คลี่คดีฆ่าหั่นสยอง

คดีสยองรับต้นปี 2559 เมื่อมีผู้พบซากชิ้นส่วนถูกฆ่าหั่นลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2559

ตรวจสอบพบผู้ตายเป็นนักธุรกิจชาวสเปน เดวิด แบร์นัต

ก่อนจับกุมตัว นายอาร์ตูร์ เซการ์รา ปริ๊นเซป เพื่อนร่วมชาติที่ก่อเหตุฆ่า

โดยมีแรงจูงใจจากการข่มขู่เอาเงิน ซึ่งพบหลักฐานการโอนเงินกว่า 30 ล้านบาท

และหลักฐานที่มัดคนร้ายจนดิ้นไม่หลุด ก็คือภาพจากกล้องวงจรปิดขณะนายอาร์ตู ขี่จักรยานยนต์พีซีเอ็กซ์แบกถุงใส่ศพ

รวมถึงรอยเลือดของผู้ตาย ที่ติดอยู่ในซอกประตูห้องน้ำ

อีกคดีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559 เจ้าหน้าที่บุกจับแก๊งพาสปอร์ตปลอม ย่านพระโขนง แต่กลับพบตู้แช่ ข้างในมีชิ้นส่วนมนุษย์ถูกฆ่าหั่น

ตรวจสอบพบถูกฆ่ามานานกว่า 8 ปี โดยผู้ตายเป็นชาวฮังการี

ขณะที่ นายปีเตอร์ จอห์นสัน ให้การรับสารภาพเป็นผู้ลงมือ โดยเริ่มจากการทวงหนี้ แล้วรัดคอเหยื่อเสียชีวิต

สุดท้ายไม่รู้ทำอย่างไร จึงสั่งซื้อตู้แช่ขนาดใหญ่ และหั่นศพทิ้งไว้ 8 ปี

กางแผนบุกวัดพระธรรมกาย

ถือเป็นบทพิสูจน์การทำงานของเจ้าหน้าที่

เมื่อตำรวจและดีเอสไอ เร่งติดตามจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มาดำเนินคดีให้จงได้

ตามหมายจับศาลอาญาในคดีฟอกเงินและรับของโจรของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

และบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ใน จ.เลย และ จ.นครราชสีมา

ฮึ่มฮั่มกันมาแรมเดือน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องสั่งหยุดจ้อ เพราะกลัวถูกมองไร้น้ำยา

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังรอบวัด พร้อมตรวจสอบการกระทำผิดต่างๆ แจ้งข้อหาดำเนินคดีทั้งหมด 175 คดี

ทั้งบุกรุก แผ้วถางป่า พ.ร.บ.ขนส่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร กีดขวางการจราจร

รวมทั้งหมด 175 คดี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 กองร้อยบุกประชิดรั้ววัดพระธรรมกาย เพื่อขอคืนพื้นที่

พร้อมลงมือรื้อถอนแผงเหล็ก ที่กีดขวางทางสาธารณะ บริเวณถนนเลียบคลองแอน 2-3 ฝั่งประตู 5 และให้ถมดินที่ขุดถนน

ท่ามกลางลูกศิษย์วัดที่สวดมนต์เจริญภาวนา

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณให้ดำเนินการอีกครั้งหลังปีใหม่

เป็นเรื่องที่ต้องจับตาดู

2 พี่น้อง “หญิงไก่-กิมเอ็ง” สิ้นท่า

โด่งดังอื้อฉาวถึงที่สุด เมื่อ 2 พี่น้องที่เคยเป็นตัวละครในคดีประวัติศาสตร์ ทุจริตเครื่องราช เมื่อ 30 ปีก่อน

กลับมามีชื่ออีกครั้งในปี 2559 แต่ครั้งนี้เป็นในฐานะผู้ต้องหาคดีต้มตุ๋น

เมื่อกลางปี 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสอบสวนพฤติกรรมของ นางมณตา หยกรัตนกาญ ที่อ้างตัวเป็นคุณหญิงไก่ แจ้งความดำเนินคดีกับลูกจ้างในพื้นที่ สน.ประชาชื่น ทั้งหมด 9 คดี

ทุกคดีพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องหมด

เมื่อตรวจสอบพบมีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูง และค้ามนุษย์ จึงถูกจับกุมด้วยข้อหา 112 ส่งขังทัณฑสถานหญิงกลาง

รอการพิจารณาคดี

ส่วนพี่สาว นางกิมเอ็ง แซ่เตีย ที่กลับมาในชื่อ ดร.กมนทรรศน์ ธนธรณโฆษิตจิร หรือแม่ตุ่ม ก็ถูกจับกุมหลังพบออกรายการโทรทัศน์อ้างตามเสด็จบุคคลชั้นสูง

มีเจ้านายมอบดอกไม้พระราชทานเนื่องในวันเกิด

หลอกหลวงเงินเจ้าของบริษัทเอกชนต่างๆ โดยมีอดีตข้าราชการสำนักพระราชวังร่วมด้วย

หลังจับกุมดำเนินคดี รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

ศาลพิพากษาจำคุก 50 ปี พร้อมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด

ดีเจเก่งเกียร์อาร์-น็อตกราบรถ

ไม่น่าเชื่อว่าคดีจราจรเล็กน้อยจะทำลายชีวิตคนลงได้

สายวันที่ 8 มกราคม 2559 โลกออนไลน์แห่แชร์คลิป นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือดีเจเก่ง อายุ 35 ปี ดีเจคลื่นวิทยุสวีท 8935 วิทยุราชมงคลธัญบุรี ขับโตโยต้าวีโก้ สีดำ

ขับรถเฉี่ยวชนคู่กรณีที่ขับเก๋งยาริส ใกล้ดินแดง พร้อมอ้างว่าถูกชนท้าย และระบุว่า “ต้องขอความเห็นใจด้วยครับ เจอคนแบบนี้ในสังคมแบบนี้ แย่มากครับ”

แต่ภาพที่ปรากฏคือ ดีเจเก่ง ถอยรถพุ่งชนเก๋งยาริสถึง 3 ครั้งซ้อนๆ

ถูกสังคมถล่ม ต้นสังกัดไล่ออก และถูกดำเนินคดี

อีกกรณีเกิดขึ้นเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2559 โลกโซเชียลแชร์วิดีโอ ดารานักแสดงวัยรุ่น น็อต-อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล อายุ 28 ปี กระชากคู่กรณีที่ขับจักรยานยนต์เฉี่ยวชนมินิคูเปอร์ สีเหลือง เหตุเกิดที่ปากซอยเจริญกรุง 44

พร้อมชกเข้าที่ใบหน้า จนดั้งจมูกหัก แล้วลากมาตะคอกให้กราบรถกู

สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

หนำซ้ำดาราหนุ่มยังให้สัมภาษณ์อย่างไม่สำนึกผิด อ้างการปกป้องทรัพย์สินที่เหมือนเป็นความฝัน ส่วนเรื่องค่าเสียหายก็แบ่งรับแบ่งสู้ จนถูกสังคมถล่มยับ

แกรมมี่ต้นสังกัดสั่งตัดหาง เพื่อนร่วมวงการรุมประณามรุนแรง

หมดอนาคตไปอีกคน

ไฟใต้รุกคืบ-บึ้มสนั่น 7 จังหวัด

เป็นเหตุความรุนแรงที่ขยายตัวขึ้นมาจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ สำหรับกรณีการวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน

คร่าชีวิตชาวบ้านที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไปถึง 4 ราย บาดเจ็บอีกครึ่งร้อย

เริ่มต้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 สิงหาคม 2559 เมื่อเกิดเหตุวางเพลิงหน้าโรงแรมพาราไดซ์ และตลาดไชน่าทาวน์ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต

ตามมาด้วยการวางระเบิดและวางเพลิงในอีก 6 จังหวัด ประกอบด้วย ตรัง สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ และกระบี่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งไปประเด็นทางการเมือง ล็อกตัวเข้าค่ายทหารหลายต่อหลายคน

แต่สุดท้ายก็มุ่งมาเรื่องไฟใต้

เมื่อพบหลักฐานส่วนใหญ่เป็นระเบิดแสวงเครื่อง แบบทำให้เกิดเพลิงตั้งเวลาด้วยโทรศัพท์มือถือ ซัมซุงฮีโร่

เหมือนที่เกิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้

จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 13 คน รวม 11 คดี และตามล็อกผู้ต้องหาได้ 2 ราย ประกอบด้วย นายอับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

อีกคนคือ นายมูฮัมหมัด มูฮิ อายุ 20 ปี ชาว อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ย้ำว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบภาคใต้ ลุกลามก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ

ฎีกาคุกตลอดชีวิตครรชิต

อีก 1 คดีดังที่มีบทสรุปในปี 2559

สำหรับกรณีที่ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายครรชิต ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์

ที่รัวยิงนายกตุ่น นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร คาปั๊มน้ำมันเมื่อปี 2554

โดยคดีนี้มีต้นเหตุจากความแค้นที่ถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี เพราะนายกตุ่น เคยมีเลขาฯ สาวคนหนึ่ง ที่มีความสนิทสนมกัน

ต่อมาก็ไปรู้จักกับนายครรชิต แต่นายกตุ่นมักพูดจาพาดพิง สร้างความไม่พอใจ

จนสุดท้ายเมื่อมาเจอกันในปั๊มน้ำมันก็เกิดเหตุสลดขึ้น

ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต ต่อมาในชั้นศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นจำคุกตลอดชีวิต

เมื่อมาถึงศาลฎีกาพิพากษายืน โดยพิจารณาในประเด็นว่ากรณีนี้เป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่

ทั้งนี้ ศาลเห็นว่า แม้นายกตุ่นจะชอบพูดจาหยอกล้อถึงผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายครรชิตรับรู้ถึงคำพูดดังกล่าว จึงยังมีข้อน่าระแวงสงสัย

เพราะนายครรชิตอาจไปพบนายกตุ่นโดยบังเอิญ และตัดสินใจยิงผู้ตายในทันที

พฤติการณ์แห่งคดี จึงยังไม่พอรับฟังว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ประหารหมอนิ่มจ้างฆ่าเอ็กซ์

เป็นคดีที่ได้บทสรุปจากคำพิพากษาศาลชั้นต้น

สำหรับคดีคนร้ายขี่จักรยานยนต์ประกบยิงเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักยิงปืนทีมชาติ เสียชีวิตคารถปอร์เช่ ขณะกลับบ้านที่ย่านมีนบุรี เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2556

เมื่อศาลมีนบุรีพิพากษาประหารชีวิตสถานเดียว หมอนิ่ม นิธิวดี ภู่เจริญยศ และ นายสันติ อี๊ด ทองเสม ทนายความที่เป็นผู้ติดต่อจ้างวานมือปืน

พร้อมสั่งจำคุกตลอดชีวิต นายจิรศักดิ์ กลิ่นคล้าย มือปืน และ นายธวัชชัย เพชรโชติ คนขี่จักรยานยนต์

ยกฟ้อง น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา แม่หมอนิ่ม ที่ออกรับแทน

โดยศาลรับฟังจากพยานที่ให้การว่าหมอนิ่มเป็นผู้จ้างวานในราคา 1.2 ล้านบาท เนื่องจากทนไม่ไหวที่ถูกทำร้ายร่างกายจนแท้งลูก

แม้จะกลับคำให้การว่าเป็นแม่หมอนิ่มว่าจ้าง แต่ก็ยังรับฟังไม่ได้ จึงต้องยกประโยชน์ให้จำเลย

ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่า เหตุการณ์ที่เอ็กซ์กระทำ ไม่ว่าจะทำร้ายร่างกาย พาผู้หญิงอื่นมาค้างที่บ้าน ไม่ให้เกียรติ ผลักศีรษะและท้าทายให้เลิกกันต่อหน้าหญิงอื่นที่มีความสัมพันธ์กับเอ็กซ์

ย่อมสร้างความขุ่นเคืองและนับเป็นฟางเส้นสุดท้ายต่อความอดกลั้นและอดทนต่อพฤติกรรมที่มีปัญหาติดยาเสพติด ความเจ้าชู้ และการใช้ความรุนแรง

นำไปสู่คำสั่งฆ่า