เมื่อผู้นำมีความเชื่อมั่นสูงยิ่งว่าตัวเองเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประเทศในยุคนี้

ราคา “การเลือกตั้ง”

แม้จะยอมให้นำการเมืองกลับสู่การเลือกตั้ง เพื่อสร้างสถานะนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตัวเอง อันจะทำให้ภาพลักษณ์ผู้นำทั้งต่อภายในประเทศ และต่างประเทศมีข้ออ้างที่จะทำให้เชื่อว่าได้รับการยอมรับมากขึ้น

แต่ก่อนหน้านี้ปรากฎท่าทีที่ไร้ความกระตือรือร้นที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จโดยเร็ว เหมือนอย่างธรรมเนียมปฏิบัติที่เป็นมา สะท้อนให้เกิดมุมมองว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ไม่ได้จริงจังอะไรนักกับความต้องการเป็นผู้นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

เหมือนกับว่าในความรู้สึกนึกคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เห็นความจำเป็นอะไรนักหนากับการที่ประเทศต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารจัดการ

ตราบใดที่ยังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะเป็นรัฐบาลแบบไหนก็ไม่ต่างกัน คล้ายจะมีความเชื่อมั่นสูงยิ่งว่าตัวเองเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประเทศในยุคสมัยเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม สภาวะที่เป็นอยู่ พล.อ.ประยุทธ์น่าเห็นใจไม่น้อย ด้วยดูเหมือนว่าผู้อยู่ในรายชื่อคณะรัฐมนตรีเต็มไปด้วยความน่ากังขาในคุณภาพ และคุณสมบัติอันเหมาะสมอื่น

จนทำให้เกิดความรู้สึกโดยรวมว่าไม่น่าจะเป็นความหวังอะไร สำหรับประเทศในโลกยุคปัจจุบันที่การแข่งขัน ชิงไหวชิงพริบในการสร้างความโดดเด่นที่เหนือกว่ามีสูงยิ่ง

เป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์มีความมั่นใจในตัวเองสูงยิ่งว่าเป็นที่ต้องการของประชาชน ที่ไม่แสดงความยินดีปรีดากับ ครม.ชุดใหม่ เพราะเหตุของคุณสมบัติคนที่มาร่วมรัฐบาลอย่างที่ว่า

แต่นั่นเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องหรือไม่

ประชาชนมั่นใจในตัว พล.อ.ประยุทธ์ถึงระดับที่ไม่เกี่ยงว่าจะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีด้วยคุณภาพแบบไหนจริงหรือ

เมื่อไม่กี่วันมานี้ “นิด้าโพล” ทำสำรวจเรื่อง “รู้สึกอย่างไรกับปัญหาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)” หลังที่มีข่าววางเกมแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันเละเทะ

ในการสำรวจนี้คำถามหนึ่งว่า “เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรดำเนินการทางการเมืองอย่างไรในอนาคต” เป็นคำถามที่เปิดให้ตอบได้หลายข้อ

ผลที่ออกมาคือร้อยละ 44.59 บอกว่า ควรให้ความสำคัญกับการบริหารประเทศมากกว่าปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ, ร้อยละ 28.53 บอกหากมีปัญหามากก็ลาออกเลิกเป็นนายกรัฐมนตรี, ร้อยละ 24.14 บอกหากมีปัญหามากนักก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่, ร้อยละ 22.50 ให้แบ่งอำนาจให้เหมาะสมเพื่อความอยู่รอดของรัฐบาล, ร้อยละ 12.84 ให้ใช้อำนาจอย่างเด็ดขาด แม้อายุรัฐบาลจะสั้น

นี่เป็นคำตอบหลักๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าความมั่นใจในตัวเองของ พล.อ.ประยุทธ์ว่าเป็นที่ต้องการของประชาชน โดยคุณภาพคณะรัฐมนตรีไม่มีราคาที่จะมาทำให้เกิดผลกระทบสักเท่าไรนั้น ดูจะเป็นจริงอยู่ไม่น้อย

ด้วยผลของโพลส่วนใหญ่เลือกตอบในทางที่ไม่ได้ให้ราคากับนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งสักเท่าไร

สภาวะเช่นนี้ย่อมเป็นผลดีต่อ พล.อ.ประยุทธ์

แต่สำหรับนักการเมืองจากการเลือกตั้งแล้วน่าคิด

และน่าคิดเลยไปถึงว่า ระบอบประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งของประชาชน จะมีชะตากรรมอย่างไร ในอนาคตการเมืองไทย