เรือเหล็ก ล.ลิงหาย โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————–

เรือเหล็ก ล.ลิงหาย

—————————

ปฏิบัติการ”จิตวิทยา”เชิงข่าว

สะกัด ไม่ให้ ล.ลิง หายไปจาก พรรคพลังประชารัฐ

เพื่อไม่ให้ “พลัง”ประชารัฐ กลายเป็น “พัง”ประชารัฐ

กำลังดำเนินไปอย่างขมีขมัน

ที่ต้อง ยกนิ้วให้อีกตามเคย คือ “นายวิษณุ เครืองาม”

ที่ชิงนิยาม รัฐนาวา ประยุทธ์ 2 /1 ไปเรียบร้อย

นั่นคือ จาก”เรือแป๊ะ”เป็น”เรือเหล็ก”

ระวางขับน้ำใหญ่ขึ้น รับผู้โดยสารได้มากขึ้น

กระนั้นได้ชิงดักคอว่าถึงเรือเหล็กจะแข็งแรง

แต่ก็มีโอกาสจม อันเนื่อมาจาก “สนิมเกิดแต่เนื้อในตน”

ชี้จุดแข็ง จุดอ่อน ได้คมคาย

ยากที่จะ”นิยาม รัฐนาวา”ประยุทธ์2/1 อย่างอื่นมาแข่ง

โดยเฉพาะ ฝ่ายที่เห็นต่าง

นั่นคือ แม้จะเห็นด้วยว่า แป๊ะ พาเรือลำเดิม มาถึงฝั่งแล้ว

และได้เปลี่ยน พาหนะ รับผู้โดยสารใหม่ ซึ่งแน่นอน ไม่ได้หรูเลิศ เป็น “เรือเหล็ก”

หากแต่เป็น “แพ”

“แพ”ที่รวบรวมเอาไม้นานาพันธุ์ ตั้งแต่ไม้ซีก ยันไปถึงต้นซุง มามัดรวมกันไว้ตามอัตภาพ

ซึ่งดูแล้ว ไม่มีใครสามารถการันตี หรือรับประกันได้

ว่า “แพ”นี้ จะ “แตก”เมื่อไหร่”

เพราะไม้อย่างน้อย 20 สายพันธุ์ ที่เอามามัดรวมกันนั้น ไร้ซึ่งเอกภาพ เสถียรภาพ โดยสิ้นเชิง

เจอ คลื่นกระแทก เจอ ความแตกต่างหลากหลาย เข้าไปไม่กี่ละลอก ก็มีสิทธิแตก

อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกข้างต้น ด้วยความเชี่ยวชาญของ นายวิษณุ เครืองาม

รัฐนาวา ถูกเปรียบเป็นคำว่า “เรือเหล็ก”

และชิงติดตลาดมากกว่า คำว่า “แพ” ไปเสียแล้ว

จึงทำให้ รัฐบาลนี้ ดูดี ขึ้นพอสมควร

และที่ หน่วยกู้ภาพพจน์ กำลังเร่งมือไม้กันละวิง อยู่ตอนนี้อีกเรื่อง ก็คือ

การพยายามสร้างภาพ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สยบเหนือ กว่านักการเมือง

โดยเฉพาะ เหล่าบรรดาเขี้ยวลากในพรรคพลังประชารัฐ

กลุ่มสามมิตรถูกนำมา เป็น “สินค้าตัวอย่าง”

แสดงให้เห็นว่า นักการเมืองที่พยศ จะต้องเจอวิบากกรรม”กลืนเลือด”อย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ ถูกทำให้ มีภาพ

ผู้นำซึ่งมีกองทัพเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้

มีวุฒิสภา เป็นพวก

มีรัฐธรรมนูญ และนานากลไก ผ่านองค์กรอิสระทั้งหลาย เป็น เครื่องมือ

ทำให้ แม้จะมี อุบัติเหตุเกิดขึ้นภายใน 5 ปีข้างหน้า ก็สามารถกลับมาสู่อำนาจ ได้อีก

ดังนั้น ใครอย่ามาหือ โดยเฉพาะ นักการเมือง ที่มีภาพพจน์ “ระดับล่าง”

จะมาเทียบกับอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารได้อย่างไร

นี่คือภาพพจน์ ที่จะต้องรีบสร้างขึ้นมา เพื่อกดทับให้นักการเมื่อง “สงบราบคาบ”

เลียนแบบ”เปรมโมเดล”

ซึ่งตอนนี้ “ทิศทาง”ก็เป็นไปตามที่กำหนด อยู่ตามสมควร

ทั้งนี้ คงต้องรอดูรายชื่อ คณะรัฐมนตรีที่ออกมาว่าจะเป็นไปตามที่พล.อ.ประยุทธ์ กำหนดจริงหรือไม่

และที่ต้อง ดูต่อไป นั่นก็คือการเขียน นโยบาย ซึ่งคงไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ เพียงพรรคเดียวที่ต้องต่อรอง

หากแต่ ต้องเจรจาต่อรองกับอีก 20 พรรค

ซึ่งหาก พล.อ.ประยุท์ สามารถ กำหนดทิศทางได้อย่างที่ต้องการ

ก็คงต้องถือว่าสอบผ่าน ในการนำเรือเหล็กออกจากท่า

แต่ถ้าออกทุลักทุเล เช่นเอาหลัง หรือข้างออก

หรือฝ่าคำเตือน “เรือเหล็ก ล.ลิงหายกลายเป็นเรือเล็กไม่ควรออกจากฝั่ง”

ก็ควรมาทบทวนกันใหม่ และอาจ ติดถุงใส่อาเจียน ไปด้วย

เพราะอาจเผชืญคลื่นแรง “เมาเรือ”จนต้องคายของเก่าทิ้งก็ได้

และที่สำคัญ อย่าประมาท “นักการเมือง” เห็นคอตก สงบเหงี่ยม เป็นแมวเหงานั้น

“จมูก”รับกลิ่นยังดีเยี่ยม

ได้กลิ่นอะไรที่ตอบสนอง”ตัณหา”ได้ แมวก็อาจเป็นเสือได้บัดดล

โดยเฉพาะในภาวะเรือปริ่มน้ำ นักการเมืองเขี้ยวลาก เขาไม่รอให้เกิด”สนิม”หรอก มันช้า

เห็น “ล.ลิง”หายจาก”เรือเหล็ก” กลายเป็นเรือเล็ก เมื่อใด

ก็พากันเผ่นหนีแล้วล่ะนาย

——————–