อเล็ก ซิกลีย์ ผู้หลงใหลเกาหลีเหนือกับข้อหา “สายลับ”

อเล็ก ซิกลีย์ นักศึกษาชาวออสเตรเลียวัย 29 ปีในเกาหลีเหนือตกเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเมื่อทางการออสเตรเลียเปิดเผยว่า ซิกลีย์หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา

ทางการออสเตรเลียสงสัยว่าซิกลีย์อาจถูกทางการเกาหลีเหนือจับกุมตัวไป หลังจากได้รับแจ้งจากญาติและเพื่อนฝูงว่า ซิกลีย์ขาดการติดต่อไปเป็นเวลาราว 2 วัน

จนกระทั่งรัฐบาลออสเตรเลียเปิดเผยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าซิกลีย์ถูกปล่อยตัวออกมาแล้วจากการประสานงานของสถานเอกอัครราชทูตสวีเดนในเกาหลีเหนือ

เวลาต่อมา สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ สำนักข่าวกระบอกเสียงของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานว่า ซิกลีย์มีพฤติการณ์สายลับจารกรรมข้อมูลของทางการเกาหลีเหนือ และส่งข้อมูลให้กับสำนักข่าวที่มีแนวคิดต่อต้านเกาหลีเหนือ

เคซีเอ็นเอระบุว่า เกาหลีเหนือปล่อยตัวซิกลีย์ออกมาบนพื้นฐานมนุษยธรรม และว่า ซิกลีย์นั้นสารภาพผิดอย่างจริงใจจากการรุกล้ำอำนาจอธิปไตยในเกาหลีเหนือ

แน่นอนว่านั่นเป็นคำถามตามมาว่า แท้จริงแล้ว “อเล็ก ซิกลีย์” เป็นใครกันแน่?

 

ข้อมูลเบื้องต้นจากสำนักข่าวโลกตะวันตกระบุว่า ซิกลีย์เป็นนักศึกษาปริญญาโทด้านวรรณกรรมเกาหลี ที่มหาวิทยาลัยคิม อิล ซุง ในกรุงเปียงยาง และเป็นเจ้าของธุรกิจทัวร์เพื่อการศึกษาในเกาหลีเหนือ

ซิกลีย์พูดภาษาเกาหลีได้อย่างเชี่ยวชาญ เป็นชาวตะวันตกเพียงไม่กี่รายที่สามารถใช้สื่อโซเชียลมีเดียในเกาหลีเหนือ ซึ่งเชื่อว่าจะต้องผ่านการตรวจสอบและจับตาจากรัฐบาลเกาหลีเหนืออย่างละเอียด

ทวิตเตอร์ของซิกลีย์ @AlekSigley ที่โพสต์ภาพและเรื่องราวการใช้ชีวิตในเกาหลีเหนือของตนเอง ในฐานะหนึ่งในอภิสิทธิ์ชนในกรุงเปียงยาง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และวัฒนธรรม ขัดแย้งกับภาพที่เกาหลีเหนือถูกมองจากภายนอกว่าเป็นชาติที่ยากจนข้นแค้นและขาดแคลนอาหาร

ซิกลีย์มีผลงานเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ข่าวอย่าง เดอะการ์เดียนออสเตรเลีย รวมถึงเอ็นเค นิวส์

แต่ไม่มีบทความชิ้นใดเลยที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกาหลีเหนือ หรือพูดถึงการเมืองในเกาหลีเหนือ

จนบางส่วนมองว่าบทความของซิกลีย์นั้นเป็นเหมือนกับการพีอาร์ให้กับรัฐบาลเปียงยางด้วยซ้ำ

ในเว็บไซต์ของบริษัทท่องเที่ยวของซิกลีย์ที่มีชื่อว่า “ทอนกิลทัวร์” มีข้อความที่ซิกลีย์เคยโพสต์เอาไว้ เล่าว่าตนมีความชื่นชอบวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกตั้งแต่ยังเด็ก

ซิกลีย์เกิดในประเทศออสเตรเลีย ในครอบครัวที่มีพ่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษา และมีแม่เป็นชาวจีน เนื้อความอธิบายด้วยว่า ตนมักหลงใหลใน “ลัทธิสังคมนิยม” เสมอ

หลังเรียนจบมัธยมปลาย ซิกลีย์เดินทางจากเมืองเพิร์ธบ้านเกิดและไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฟู่ตัน ในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

ในช่วงเวลานี้เองที่ซิกลีย์ได้รู้จักกับนักศึกษาเกาหลีเหนือ ก่อนที่ซิกลีย์จะเริ่มต้นเรียนภาษาเกาหลี และเดินทางไปยังประเทศเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2012

 

หนึ่งปีต่อมา ซิกลีย์ก่อตั้ง “ทอนกิลทัวร์” บริษัทท่องเที่ยวให้บริการท่องเที่ยวเชิงการศึกษาในเกาหลีเหนือ โดยซิกลีย์บริหารบริษัททัวร์ไปพร้อมๆ กับการเรียนปริญญาตรีด้านเอเชียศึกษา และปรัชญา ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย หรือเอเอ็นยู จนจบ

ขณะศึกษาที่เอเอ็นยู ซิกลีย์เริ่มสนใจในวรรณกรรมและภาพยนตร์เกาหลีหนือมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเริ่มต้นหาทางสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยคิม อิล ซุง หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำในเกาหลีเหนือ

หลังพยายามนาน 2 ปี ในที่สุดซิกลีย์ได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยคิม อิล ซุง ในเดือนเมษายน ปี 2018 และเริ่มต้นเรียนปริญญาโทด้านวรรณกรรมเกาหลีนับแต่นั้น

กลายเป็นหนึ่งในนักศึกษาตะวันตกเพียงไม่กี่คนในมหาวิทยาลัย

 

ซิกลีย์แต่งงานกับ “ยูกะ โมรินางะ” นักศึกษาชาวญี่ปุ่นที่พบกันขณะเรียนในจีนเมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน โดยยูกะเคยร่วมเดินทางกับซิกลีย์เข้าไปยังเกาหลีเหนืออยู่หลายครั้ง

“เขามักจะพยายามทำให้เกาหลีเหนือไม่ใช่ประเทศที่ลึกลับอีกต่อไป ไม่เหมือนกับสื่อตะวันตก เขาพยายามที่จะเข้าใจผู้คนที่นั่น” ยูกะระบุ

ล่าสุดซิกลีย์ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของเกาหลีเหนือแล้ว โดยระบุว่าข้อกล่าวหาของเกาหลีเหนือนั้นเป็นสิ่งผิดพลาด พร้อมทั้งระบุว่า เสียใจมากที่จะไม่สามารถจบการศึกษาปริญญาโทที่กำลังศึกษาอยู่ได้ และยังคงมีความต้องการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนืออยู่

“ผมคงไม่สามารถเดินบนถนนในเปียงยางได้อีก เมืองที่อยู่ในใจของผม ผมคงจะไม่สามารถพบกับอาจารย์ เพื่อนๆ ในวงการท่องเที่ยว ผู้ที่ผมมองว่าเป็นเพื่อนสนิทได้อีกต่อไป” ซิกลีย์ระบุ