โลกโซเชี่ยลกับนิยายใต้คีย์บอร์ด “ไม่มีใคร อยากเห็น เราเด่นเกิน” / ฉบับประจำวันที่ 12-18 กรกฎาคม 2562

บทบาททางการเมืองทั้งในและนอกสภา อันโดดเด่น ของพรรคอนาคตใหม่
ไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การต่อต้านการสืบทอดอำนาจ การบุกการเมืองส่วนท้องถิ่น การตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ ฯลฯ ที่นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช นั้น
ได้กลายเป็นเป้าหมายแห่งการสนับสนุน และทำลาย ของคนในสังคมอย่างกว้างขวาง
การสนับสนุน คงไม่เป็นอะไรมาก เพราะเป็นเรื่อง “บวก”
แต่ในเรื่องการทำลายนั่นสิ คือประเด็น ที่ต้องร่วมพิจารณา
การไม่ชอบพรรคอนาคตใหม่ ทั้งแนวทางหรือตัวบุคคลเป็นสิ่งที่ “ยอมรับได้”
หากอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล และความเป็นประชาธิปไตย
แต่การงัดเอาสิ่งที่อยู่ใต้คีย์บอร์ดมาทำลายล้างกันอย่างรุนแรง สกปรก ละเมิดต่อศีลธรรม และไม่คำนึงแนวทางประชาธิปไตย
ย่อมไม่ใช่สิ่งที่พึงประสงค์แน่นอน

ในโลกโซเชียลมีเดียตอนนี้ “สื่อ” และกลุ่มบุคคล ที่มีจุดยืนต่อต้านนายธนาธร และช่อ “พรรณิการ์”
มิได้วางขอบเขตการวิพากษ์วิจารณ์ เฉพาะเรื่องงาน หรือบทบาทที่ทีผลกระทบต่อส่วนรวมเท่านั้น
หากแต่ใช้ “คียบอร์ดใต้ดิน” บุกทะลวงเข้าไปทำลายฝ่ายตรงข้าม ในทุกรูปแบบ
ทั้งการกุข่าวลวง ว่าการที่นายธนาธรเดินทางไปยุโรปขณะนี้ ก็เพื่อหลบหนีคดีการถือหุ้นสื่อมวลชน ที่ประเมินแล้วว่าอาจเจอโทษหนักถึงขั้นถูกจำคุก
ยิ่งกว่านั้น ยังต้้งข้อสังเกตุว่า การที่ น.ส.พรรณิการ์ร่วมเดินทางไปด้วยนั้น
ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องงาน
หากแต่ มีประเด็นอื้อฉาวอื่นด้วย
และแล้วหลายคนโลกโซเชี่ยลมีเดียก็ได้อ่าน”นิยายใต้คีย์บอร์ด”
ซึ่งแน่นอน ผู้เสียหายย่อมเป็นฝ่ายผู้หญิง หรือความจริงฝ่ายชายก็กระทบด้วยเพราะมีครอบครัวแล้ว
แต่วิธีการสกปรกเช่นนี้ก็ถูกนำมาใช้ กับ”นักการเมือง”ที่กำลังโด่งดังอย่างไม่ปราณีปราศรัย
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับ “ช่อ” พรรณิการ์ ที่กำลังท้าทายกับการแต่งกายในสภา
ยังต้องเจอ การปลุกกระแส #ดักตบอีช่อ #อีช่อหนักแผ่นดิน #อีช่อคอสั้น #อีช่อคางทูม
ซึ่งอาจนำไปสู่ปฏิบัติการรุนแรงต่่อกันได้ง่าย
เพราะนี่คือการปลุกระดมกันแบบโต้งๆ–พวกมึงกูไม่เอา

มีความพยายามเข้าใจสถานการณ์ว่า อาจเพราะ “ไม่มีใคร อยากเห็น เราเด่นเกิน” จึงนำไปสู่ปรากฏการณ์อันไม่พึงประสงค์นี้
แต่กระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นไปไกลถึงขนาด สร้างข่าวลือ ปลุกระดมให้กระทำรุนแรงต่อกัน
ย่อมเป็นภาวะที่ไปไกล
จนเกินจะรับไหว

——————–