การศึกษา / ศธ.เตรียมรับ รมต. ‘น้องใหม่’ ‘ณัฏฐพล-กนกวรรณ-คุณหญิงกัลยา’??

การศึกษา

 

ศธ.เตรียมรับ รมต. ‘น้องใหม่’

‘ณัฏฐพล-กนกวรรณ-คุณหญิงกัลยา’??

 

คาดว่ารัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 สมัยที่ 2 จะได้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เร็วๆ นี้ หลัง พล.อ.ประยุทธ์ได้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เรียบร้อยแล้ว

โดยโผล่าสุดของล่าสุด หน้าตาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น ว่าที่เสมา 1 ตกอยู่ที่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่วนรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.อีก 2 คน คือ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

เดิมมีกระแสข่าวว่านายณัฏฐพลเป็นเต็งหนึ่งนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แต่ท้ายสุดโผพลิก มีชื่อนั่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ. โดยจับสัญญาณจากที่เจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์ หลังยื่นเอกสารประวัติและคุณสมบัติรัฐมนตรี ต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ว่า

“ถ้าเลือกได้ ก็อยากทำอะไรที่เกี่ยวกับการศึกษา เนื่องจากคิดว่าพอมีประสบการณ์มาบ้าง โดยเคยทำเรื่องการศึกษาในโรงเรียนเอกชนนานาชาติ เคยติดต่อกับต่างประเทศ จึงต้องการนำความรู้ส่วนนี้มาช่วยแก้ไขปัญหาของการศึกษาในประเทศไทย ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นงานที่ตัวเองถนัด”

นอกจากนี้ คนใกล้ตัวอย่างนางทยา ศรีวิกรม์ ภรรยาย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก สื่อเป็นนัยว่า ขอฝากรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการ ศธ.แก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นที่เป็นปัญหาหลักของชาติ และปลูกฝังเยาวชนให้มีจิตสำนึกของความซื่อสัตย์ และมีจิตสาธารณะเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน และควรนำไปเป็นวาระแห่งชาติพร้อมกับการปฏิรูปการศึกษา

จนมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า หรือรัฐมนตรีว่าการ ศธ.จะมี 1 แถม 1??

 

ที่มาที่ไปของนายณัฏฐพลถือว่าไม่ธรรมดา ด้วยวัย 53 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจ และโลดแล่นอยู่วงการการเมืองมาหลายปี มีทรัพย์สินมากกว่าหลายร้อยล้านบาท

นายณัฏฐพล หรือตั้น เกิดวันที่ 29 พฤษภาคม 2509 ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา จบปริญญาโท มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เป็นบุตรนายวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ อดีตประธานกรรมการ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง, บมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.ประกันชีวิต, บมจ.ศรีอยุธยาประกันภัย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา และนางจันทิมา ทีปสุวรรณ

แต่งงานกับนางทยา ศรีวิกรม์ บุตรสาวนายเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เจ้าของผู้ก่อตั้งอาณาจักรธุรกิจ บมจ.อุตสาหกรรมพรมไทย (พรมไทปิง) บมจ.แผ่นดินทองพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ และโรงเรียนศรีวิกรม์

นายณัฏฐพลทำธุรกิจก่อนเล่นการเมือง เป็นผู้บริหารพรมไทปิง บริษัทออกแบบตกแต่งภายใน ก่อนจะผันตัวเองเข้าสู่วงการเมือง โดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครั้งแรกเมื่อปี 2550 สังกัด ปชป. แม้จะสอบตก แต่ได้ตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค เป็นการปลอบใจ

หลังนายณัฏฐพลลาออกจาก ส.ส.และสมาชิกพรรค ปชป. ได้เข้าไปเป็นหนึ่งในแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ร่วมเป่านกหวีดกับสุเทพ เทือกสุบรรณ ในช่วงวิกฤตการเมืองปี 2556-2557

การชุมนุมครั้งนี้ นางทยาได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส.เคียงข้างสามีอีกด้วย!!

 

หลังกระแสข่าวมาแรงแซงโค้งว่านายณัฏฐพลจะเข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ ศธ. มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายๆ ฝ่ายถึงผลประโยชน์ที่ทับซ้อน และความเหมาะสม เพราะเป็นเจ้าของ “โรงเรียนนานาชาติรักบี้สคูล ไทยแลนด์” ที่พัทยา และเคยเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส.

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น มองว่าไม่มีผลกระทบ เพราะนายณัฏฐพลถือเป็นนักการเมืองที่มากประสบการณ์ ต้องแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวออกจากการทำงานได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ. นายณัฏฐพลควรลาออกจากตำแหน่งบริหารทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะมีเสียงครหาตามมาเช่นเดิม

“ขอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนใหม่หนักแน่นในหลักการ ให้โอกาส เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน เปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา เพราะปัจจุบันประชาชนตื่นตัวทางการเมือง ตื่นตัวเรื่องสิทธิของตน การเรียกร้องสิทธิมาแรงมาก ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ต้องเปิดกว้างรับฟังทุกฝ่าย พร้อมเดินหน้าสานต่อในการแก้ไขปัญหาทุจริตที่รัฐบาลชุดก่อนได้ปูทางไว้”

ด้านนายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ระบุว่า เชื่อว่ารัฐบาลจะเลือกคนที่เหมาะสมมาดูแล ศธ. ส่วนที่นายณัฏฐพลเป็นเจ้าของโรงเรียนเอกชน ไม่น่าจะมีปัญหา

ขณะที่นายศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) เห็นว่านายณัฏฐพลมีความเหมาะสม เพราะเป็นทั้งนักธุรกิจ และนักการศึกษา น่าจะเข้าใจปัญหาการศึกษาเป็นอย่างดีว่าควรจะพัฒนาแก้ไขอะไรเป็นอย่างแรก

หากไม่ผิดโผไปจากนี้ นายณัฏฐพลจะต้องร่วมงานกับรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.อีก 2 ราย คือ นางกนกวรรณ และคุณหญิงกัลยา ซึ่งมีคำถามตามมาว่า เมื่อทั้ง 3 รัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองที่ต่างกัน จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่??

ประเด็นนี้ ศ.ดร.สมพงษ์วิเคราะห์ว่า รัฐมนตรีทั้ง 3 คนมาจากพรรคการเมืองที่ต่างกัน จึงยังไม่เห็นทิศทางการศึกษาของประเทศว่าจะเป็นทางไหน แต่ในภาพรวมพอรับได้ เพราะทั้ง 3 คนมาจากการเลือกตั้ง ดีกว่ามาจากการรัฐประหาร แม้จะมาจากการจัดโควต้ารัฐบาลก็ตาม ถือเป็นตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ อย่างนายณัฏฐพลถือเป็นตัวแทนจากภาคเอกชน หรือนางกนกวรรณเป็นตัวแทนจากส่วนท้องถิ่น และคุณหญิงกัลยาเป็นตัวแทนจากภาควิทยาศาสตร์

แต่ถ้ารัฐมนตรีทั้ง 3 คนทำงานร่วมกัน มีเป้าหมายและความชัดเจนในการพัฒนาการศึกษา เชื่อว่าการศึกษาของประเทศจะดีขึ้น แต่ถ้าต่างคนต่างทำงาน ไม่ปรึกษาหารือกัน ไม่เน้นการทำงานอย่างมีส่วนร่วม จะเป็นเบี้ยหัวแตก การศึกษาไม่ได้รับการพัฒนา

และเสียเวลาไป 5 ปี อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน!!

 

แต่ไม่ว่าใครก็ตาม ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ. จะต้องเตรียมตัวรับมือปัญหาต่างๆ ที่จะถาโถมเข้ามาไม่ขาดสาย รวมทั้งปัญหาเดิมๆ ที่รอการแก้ไขมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษา ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศ รวมถึงปัญหาทุจริต ทั้งการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ทุจริตครุภัณฑ์ และการทุจริตอื่นๆ ที่ถูกซ่อนไว้ใต้พรม

จะถูกขุดขึ้นมาเพื่อสะสางให้สิ้นซากได้หรือไม่??

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่รอรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นหลักเกณฑ์การรับนักเรียนปีการศึกษา 2563 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) การเปลี่ยนแปลงการพิจารณาความผิดของจรรยาบรรณวิชาชีพครู ที่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เตรียมยื่นเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา

รวมทั้งการสรรหาผู้บริหารระดับต่างๆ ของ ศธ.ที่ยังว่าง และเป็นปัญหา โดยเฉพาะมีซี 11 ถึง 3 ราย ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ทั้งนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ., นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

  เรียกว่ามี “งาน” และ “ปัญหา” ยาวเป็นหางว่าว รอรับ 3 รัฐมนตรี “น้องใหม่” มาสะสาง!!