“งู” ยังไม่ “เห่า” ?

ว่ากันว่าทุกครั้งที่มีการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่

จะมีคน 2 กลุ่มเกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาล

กลุ่มหนึ่งดีใจเพราะมีรายชื่ออยู่ในคณะรัฐมนตรี

อีกกลุ่มหนึ่งไม่พอใจเพราะ “อกหัก”

ทั้ง “อกหัก” ที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี

และ “อกหัก” ที่แม้จะได้เป็นรัฐมนตรี

แต่เป็นกระทรวงที่ต่ำกว่าความคาดหวัง

ภาวะความอกหักนี้มีลักษณะคล้าย “สนิม”

“สนิม” ของ “เหล็ก” ไม่ได้เกิดขึ้นจากที่ใด

แต่เกิดจากตัวเหล็กนั่นเอง

สนิมจุดเล็กจะขยายตัวกัดกร่อนจนเหล็กที่แข็งแกร่งหักโค่นลงได้

“สนิมเกิดแต่เนื้อ ในตน

กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร้ำ”

โคลงโลกนิติเขากล่าวไว้

ยิ่งรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาล “เสียงปริ่มน้ำ”

มีเสียงเกินครึ่งแค่ไม่กี่เสียง

ทุกคะแนนจึงมีความหมาย

ถ้าใช้หลักการบริหารการเมืองของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่บอกว่าการเมืองไม่ใช่ทำให้คนพอใจมากที่สุด

แต่ต้องทำให้คนไม่พอใจน้อยที่สุด

การฟอร์ม ครม.ของ “บิ๊กตู่” ครั้งนี้คงจะมีคำตอบว่าคนไม่พอใจมากหรือน้อยเพียงใด

เสียงคำรามของพรรคชาติพัฒนาที่มีเค้าว่าจะไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรีตามคำสัญญา

หรือเสียงน้อยใจของ “ดำรงค์ พิเดช” พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย

จึงเป็นเสียงที่น่ากังวลใจอย่างยิ่งสำหรับรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ

แต่การเมืองยุค “ปฏิรูปการเมือง” แบบ คสช.

เมื่อสูตรคำนวณ ส.ส.ของ กกต.ยังยอมสีข้างถลอกได้

การนับเสียง ส.ส.ที่สนับสนุนรัฐบาลจึงไม่ได้นับแค่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล

แต่นับรวมจำนวน “งูเห่า” ที่ฝังตัวอยู่ในพรรคฝ่ายค้านด้วย

อย่าแปลกใจที่ “แกนนำ” ของพรรคร่วมรัฐบาลจะโชว์ศักยภาพ “นอกระบบ” ทาบทาม ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าสังกัด

มีการนัดกินข้าวแล้วถ่ายรูปส่งไปให้ “ผู้มีอำนาจ” ดู

หรือล่าสุดแกนนำพรรคขนาดกลางประกาศในที่ประชุม ส.ส.ว่าพรรคเราไม่ได้มีแค่ 50 กว่าคน

แต่มี 60 คน

อีก 9 คนมาจากไหน

ไม่ต้องถาม

แต่มีจริงแน่นอน

ถามว่าทุกคนทำเพื่อ “ลุงตู่” หรือ

คำตอบคือ “ไม่ใช่”

ทุกคนทำเพื่อตัวเอง

อยากเป็นรัฐมนตรีนานๆ