วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร /บทจบ เอี้ยก่วย เจ้าอินทรี (จบ)

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

บทจบ เอี้ยก่วย เจ้าอินทรี (จบ)

 

เพราะว่าฉายาของจิวแป๊ะทงคือ “เฒ่าทารก” จึงสร้างเซอร์ไพรส์ให้แก่ยุทธจักรอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะเป็นผู้อาวุโสแห่งสำนักช้วนจิน แต่ก็มิได้ครองตนเป็น “นักพรต” อย่างเคร่งครัด

มิฉะนั้นก็คงไม่ก่อกรณีพันพัวกับ “เอ็งโกว”

สถานการณ์ครานี้แม้ว่าอึ้งเอี๊ยะซือ อึ้งย้ง จะประเมินว่าตนเองเข้าใจจิวแป๊ะทงอย่างถ่องแท้ กระทั่งเอี้ยก่วยเองก็โน้มเอนไปอย่างนั้น

แต่พลันที่รับฟังการถกเถียงเรื่องของอึ้งย้ง เรื่องของเซียวเล้งนึ่ง จิวแป๊ะทงปรบมือ กล่าวอย่างยิ้มแย้ม

“วิเศษ วิเศษแท้ ขอบอกตามความสัตย์

อึ้งเล่าเซี้ยท่าน ก๊วยไต้เฮียบอันใด เราล้วนไม่ยอมรับนับถือ มีแต่เด็กหญิงอึ้งย้งเจ้าเล่ห์แสนกล เฒ่าทารกพอพบพานนางก็ถูกมัดมือมัดเท้า ไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ให้นางอยู่ในทำเนียบยอดคนทั้ง 5 นับว่าประเสริฐสุด”

ทุกผู้คนพอฟังล้วนงงงันวูบ

เป็นความงงงันวูบเพราะคาดไม่ถึง เนื่องจากที่เคยวิเคราะห์วิจัยเอาไว้นั้นผิดพลาด คลาดเคลื่อนอย่างสิ้นเชิง

 

กิมย้งอรรถาธิบายตามสำนวนแปลของ น.นพรัตน์ ว่า หากเอ่ยถึงความสูงเยี่ยมของฝีมือแม้แต่อึ้งเอี๊ยะซือ อิดเอ็งไต้ซือ ล้วนสำนึกตัวว่าอ่อนด้อยกว่าจิวแป๊ะทงอยู่ 3 ส่วน

ดังนั้น ไม่เอ่ยถึงชื่อเฒ่าทารก จิวแป๊ะทง

เพียงสัพยอก ล้อเล่น คิดล่อลวงให้เฒ่าทารกร้อนรุ่ม กระวนกระวาย แลกกับความเบิกบานใจลึกๆ ของตน

หากคาดไม่ว่า จิวแป๊ะทง บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา

ในใจไม่มีเหลี่ยมเล่ห์เพทุบาย มาตรว่าชมชอบวิชาบู๊ แต่ไม่มีความคิดช่วงชิงความเป็นใหญ่ สร้างชื่อเสียงเกริกไกร ไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองสมควรอยู่ในทำเนียบยอดคนทั้ง 5 หรือไม่

ยามนั้นอึ้งเอี๊ยะซือยิ้มพลางกล่าว

“เฒ่าทารกเอย เฒ่าทารก ท่านยอดเยี่ยมจริงๆ เราอึ้งเล่าเซี้ยเห็น ‘ชื่อเสียง’ เป็นสิ่งชืดชา อิงเอ็งไต้ซือ ‘ชื่อเสียง’ เป็นภาพลวงตา มีแต่ท่านที่ในใจเวิ้งว้างว่างเปล่าไม่มีความคิดคำนึงถึง ‘ชื่อเสียง’ แม้แต่น้อยนิด เปรียบกับพวกเรายังเหนือล้ำกว่าชั้นหนึ่ง

ระหว่างภูตบูรพา ผยองประจิม ผู้กล้าอุดร หลวงจีนทักษิณ กลาง เฒ่าทารก ทั้ง 5 ยอดคนนับท่านอยู่อันดับแรก”

 

นี่ย่อมเป็นจุดที่ลงตัวอย่างที่สุด จุดลงตัวระหว่างผู้อาวุโสกับผู้มาใหม่ จุดลงตัวระหว่างคลื่นลูกแรกกับคลื่นลูกหลัง โดยมี “กลาง” เป็นตัวเชื่อม

แน่นอน กลางย่อมหมายถึงเฒ่าทารก จิวแป๊ะทง

อย่าได้แปลกใจหากทุกผู้คนพอได้ยินคำ “ภูตบูรพา ผยองประจิม ผู้กล้าอุดร หลวงจีนทักษิณ กลาง เฒ่าทารก”

พากันโห่ร้องชมเชยออกมา และอดรู้สึกน่าหัวร่อมิได้

โห่ร้องชมเชยในความเหมาะเจาะกับฉายา ภูตบูรพา อันอึ้งเอี๊ยะซือได้มาอย่างยาวนาน ในความสมควรของหลวงจีนทักษิณ อิดเอ็งไต้ซือนับว่าเป็นผู้มาก่อน

ขณะเดียวกันก็เห็นด้วยกับ กลาง เฒ่าทารก จิวแป๊ะทง

นี่ย่อมเข้าไปสอดสวมกับสถานะอันเฮ้งเต้งเอี้ยง เจ้าสำนักผู้ก่อตั้งสำนักช้วนจินได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะว่าจิวแป๊ะทงก็เติบใหญ่และสานต่อวิทยายุทธ์ของสำนัก

ขณะเดียวกันก็เห็นด้วยกับผู้กล้าอุดร ของก๊วยเจ๋ง เพราะเป็นผู้ได้รับการถ่ายทอดวิทยายุทธ์ของขอทานเฒ่า อั้งชิดกง ได้อย่างครบถ้วน และเห็นด้วยกับเอี้ยก่วย ในฉายาที่ต่อเนื่องมาจากพิษประจิม อาวเอี้ยงฮง

ยอดคนทั้ง 5 เมื่อได้รับการวางตัวเป็นที่เรียบร้อย ทุกผู้คนล้วนปีติยินดี ครั้นแล้วแยกย้ายออกท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ตามที่ต่างๆ ของภูเขาฮั้วซัว

 

เด่นชัดว่าทุกอย่างได้เดินทางมาถึงบทจบแล้ว เรื่องราวของเอี้ยก่วยกับเซียวเล้งนึ่งก็สมควรถึงตอนอวสาน ในเมื่อทุกอย่างสบสมอารมณ์หมายทุกประการ

แต่กิมย้งก็เป็นกิมย้ง

เมื่อถึงตอนจบของมังกรหยก ภาค 1 ก็จบในบทว่าด้วยการประลองยุทธ์วิจารณ์กระบี่ที่เขาฮั้วซัว เป็นการทิ้งปมเอาไว้ก่อนเข้าสู่มังกรหยก ภาค 2 นั่นก็คือ เป็นการสืบสานจากวีรกรรมหาญกล้าของตระกูลก๊วยมายังวีรกรรมหาญกล้าของตระกูลเอี้ย

พลิกบทบาทจากความเลวร้ายของเอี้ยคังมาอยู่ในมือของเอี้ยก่วย