วิธีบริหารการเงินเมื่อเป็นเศรษฐีแบบไม่ทันตั้งตัว ประมาณว่าถูกรางวัลที่1

พิศณุ นิลกลัด

บทความเก่าแต่เราอยากให้อ่านอีกครั้ง

เคยคิดอยากถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 บ้างไหมครับ?

มีคนช่างสังเกตบอกว่าเวลาเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ สินค้าเกือบทุกประเภทยอดขายตก แต่ล็อตเตอรี่ขายดียิ่งขึ้น ผู้คนยอมประหยัดทุกอย่างเพื่อเอาเงินมาเสี่ยงโชค

ในชีวิตคนเรานั้น ว่ากันว่าโอกาสที่จะโดนฟ้าผ่าหรือประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินมีมากยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1!

การถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1 เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ถ้าโชคดีถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 การรักษาลาภลอยที่ได้มาอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้นยากพอๆ กัน

จากสถิติของสหรัฐอเมริกาได้ตัวเลขว่าเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ของคนถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 กลายเป็นคนหมดเนื้อหมดตัวภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยมีญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเป็นตัวต้นเหตุทำให้ยากจน

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินแนะนำว่า สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกล็อตเตอรี่มหาศาลก็คืออุบเงียบ

ที่ประเทศอิสราเอล เวลามีพิธีมอบเงินให้กับผู้ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ไม่ว่าจะเป็นใครเขามีการใส่หน้ากากคนได้รางวัลเพื่อให้คนจำหน้าไม่ได้!

หลังจากหายตื่นเต้นดีใจ และตั้งสติได้ ก็ควรบริจาคเงิน 10 เปอร์เซ็นต์เพื่อการกุศล

จากนั้นควรหาที่ปรึกษาวางแผนด้านการเงิน เพราะคนที่เป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืนส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารเงินจำนวนมหาศาล การได้เงินจำนวนมากจากโชคนั้นทำให้ไม่รู้จักคุณค่าของเงิน ต่างจากการหามาด้วยการทำงาน

 

การตัดสินใจผิดพลาดอย่างแรกของคนถูกล็อตเตอรี่คือลาออกจากงาน ตามมาด้วยการซื้อบ้านหลังใหญ่ รถราคาแพง แจกจ่ายเงินให้พี่น้อง เพื่อนฝูง และลงทุนทางธุรกิจซึ่งมักจะล้มเหลว

เมื่อไม่รู้จักวางแผนการใช้เงิน ไม่ทำงาน ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มีแต่เงินออกไม่มีเงินเข้า เงินมหาศาลก็จะหมดลงภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี

อัลเลน และ ไวโอเล็ต ลาร์จ คู่สามีภรรยาชาวแคนาดาถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 11.2 ล้านดอลล่าร์แคนาดา หรือ 330 ล้านบาท ได้รับเช็คเงินรางวัลเมื่อวันที่ 21 กรกฏาคมที่ผ่านมา เวลาผ่านไปเพียงแค่ 4 เดือน ทั้งสองคนใช้เงินกว่าสามร้อยล้านบาทเกือบหมดแล้ว แต่ได้รับการยกย่องและเป็นข่าวดังอยู่ขณะนี้ เพราะทั้งคู่ใช้เงินไปกับการบริจาคเพื่อการกุศล

 

อัลเลน วัย 75 ปี และไวโอเล็ท วัย 78 ปี ซึ่งใช้ชีวิตร่วมกันมา 36 ปี เล่าว่า ตอนถูกล็อตเตอรี่ใหม่ๆ ชีวิตมีแต่เรื่องปวดหัว เพราะได้รับการติดต่อจาก 18 มงกุฏจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งสองคนบอกว่า ไม่ต้องการนำเงินไปซื้อของฟุ่มเฟือยให้ตัวเอง เพราะเห็นตรงกันว่าทำไมจะต้องใช้เงินไปกับการซื้อข้าวของในเมื่อมีทุกอย่างที่ต้องการครบถ้วนแล้ว ทั้งคู่จึงเริ่มแจกเงินให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูง และต่อมาบริจาคเงินเกือบทั้งหมดให้กับสถานีตำรวจดับเพลิง, สภากาชาด, โบสถ์, สมาคมทหารผ่านศึก และโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับเงินบริจาคมากเป็นอันดับต้นๆ คือโรงพยาบาลที่ไวโอเล็ตเข้ารักษาโรคมะเร็งอยู่ในตอนนี้

หลังจากบริจาคเงินไวโอเล็ทและอัลเลนบอกว่ารู้สึกดีใจทุกครั้งเมื่อได้รับโทรศัพท์หรือจดหมายขอบคุณจากองค์กรที่ได้รับเงินบริจาค

ปลื้มใจที่เงินรางวัลที่ได้จากการถูกล็อตเตอรี่สามารถทำประโยชน์ให้สังคม

ไวโอเล็ตและอัลเลนเก็บเงินรองรังเผื่อยามฉุกเฉินไว้ประมาณ 6 ล้านบาท แต่ไม่คิดที่จะเอาไปใช้ฟุ่มเฟือย โดยบอกว่าสิ่งใดที่ไม่เคยมี ก็ไม่เคยรู้สึกว่าขาดสิ่งนั้น

ทุกวันนี้ไวโอเล็ตและอัลเลนยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ หลังเดิมที่มีอายุ 147 ปี ใช้รถคันเก่าที่ใช้มากว่า 20 ปี

อัลเลนบอกว่า เงินที่ได้จากการถูกลอตเตอรี่ไม่มีความหมายอะไร เพราะชีวิตมีสิ่งที่มีค่ามากที่สุดอยู่แล้วนั่นคือมีกันและกัน