แมลงวันในไร่ส้ม /สนามผู้ว่าฯ กทม. ‘บิ๊กเนม’ ขยับตัว คาดแข่งเดือดแน่

แมลงวันในไร่ส้ม

สนามผู้ว่าฯ กทม.

‘บิ๊กเนม’ ขยับตัว

คาดแข่งเดือดแน่

อีกข่าวที่กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ในพื้นที่สื่อ ได้แก่ การเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการ กทม. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. ที่จะเกิดขึ้นปลายปี 2562 ไปจนถึงต้นปี 2563

หลังจากเว้นว่างมา 5 ปี ขณะนี้พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไหวตัวเตรียมพร้อมกันอย่างคึกคัก รอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาเคาะวันเลือกตั้งที่ชัดเจน

เก้าอี้แรกๆ ที่สปอตไลต์ฉายส่องได้แก่ ผู้ว่าราชการ กทม. ที่ขณะนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. นั่งทำหน้าที่อยู่

ระยะหลัง พรรคประชาธิปัตย์ครองสนามนี้ โดยเอาชนะผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยถึงสองสมัย

แต่สถานการณ์ในปีนี้ น่าจะเปลี่ยนไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง

คนกรุงเทพฯ จะเลือกผู้ว่าฯ แบบไหน หลังจากเว้นว่างมา 5 ปี และการเมืองภาพรวมเป็นการกลับมาของรัฐบาล คสช.ผสมกับพรรคการเมือง

ข้อสังเกตที่น่าสนใจมาจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า คนกรุงเทพฯ ชอบเลือกผู้ว่าฯ กทม. ตรงข้ามกับรัฐบาล

น่าสนใจว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น คนกรุงเทพฯ จะเลือกผู้สมัครจากกลุ่มตรงข้ามรัฐบาล หรือจะเลือกด้วยเหตุผลปัจจัยอื่น

 

ชื่อแรกๆ ที่มาแรงสำหรับสนามนี้ คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย

นายชัชชาติสร้างชื่อจากบทบาท รมว.คมนาคมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ด้วยภาพลักษณ์เรียบง่าย ภาพถ่ายชุดออกกำลังกาย ถือถุงแกงเตรียมไปถวายพระ กลายเป็นสัญลักษณ์ของ รมต.แข็งแกร่งสุดในปฐพี

เป็นเจ้าของโปรไฟล์การศึกษาที่สมบูรณ์แบบ จบวิศวะจากจุฬา และปริญญาโทวิศวกรรมโครงสร้างจากเอ็มไอที สหรัฐอเมริกา และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ สหรัฐ

มีบุคลิกง่ายๆ สื่อสารกับคนทุกระดับในแบบไม่มีพิธีรีตอง ทำให้ชื่อของชัชชาติเป็นที่หวาดหวั่นของคู่แข่ง

ในพื้นที่ข่าวออนไลน์ เมื่อ 5 กรกฎาคม นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่จะส่งนายชัชชาติลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เพราะเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีความเหมาะสมมากๆ

แต่ก็จำเป็นจะต้องถามความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนด้วย ทั้งนี้ รู้สึกยินดีมากๆ หากนายชัชชาติจะตอบรับที่จะลงสมัครในนามพรรค พท. เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นว่า พรรคจะได้รับชัยชนะในการชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

ตามมาด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยหมาดๆ กล่าวทำนองเดียวกันว่า ส่วนตัวเห็นว่า สำหรับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. นายชัชชาติเหมาะสมที่สุด ทั้งเรื่องของคุณสมบัติ ความสามารถ รวมถึงประสบการณ์

หากนายชัชชาติตอบรับที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคก็พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่

 

ยังมีชื่อเด่นๆ ที่ปรากฏขึ้นมาหยั่งเสียงชาวกรุง คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ผู้โด่งดังมาจากการช่วย 13 หมูป่าถ้ำหลวง อันเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก รวมไปถึง พล.ต.อ.อัศวิน

สำหรับนายอภิสิทธิ์ หากลงสมัครจริง ก็นับว่าเป็นผู้สมัครที่แข็งแกร่งไม่น้อย เพราะสมัยที่ลง ส.ส.เขตใน กทม.ไม่เคยสอบตก แต่หลังจากผ่านการเมืองมายาวนาน ความสดอาจจะย่อหย่อนลงไป

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เผยว่า ส่วนตัวเชื่อว่านายอภิสิทธิ์คงไม่สนใจกับการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.แน่นอน

เพราะยังมีศักยภาพในการรับใช้ชาติบ้านเมืองในตำแหน่งอื่นๆ ได้อีกมากมาย และพรรคประชาธิปัตย์ยังมีสมาชิกพรรคที่มีคุณภาพสูง สามารถลงแข่งขันในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.อีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็นนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายกรณ์ จาติกวณิช นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ หรือคนรุ่นใหม่อย่างนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นต้น

ส่วนนายณรงค์ศักดิ์มีข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐทาบทามมาให้ลงสมัครในนามพรรค แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน

 

อีกพรรคที่ยังไม่ได้ขยับมากนัก คือพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหากมีผู้สมัครที่เหมาะๆ อาจสร้างปรากฏการณ์ได้เหมือนกัน ด้วยฐานเสียงคนรุ่นใหม่ที่พร้อมสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีชื่อของนายชัชชาติขึ้นมา พรรคอนาคตใหม่อาจเลี่ยงไปทุ่มกำลังในสนามนายก อบจ.ในจังหวัดต่างๆ อาจคุ้มค่ากว่ามาทำศึกใหญ่กับพรรคที่ถือว่า เป็นพันธมิตรกันในขณะนี้

การเลือกตั้งครั้งนี้ น่าจะอยู่ในความสนในของประชาชนไม่เฉพาะคนกรุงเทพฯ แต่ทั่วประเทศจะต้องจับตา เพราะจะชี้ทิศทางการเมืองหลายเรื่องด้วยกัน

ดังที่นายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระบุว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเชื่อว่าประชาชนใน กทม.จะให้ความสนใจมากกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา เพื่อเลือกคนดีมีความสามารถจริงๆ ไม่มีปัญหาด่างพร้อยไปทำหน้าที่

นายอัษฎางค์ยังเสนอว่า ให้ฝ่ายค้าน 7 พรรคตัดสินใจมีมติส่งผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดเข้าชิงตำแหน่งเพียงคนเดียว เพื่อให้มีเอกภาพในการกำหนดนโยบาย สำหรับพรรคพลังประชารัฐประเมินว่าอาจจะสนับสนุนผู้ว่าฯ คนปัจจุบัน คือ พล.ต.อ.อัศวินลงแข่ง เพราะผู้ว่าฯ หมูป่าน่าจะขาดคุณสมบัติมีทะเบียนบ้านใน กทม.ไม่ครบกำหนดเวลาตามกฎหมายใหม่

อดีตคณบดีรัฐศาสตร์ ยังวิเคราะห์ว่า ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ที่ผู้สมัครสูญพันธุ์ไปจากสนาม กทม.ในการเลือกตั้ง ส.ส. เชื่อว่ายังหาตัวผู้สมัครยากและต้องติดตามว่าแนวทางที่หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ไว้กับประชาชนจะทำได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะแนวทางการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่ามีเหตุใดผลใดที่ทำให้มีการเบี่ยงเบนประเด็นไปจากคำสัญญาที่พูดไว้

นายอัษฎางค์ชี้ด้วยว่า หากนายชัชชาติจะลงสมัคร ควรชิงเปิดตัว น่าจะได้รับกระแสนิยมจากคนรุ่นใหม่ ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ควรหลีกทางให้นายชัชชาติลงแข่งคนเดียวในนาม 7 พรรคฝ่ายค้าน

ส่วนประชาธิปัตย์ประเมินว่าไม่ต้องการส่งคนลงแข่งผู้ว่าฯ แต่จะส่งทีม ส.ก. เพราะการทำงานกับรัฐบาลในระยะสั้น หากผลงานยังน้อยถือว่ามีความเสี่ยงจะสูญพันธุ์เพิ่ม ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายกรณ์ จาติกวณิช ยังไม่ใช่ทางเลือกสำหรับสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

นั่นคือบรรยากาศเร้าใจของสนามผู้ว่าฯ กทม. ที่มีโจทย์ท้าทาย โดยเฉพาะพรรครัฐบาล ที่ไม่ต้องการเสียพื้นที่ใจกลางประเทศนี้ให้ฝ่ายค้าน