทำรายได้ไปแล้วรวมมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ และปั๊มเงินได้ 10 ล้านดอลลาร์ต่อวันในช่วงฮ็อตๆ

แม้ว่ากระแสของโปเกมอน โก จะตกลงในเวลาไม่นาน เพราะผู้สร้างนั้นไม่สามารถคว้าโอกาสทองนี้ไว้ได้ทันท่วงที แต่สำหรับผม ปรากฏการณ์ Pokemon Go ก็ยังเหนือกว่าวัฒนธรรมป๊อปอื่นๆ

โปเกมอน โก คือเกมแห่งยุคสมัย คือผู้ผลิกวงการ Augmented Reality คือแอพพลิเคชั่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรอบหลายปี คือปรากฏการณ์ที่สั่นสะเทือนไปทั้งโลก และคือเกมแห่งโลกเสมือนที่ข้ามมาปั่นป่วนโลกแห่งความจริง สร้างผลกระทบสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว

สำหรับผม Pokemon GO คือวัฒนธรรมป๊อปแห่งปี และเผลอๆ อาจพูดได้ว่าปรากฏการณ์นี้คือหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดแห่งยุค

ไม่ต่างจากตอนที่ สตีฟ จ็อบส์ เปิดตัวไอโฟน หรือ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ค คิดค้นเฟซบุ๊ก